ไลฟ์สไตล์

เที่ยวนี้ขอเล่า : ล่องพังงา...มาภูเก็ต

เที่ยวนี้ขอเล่า : ล่องพังงา...มาภูเก็ต

21 ก.ย. 2557

เที่ยวนี้ขอเล่า : ล่องพังงา...มาภูเก็ต : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง [email protected]

 
                         ประกาศเจตนารมณ์อีกครั้งว่าปีนี้เป็นปีเที่ยวไทย บางครั้งบางคราวของการเดินทางจึงสับขาหลอกจากเที่ยวนอกเที่ยวไทยสลับกันไปเป็นระยะ ก็เหมือนเที่ยวนี้ที่บินไปเยี่ยมเยียน ภูเก็ต ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (www.bangkokair.com) ซึ่งต้องบอกว่าวันหนึ่งเขาบินไปกลับสุวรรณภูมิ-ภูเก็ตวันละหลายเที่ยวมาก แต่ที่ฉันติดอกติดใจน่าจะเป็นข้าวต้มมัด และอาหารการกินกรุบกริบมากหน้าหลายตาที่เลานจ์ของบางกอกแอร์เวย์สวางไว้ปรนเปรอผู้โดยสาร นี่แหละวิธีใช้เสน่ห์มัดใจของบางกอกแอร์เวย์สเขา
 
                         มาภูเก็ตเมื่อต้นปี ไม่ได้มีโอกาสแวะเข้าไปคลุกวงในของภูเก็ตเพราะต้องรีบไปเขาหลัก เที่ยวนี้ฉันเลือกปักหลักแถวหาดป่าตองก่อนเลย และถ้าจะมองหาที่พักสุดชิคและสะดวกสบายในย่านนี้ นาทีนี้ต้องยกให้โรงแรมดุสิตดีทู ที่เพิ่งตัดริบบิ้นมาได้ไม่นาน นี่คือโรงแรมน้องใหม่ของดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล (www.dusit.com) 
 
                         เรียกว่าใครอยากเปิดหูเปิดตา สำรวจภูเก็ตใน พ.ศ.นี้ ดุสิตดีทูน่าจะเป็นทางเลือกที่ลงตัว เพราะอยู่ใกล้หาดป่าตองมาก แถมเขยิบไปนิดเดียวก็เข้าไปช็อปปิ้งในห้างจังซีลอนได้แล้ว จะดินเนอร์อาหารอร่อยๆ เพลงเพราะๆ ก็มีฮาร์ดร็อคคาเฟ่เปิดรอทุกคนอยู่ จากนั้นถ้าจะเดินไปไนท์ซีอิ้ง ก็เดินเลาะทะเลไปแค่ราวๆ 15 นาทีก็ถึงถนนแห่งแสงสีที่มีสาวๆ ยืนเลื้อยไปตามเสาให้ดูกันแล้ว 
 
                         ที่จริงฉันก็สำรวจย่านนี้พอหอมปากหอมคอ พอให้รู้ว่าหาดป่าตองเปลี่ยนไปแค่ไหน อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าตอนนี้ป่าตองโล่งเตียน เมื่อไม่มีร่มมาให้เกะกะลูกตา ป่าตองก็เหมือนถูกขัดสีฉวีวรรณขึ้นมาใหม่จนงามพริ้ง  
 
                         สำรวจป่าตองเสร็จ จากนั้นค่อยมองหามุมสงบเพื่อพักผ่อนหย่อนอารมณ์อย่างแท้จริง ซึ่งถ้าจะไปแนวนั้น ดุสิตเขาก็มีโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต ที่พร้อมจะเนรมิตวันพักผ่อนของทุกคนให้มีคุณภาพ
 
                         ต้องยอมรับว่าคนละบรรยากาศกันจริงๆ เพราะที่ดุสิตธานี ลากูน่า เป็นมุมที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ใกล้กับหาดสุรินทร์ และหาดบางเทา หรือใครที่คิดจะมาเล่นกอล์ฟที่ลากูน่าภูเก็ตกอล์ฟคลับก็น่าจะเหมาะอีกเหมือนกัน 
 
                         และเมื่อมาถึงที่นี่ ฉันไม่พลาดที่จะล่องเรือเข้าไปชมลากูนอันกว้างใหญ่ของที่นี่ ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่ที่เคยเป็นเหมืองมาก่อน จะถูกเนรมิตให้มีความสะดวกสบายและมีธรรมชาติอันรื่นรมย์เช่นนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติบางคนไม่กลัวแดด พากันพายเรือแคนูไปตามสายน้ำ เรียกว่าเป็นมุมที่อยู่ด้วยแล้วสบายอารมณ์จริงๆ
 
                         แต่เมื่อพาตัวเองมาถึงที่นี่แล้ว จะนั่งๆ นอนๆ เอกเขนกอยู่แต่ในโรงแรมก็ใช่ที่ ฉันจึงออกเดินทางไป อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน 
 
                         ในบริเวณอุทยานมีเกาะเล็กเกาะน้อยวางระเกะระกะอยู่กว่า 40 เกาะ แต่ละเกาะก็จะมีสภาพธรรมชาติที่แตกต่างกันไปและมีความสวยงามเฉพาะตัว  ส่วนจะสวยแบบไหนก็แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน 
 
                         เมื่อเรือพามาถึงจุดล่องแคนู มุมนี้จะยิ่งเห็นภาพคมชัดว่าละแวกนี้คือ ดงภูเขาหินปูน ที่โผล่เป็นหย่อมๆ กระจายอยู่ทั่วไป และเมื่อล่องเรือไปตามลำน้ำก็จะพบว่าลักษณะถูกกัดกร่อนจนเป็นช่องเป็นโพรงและมีถ้ำซ่อนอยู่มากมาย 
 
                         และเมื่อฝีพายพาซอกแซกเข้าไปตามหลืบก็จะยิ่งเห็นว่าภูเขาบางลูกสลายตัวกลายเป็นเนินเขา และเมื่อลึกเข้าไปอีกก็จะเจอป่าโกงกางผืนที่สมบูรณ์มาก พวกป่าชายเลนแถวนี้ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะมีพันธุ์ไม้ค่อนข้างเยอะ 
 
                         และเหมือนเป็นโปรแกรมบังคับว่า เมื่อมาแถวนี้แล้วจะต้องไปเขาหินปูนที่มี ถ้ำทะลุ คล้ายๆ ถ้ำลอดใหญ่ แต่มีขนาดเล็กกว่า เรือสามารถแล่นลอดผ่านได้ มุมนี้กลายเป็นจุดพายเรือแคนูยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
 
                         อีกมุมหนึ่งที่มาถึงแล้วไม่แวะไม่ได้อีกเหมือนกันคือ เขาตาปู และ เขาพิงกัน  หนังเรื่องเจมส์บอนด์ลาโลงไปนานแล้ว แต่ที่นี่ยังเป็นฮอตสปอตสำหรับนักเดินทางเสมอ จะเล่นน้ำ ช็อปปิ้งหรือโพสท่ากับเขาตาปู ก็น่าทำไปซะหมด 
 
                         หลังจากตะลุยทะเลและป่าชายเลนกันอย่างสนุกสนาน เสร็จจากมุมนี้ ก็เห็นทีต้องไปตุนเสบียงลงท้อง ซึ่งอยู่กลางทะเลแบบนี้ไม่มีแถวไหนช่วยได้นอกจากเกาะปันหยี 
 
                         ไม่น่าเชื่อว่า เกาะปันหยี ที่เห็นเล็กๆ และไม่มีผืนดินนั้น จุผู้คนเรือนพันเอาไว้ในบ้านนับร้อยหลังคาเรือน ผู้คนที่นี่นอกจากทำอาหารกลางวันรับนักท่องเที่ยวแล้ว พอชิมอาหารเสร็จก็มีสะพานปูนเลื้อยไปรอบหมู่บ้าน สองข้างทางก็จะมีร้านรวงของชาวบ้าน ที่ขายกันทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์และอาหารการกิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์จากท้องทะเลทั้งสิ้น
 
                         มัสยิด โรงเรียนสอนศาสนา และโรงเรียน ไปจนถึงสนามฟุตบอลลอยน้ำ ทุกอย่างทำให้เกาะปันหยีน่าชมไปทุกซอกซอย 
 
                         กลับจากเกาะปันหยี นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะแวะไปแช่น้ำทะเลกันที่เกาะนาคาเป็นการผ่อนคลาย 
 
                         แต่สำหรับใครที่อยากสำรวจของแปลกๆ ใหม่ๆ ของภูเก็ตก็ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้มีพิพิธภัณฑ์เปิดใหม่หลายแห่งที่น่าแวะไปเที่ยวชม ฉันเองก็มีโอกาสแวะไปที่ พิพิธภัณฑ์ Trickeye Museum พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติแห่งแรกของภูเก็ต และยังมีบ้านกลับหัวที่กำลังฮอตฮิตในหมู่นักท่องเที่ยว
 
                         แต่จะให้เวิร์ก ไปเดินทอดน่องท่องย่านเก่าแก่ของภูเก็ตดูบ้างก็รื่นรมย์ไม่เบาเหมือนกัน อาคารสีสันรอให้ทุกคนไปยืนโพสท่าหน้าบ้าน ละแวกนั้นมีทั้งเรือนพักเก่าแก่ และร้านน้ำชา ที่มีกลิ่นอายอดีตของภูเก็ตซ่อนอยู่ 
 
                         เป็นภูเก็ตเที่ยวที่มีพังงาเป็นของแถม และเป็นการเดินทางเที่ยวที่ได้บริโภคครบทุกรสชาติ ทั้งมุมผ่อนคลาย และย่านใจกลางเมือง  ท่องธรรมชาติและดื่มด่ำวัฒนธรรมไปพร้อมๆ กัน เที่ยวไทยยังสุขใจเสมอ
 
 
 
 
 
 
-----------------------------
 
(เที่ยวนี้ขอเล่า : ล่องพังงา...มาภูเก็ต : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง [email protected])