
ไปจีนสู่โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัว 'ผิงกู่-ซีพี'
28 ก.ย. 2557
ท่องโลกเกษตร : ไปจีนสู่โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัว 'ผิงกู่-ซีพี' เกษตรกรรมหมุนเวียนทันสมัยแห่งเอเชีย : โดย...ดลมนัส กาเจ
“โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์” นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่ไปลงทุนด้านการเกษตรและอาหารในประเทศจีน โดยที่รัฐบาลให้ความไว้วางใจให้ดำเนิน "โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมใหม่" (Xin Nong Cun) และได้ประเดิมเป็นโครงการแรกที่เขตผิงกู่ ห่างจากนครปักกิ่งไปทางทิศเหนือ เพื่อเป็นโมเดลในรูปแบบของการดำเนินการในรูปแบบ “สี่ประสาน” ผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้อง 4 ฝ่ายได้แก่ รัฐบาล เกษตรกร บริษัทเอกชน และธนาคาร
จากการที่ทีม "ท่องโลกเกษตร" ได้ตะลุยแดนมังกร เพื่อดูความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของซีพีในจีน นำโดย ดร.สารสิน วีระพล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีโอกาสเยี่ยมชมหลายโครงการ โดยเฉพาะเกี่ยวกับธุรกิจการเกษตรและอาหารรวมถึงธุรกิจด้านอื่นด้วย ที่รัฐบาลจีนให้ความไว้วางใจซีพีให้ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 30 ปี และในโอกาสนี้ได้เข้าชมโครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์ ตั้งอยู่บนที่ดิน 380 ไร่ ณ หมู่บ้านซีฟาน เกอจวง ต.ยู่โค เขตผิงกู่ ในเขตนครปักกิ่ง ซึ่งเป็นโครงการเกษตรกรรมหมุนเวียนทันสมัยที่สุดของเอเชียที่เน้นในด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำสิ่งเหลือใช้มาใช้ใหม่ อาทิ มูลไก่นำไปทำปุ๋ยใช้ในสวนพีชหรือท้อ ส่วนไก่ที่ตายนำไปเลี้ยงจระเข้
โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์ เริ่มโครงการเมื่อปี 2555 ใช้เงินลงทุนมูลค่าการลงทุนรวม 720 ล้านหยวน หรือประมาณ 3,600 ล้านบาท ถือเป็นโครงการไก่ไข่ครบวงจรที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในเอเชีย และใหญ่อันดับสองของโลก สามารถเลี้ยงไก่ไข่ได้ถึง 3 ล้านตัว มีกำลังการผลิตไข่ไก่มากถึง 54,000 ตันต่อปี ทำให้เกษตรกรจีนได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการนี้ถึง 1,608 ครอบครัว หรือประมาณ 5,000 คน ภายในโครงการครบวงจรประกอบไปด้วยโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิดจำนวน 18 หลัง สามารถเลี้ยงไก่ได้ 3 ล้านตัว มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ และโรงงานแปรรูปไข่ ฯลฯ ซึ่งกระบวนการผลิตจะถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด จะมีผู้ควบคุมเพียงโรงเรือนละ 1 คนเท่านั้น
สำหรับโครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์ รัฐบาลปักกิ่งและเครือเจริญโภคภัณฑ์ลงทุนถือหุ้นฝ่ายละ 15% ส่วนที่เหลืออีก 70% เป็นของเกษตรกรซึ่งรวมตัวกันถือหุ้นในนามของสหกรณ์การเลี้ยงสัตว์ในเขตพื้นที่สีเขียวของเมืองปักกิ่ง โดยมีธนาคารแห่งกรุงปักกิ่ง ประสานความร่วมมือในรูปของการให้สินเชื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการ ในนามบริษัท กู่ต้า อะกรีคุลเจอร์ อินเวสเมนต์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการได้ทำสัญญาว่าจ้างให้ บริษัท ปักกิ่ง เจ่ยไต เอกส์ แอนด์ฟู้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์เช่าที่ดินและทรัพย์สินในโครงการเป็นระยะเวลา 20 ปี รวมถึงรับผิดชอบดูแลบริหารจัดการธุรกิจทั้งหมดทั้งด้านการผลิตและการตลาด รูปแบบใหม่เสมือนหนึ่งเกษตรกรเป็นเถ้าแก่ บริษัทเป็นลูกจ้างนั่นเอง
ด้าน นายสีเพา กุลโชติรัตน์ หนึ่งในผู้บุกเบิกโครงการนี้เล่าว่า ไกที่เลี้ยงทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ไฮไลท์กับสายพันธุ์โรมันซึ่งเป็นพันธุ์จากสหรัฐอเมริกา ส่วนเทคโนโลยีที่ใช้ในโรงเรือนเป็นเทคโนโลยีผสมผสานโดยเฉพาะในโรงงานผลิตอาหารสัตว์ เป็นเทคโนโลยีนอร์เวย์และอิตาลี เป็นต้น ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในยุคนี้ ส่วนไข่ไก่ที่ได้มาวันละประมาณ 2.3 ฟองนั้น ส่วนหนึ่งขายเป็นฟอง อีกส่วนหนึ่งทำเป็นไข่เหลว โดยมีตลาดหลักอยู่ในประเทศจีนโดยเฉพาะปักกิ่ง มีบางส่วนเท่านั้นที่ส่งออกไปยังญี่ปุ่น เนื่องจากการเลี้ยงไก่มากถึง 3 ตัว ในแต่ละวันจะมีไก่ตายวันละ 500 ตัว ผู้บริหารมองว่าน่าจะใช้ประโยชน์ได้ ด้วยการเลี้ยงจระเข้น้ำจืด เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการกับซากไก่ตายเหล่านี้ และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากโครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัว ตอนนี้เริ่มเลี้ยงกว่า 1,000 ตัว จากเป้าหมาย 1.2 หมื่นตัว เป็นการเลี้ยงจระเข้เพื่อเป็นอาหาร
ส่วนมูลไก่นำไปผลิตเป็นปุ๋ยชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ในพื้นที่ปลูกท้อหรือพีชในพื้นที่ 2.5 หมื่นไร่บริเวณรอบๆ ฟาร์มที่ซีพีได้ร่วมมือกับบริษัทผลิตผลไม้รายใหญ่ในจีนส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกท้อออร์แกนิกพันธุ์ดีคุณภาพดีเพื่อส่งออกจำหน่ายไปต่างประเทศ คาดว่าโครงการสวนท้อรอบฟาร์มแห่งนี้จะให้ผลผลิต 6.5 ตันต่อปี มีมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท
ขณะที่ตัวแทนเกษตรกร เล่าว่า การที่เกษตรกรเข้าร่วมโครงการนี้เนื่องจากเห็นว่า บริษัท ซีพี (คนจีนรู้จักในนาม "เจี่ยไต") เป็นบริษัทที่คนจีนมีความเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจด้านการเกษตรที่มีชื่อเสียงมากในประเทศจีน และผลิตสินค้าเกษตรโดยเฉพาะที่เป็นอาหารที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของชาวจีนมานานแล้ว เมื่อซีพีมาลงทุนในรูปแบบ 4 ประสาน ระหว่างซีพี รัฐบาลจีน สถาบันการเงิน เกษตรกรพร้อมใจที่จะร่วมมือในโครงการนี้เนื่องเห็นว่ามีรายได้ที่แน่นอน ทั้งที่ส่วนหนึ่งได้ทำงานในโครงการ อีกส่วนหนึ่งมาจากส่วนปันกำไร และมาจากค่าเช่าที่ด้วย
นับเป็นอีกหนึ่งโครงการของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลจีน ไว้โอกาสจะเสนออีกหลายโครงการที่ได้ไปสัมผัสมา
--------------------------
(ท่องโลกเกษตร : ไปจีนสู่โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัว 'ผิงกู่-ซีพี' เกษตรกรรมหมุนเวียนทันสมัยแห่งเอเชีย : โดย...ดลมนัส กาเจ)