ไลฟ์สไตล์

ดูแลสุขภาพ : อาการไข้สูงในเด็ก

ดูแลสุขภาพ : อาการไข้สูงในเด็ก

21 ต.ค. 2557

ดูแลสุขภาพ : อาการไข้สูงในเด็ก

 
                            โดยทั่วไปแล้วถ้าเราวัดไข้เด็กแล้วมีอุณหภูมิตั้งแต่ 37.8 องศาเซลเซียสขึ้นไป แสดงว่ามีไข้ แต่ถ้าวัดไข้แล้วอุณหภูมิตั้งแต่ 38.5 องศาเซลเซียส ถือว่ามีไข้สูง
 
 
 
วิธีการวัดไข้
 
 
                            1. ควรสลัดปรอทให้ต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส ก่อนวัดไข้ทุกครั้ง
 
                            2.ถ้าเป็นเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปี หรือยังไม่สามารถอมปรอทได้ ให้วัดทางรักแร้โดยหนีบไว้แน่นๆ อย่างน้อย 3-5 นาที โดยสังเกตว่าปรอทต้องอยู่กึ่งกลางรักแร้ และเมื่อหนีบปรอทไว้จนครบแล้ว ได้อุณหภูมิเท่าไรให้บวกเพิ่มอีก 0.5 องศาเซลเซียส เช่น ถ้าวัดปรอททางรักแร้ได้อุณหภูมิ 37.5 องศาเซลเซียส แสดงว่าอุณหภูมิร่างกายจริงเท่ากับ 38 องศาเซลเซียส ถ้าเป็นปรอทวัดไข้แบบดิจิทัล คือ มีตัวเลขขึ้นเลยไม่ต้องบวกเพิ่ม
 
                            3. ถ้าเป็นเด็กที่โตแล้ว ให้วัดทางปากโดยก่อนการวัดต้องไม่ดื่มน้ำร้อนหรือน้ำเย็นก่อนวัดไข้อย่างน้อย 15 นาที ให้วางปรอทไว้ใต้ลิ้นประมาณ 1 นาที
 
                            4.ในทารกแรกเกิดให้วัดทางทวารหนักโดยใส่เข้าไปลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร นาน 1 นาที ห้ามใช้ในเด็กที่มีการถ่ายเหลวซึ่งปรอทชนิดน้ำจะเป็นปรอทที่แตกต่างจากปรอทวัดไข้ทั่วไป
 
 
 
ทำอย่างไรเมื่อมีไข้
 
 
                            1.เมื่อรู้สึกว่าเริ่มไม่สบายหรือตัวร้อน ให้ใช้ปรอทวัดไข้ตามวิธีการวัดไข้
 
                            2.ให้เช็ดตัวลดไข้บ่อยๆ โดยใช้ผ้าชุบน้ำธรรมดาบิดหมาดๆ เช็ดจากส่วนปลายของร่างกาย เช่น ปลายมือ ปลายเท้า เข้าหาลำตัว การเช็ดตัวลดไข้ต้องเช็ดแรงกว่าการเช็ดตัวปกติ เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดี และควรวางผ้าซับบริเวณข้อพับต่างๆ รวมทั้งขาหนีบ ต้องหมั่นเปลี่ยนผ่าขนหนูบ่อยๆ ระหว่างการเช็ดตัว หากเกิดอาการหนาวสั่น ควรหยุดเช็ดตัวและห่อตัวไว้สักครู่
 
                            3.การเช็ดตัวควรเช็ดในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกไม่ให้ลมโกรก ถ้าอยู่ในห้องแอร์ ควรปิดแอร์ ดูแลให้ใส่เสื้อผ้าที่โปร่ง สบาย ไม่ห่มผ้าหนา
 
                            4.ดูแลให้ยาลดไข้ตามปริมาณที่แพทย์กำหนด และถ้าลูกมีประวัติเคยชัก ควรให้รับประทานยากันชักควบคู่ไปด้วย
 
                            5.หลังจากเช็ดตัวลดไข้และรับประทานยาลดไข้แล้ว 30 นาที ให้วัดไข้ซ้ำอีกครั้ง และวัดไข้ซ้ำทุก 4 ชั่วโมง
 
                            6.ถ้าเด็กมีไข้สูงตลอด ไข้ไม่ลดลง ซึมลง อาเจียน กินไม่ได้ ปัสสาวะน้อยลง และสีปัสสาวะเข้มมาก ควรพาเด็กไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาต่อไป
 
                            7.ในเด็กที่มีไข้สูง และอายุต่ำกว่า 6 ปี ควรได้รับการดูแลเรื่องการเช็ดตัวลดไข้ให้ดี เพราะเด็กอาจเกิดอาการชักจากไข้สูงได้ และถ้ามีการชักแล้ว โอกาสที่จะชักซ้ำจากไข้สูงจะมีมากกว่าเด็กที่ไม่เคยชักเลยถึง 30%
 
 
 
การชักจากไข้สูง
 
 
                            เป็นอาการชักที่เกิดร่วมกับการมีไข้สูงมักจะพบในช่วงอายุ 3 เดือน-6 ปี แต่จะพบมากที่สุดในช่วงอายุ 1-3 ขวบปีแรก
 
 
 
อาการแสดง
 
 
                            อาการแสดงจะมีลักษณะตาค้าง ไม่รู้สึกตัว ชักทั้งตัวหรือชักกระตุกเกร็งทั้งตัว ชักระยะสั้นๆ ไม่เกิน 5 นาที และไม่ควรมีอาการชักเฉพาะซีกหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
 
 
 
การดูแลเมื่อเด็กมีอาการชัก
 
 
                            สิ่งแรกที่ควรปฏิบัติคือ จับเด็กให้นอนตะแคง บนพื้นราบที่นุ่มไม่มีของแข็งมากระทบถ้ามีเศษอาหารในช่องปากให้ล้วงออกเพื่อป้องกันทางเดินหายใจอุดกั้น ขณะชักและรีบพามาพบแพทย์
 
                            สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติคือ ไม่ควรพยายามทำให้เด็กอาเจียนโดยใช้ช้อนหรือของแข็งใส่เข้าไปในปากเด็ก เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อช่องปากและฟัน หรือทำให้ฟันหลุดไปอุดหลอดลมได้ ถ้าเด็กกัดลิ้นให้หาผ้านุ่มๆ ใส่ปาก ในเด็กที่เคยมีประวัติชักจากไข้สูง เมื่อเด็กเริ่มมีไข้ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของการดูแลเด็กที่มีไข้และถ้าไข้ยังไม่ลด ควรพามาพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจรักษาต่อไป
 
 
 
 
 
 
โรงพยาบาลศิครินทร์