
'วิ่งไปด้วยกัน ฟันฝ่าโรค'
'วิ่งไปด้วยกัน ฟันฝ่าโรค' : ไลฟ์สไตล์
ด้วยศรัทธาในแนวคิดที่ว่าสุขภาพจะดีได้เพราะกินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อมีพละกำลังแล้วก็ต้องรู้จักแบ่งปัน บริษัท แบ็กซ์เตอร์ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ชั้นนำ จึงจัดกิจกรรมวิ่งการกุศล “เดอะ แบ็กซ์เตอร์ รัน ฟอร์ ฟันด์ 2014” สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อความแข็งแรงสมบูรณ์ มีภูมิคุ้มกันโรค ภายใต้แนวคิด “วิ่งไปด้วยกัน ฟันฝ่าโรค” ระยะทาง 3-10 กิโลเมตร นำเงินรายได้จากการจัดกิจกรรมบริจาคให้มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย และมูลนิธิโรคเลือดออกง่ายแห่งประเทศไทย ที่สวนหลวง ร.9 เมื่อเร็วๆ นี้
ภญ.ทิพวรรณ จิตพิมลมาศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท แบ็กซ์เตอร์ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แบ็กซ์เตอร์ฯ มีนโยบายในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นประจำทุกปี และในฐานะที่เป็นบริษัทดูแลด้านสุขภาพ จึงอยากส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ปีนี้จึงได้จัดกิจกรรมวิ่งการกุศลต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยความร่วมมือร่วมใจของพนักงาน และครอบครัวพนักงาน ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตกุศลที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 1,000 คน โดยรายได้ทั้งหมดจากการจัดกิจกรรมจะบริจาคให้แก่มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย และมูลนิธิโรคเลือดออกง่ายแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยของมูลนิธิต่อไป
ภายในงานยังมีนิทรรศการให้ความรู้เรื่องโรคฮีโมฟีเลีย พร้อมการจัดแสดงผลงาน และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจากถุงน้ำยาล้างไตทางช่องท้อง โดยชมรมผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง โรงพยาบาลบ้านแพ้ว สาขาพร้อมมิตร พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากนักกีฬาไตรกีฬา และอดีตนักรักบี้ฟุตบอลทีมชาติไทย "เขาทราย" จิรวัฒน์ เรืองวงษ์ มาวิ่งนำอีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า ปกติชอบวิ่งเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาวิ่งนำในกิจกรรมครั้งนี้ เพราะจะได้ร่วมทำบุญกับนักกีฬาหลายๆ คน ถือเป็นการส่งต่อบุญเพื่อมอบรายได้ให้แก่ผู้ป่วยโรคไต และโรคเลือดออกง่ายหยุดยาก
"เดือนกันยายนเป็นเดือนเกิดผม ที่สำคัญคือ คุณพ่อของผมก็เสียชีวิตจากโรคไตวายเมื่อ 5 ปีที่แล้วด้วย จึงถือโอกาสทำบุญไปด้วยเลยทีเดียว และรู้สึกดีใจที่วันนี้มีนักวิ่งมากมาย มาร่วมทำบุญด้วยกันในวันนี้ วิ่งแบบสบายๆ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เพราะสุขภาพที่แข็งแรง เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายครับ” นักกีฬาไตรกีฬา กล่าว
ทั้งนี้ ภญ.ทิพวรรณ เสริมทิ้งท้ายว่า การเดินและวิ่ง เป็นกิจกรรมเพื่อสุขภาพที่ง่ายและได้ผลดี ซึ่งการเดินวิ่งให้ได้วันละ 30-45 นาที อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และการทำงานของหัวใจ รวมทั้งยังช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดอาการปวดและอักเสบได้ แถมยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ การวิ่งในสวนสาธารณะยังช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานได้อีกด้วย จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย และการวิ่งเพื่อสุขภาพที่ดี
เรียกว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างมาร่วมกันออกกำลัง นอกจากจะได้สุขภาพที่แข็งแรงแล้ว ยังได้มิตรภาพและร่วมทำบุญกับเพื่อนๆ ต่างวัยอีกด้วย