ไลฟ์สไตล์

บ้านปันน้ำใจให้ผู้ป่วย

บ้านปันน้ำใจให้ผู้ป่วย

02 ต.ค. 2557

ไลฟ์สไตล์ : บ้านปันน้ำใจให้ผู้ป่วย

 
                   ความสุขที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน และหากการให้นั้นเป็นการต่อลมหายใจให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่รอคอยความช่วยเหลือด้วยแล้ว ยิ่งเป็นความอิ่มเอิบใจทั้งผู้ให้และผู้รับ บริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นำโดยนายหญิงใหญ่ ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ จึงประสานมือพันธมิตรธุรกิจอย่าง สีทีโอเอเพ้นท์ ประเทศไทย โดย จตุภัทร์ ตั้งคารวะคุณ กรรมการผู้จัดการ จัดงานแนะนำโครงการ "บ้านร่วมทางฝัน" เพื่อปันผลกำไรทั้งหมดที่ได้จากการขายโครงการไปช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ โดยจัดแถลงข่าวพร้อมเชิญ ศ.พญ.อลิศา ลิ้มสุวรรณ แพทย์เจ้าของโครงการโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด โรงพยาบาลรามาธิบดี มาร่วมพูดคุยถึงความตั้งใจดีๆ นี้ ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เมื่อวันก่อน
 
                   ศ.ดร.เกษรา เจเนอเรชั่นที่ 2 ของแบรนด์เสนา กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโมเดลธุรกิจใหม่ ซึ่งคิดขึ้นมาเพื่อมุ่งตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่องภายใต้แนวคิด "คนอยู่ก็ได้ให้ คนทำก็ได้ให้" เพื่อวางรากฐานให้เป็นธุรกิจเพื่อการกุศลได้อย่างเต็มรูปแบบว่า เกิดขึ้นจากตอนที่คุณพ่อป่วยด้วยโรคมะเร็ง ต้องเริ่มรักษาอย่างจริงจังที่โรงพยาบาลศิริราช ทำให้พบว่ายังมีผู้ป่วยยากไร้อีกมากที่ต้องการเครื่องแพทย์ในการรักษา จึงดำริกับครอบครัวว่าน่าจะเริ่มสักโครงการที่ไม่หวังผลกำไร จากนั้นจึงได้แรงบันดาลใจในการคิดพัฒนาและจัดการแนวคิดเรื่องการให้เป็นรูปธรรมโดยปันผลกำไรทั้งหมดที่ได้จากการขายบ้านร่วมทางฝัน นำไปต่อยอดให้เกิดทรัพยากรทางการแพทย์ เพราะสัมผัสได้ด้วยตัวเองว่าเวลาเจ็บป่วยหรือคนที่รักไม่สบายคุณภาพการรักษาพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
 
                   "ที่ผ่านมาได้ทำไปแล้วสามโครงการ โดยมอบเงินบริจาคครั้งละ 40 ล้านบาท ครั้งแรกมอบให้โรงพยาบาลศิริราช ครั้งที่สองมอบให้โรงพยาบาลตำรวจ และครั้งที่สาม มอบให้โรงพยาบาลรามาธิบดี รวมเป็นเงิน 120 ล้านบาท โดยเฉพาะครั้งที่ 3 นั้นพิเศษที่สุด คือนำไปเป็นทุนรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดสำหรับเด็ก รู้สึกภาคภูมิใจเป็นพิเศษ เพราะมองว่าเด็กเป็นกำลังสำคัญในอนาคต เราไม่เพียงช่วยเหลือเด็กแต่ช่วยเหลืออนาคตของชาติด้วย ซึ่งนอกจากบ้านร่วมทางฝันจะไม่เอากำไรแล้ว ผู้บริหารของเสนายังปันเวลามาบริหารโครงการนี้ฟรีอีกด้วย จึงถือได้ว่าเป็นโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ที่น่าจะมีความยั่งยืน"เจ้าของโครงการกล่าว
 
                   ศ.พญ.อลิศา กล่าวเสริมเกี่ยวกับคนไข้โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้นับวันจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องรักษาต่อ เพราะอาจเกิดภาวะโรคหัวใจแต่กำเนิดซับซ้อนขึ้นได้ บางคนต้องการลิ้นหัวใจเทียม ซึ่งมีอายุการใช้งานจำกัด จึงต้องรักษาเป็นระยะๆ อาจมีการผ่าตัดหลายครั้งและทุกครั้งก็มีความเสี่ยง เดี๋ยวนี้มีลิ้นหัวใจเทียมรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดนำเข้าจากต่างประเทศแล้ว ก็เป็นการลดการผ่าตัดและลดความเสี่ยงได้มาก นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในแง่นักศึกษาแพทย์ที่จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีดังกล่าว เป็นการแบ่งปันองค์ความรู้ทางการแพทย์ด้วย
 
                   ทั้งนี้โครงการบ้านร่วมทางฝัน 4 จะเป็นรูปแบบคอนโดมีเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 196 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนเทิดไท เขตบางแค กำไรทั้งหมดจากการขายโครงการดังกล่าวจะนำไปมอบให้โรงพยาบาลรามาธิบดีต่อไป