ไลฟ์สไตล์

กลิ่นหอมย้อนความทรงจำ
ระริน ธรรมวัฒนะ

กลิ่นหอมย้อนความทรงจำ ระริน ธรรมวัฒนะ

04 ก.ค. 2552

วิธีการแสวงหาความสุขให้แก่ตัวเองย่อมมีแนวทางแตกต่างกันออกไป ตามรสนิยมของแต่ละบุคคล บ้างก็ชอบสะสมหนังสือ หรือไม่ก็สะสมกระเป๋ารองเท้า แสตมป์ ฯลฯ แต่สำหรับสาววัยใส ระริน ธรรมวัฒนะ วัย 21 ปี ทายาทคนเล็กของ คุณพ่อปริญญา ธรรมวัฒนะ เจ้าของตลาดสดยิ่งเจริญที่มีเ

 ก่อนเรื่องราวของความหอมจะค่อยๆ พรั่งพรูออกจากปากเล็กๆ ของสาวน้อยผู้ใช้ทั้งชื่อเล่นและชื่อจริงตามบัตรประชาชนในนามเดียวกันว่า "ระริน" ออกตัวอย่างเคอะเขินว่า จริงๆ แล้วเธอไม่ใช่นักสะสมน้ำหอม เพียงมีอยู่แค่หลักร้อยเท่านั้น!!

 "เวลาเพื่อนๆ มาที่บ้านมักจะพูดว่ามีน้ำหอมเยอะมาก แต่โดยส่วนตัวของหนูเองก็ไม่รู้ว่าแค่ไหนถึงจะเรียกว่า "เยอะ" จึงไม่ค่อยอยากใช้คำว่าสะสม เพราะเชื่อว่าต้องมีคนอื่นๆ ที่มีหรือสะสมน้ำหอมเอาไว้มากกว่านี้แน่นอน ส่วนที่มาของน้ำหอมขวดแรกที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มใช้และกลายเป็นของรักของหวงนั้น คุณพ่อคุณแม่เป็นคนซื้อให้ ซึ่งก็จำไม่ได้จริงๆ ว่าเป็นยี่ห้อไหนเพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่มากๆ และถึงวันนี้ก็มีน้ำหอมทั้งขวดเล็กขวดใหญ่หลากดีไซน์ประมาณ 100 กว่าขวดเองค่ะ" ลูกสาวคนเล็กเจ้าของตลาดสดใหญ่สุดในประเทศไทยกล่าว

 ด้วยบุคลิกของน้ำหอมแต่ละชนิดหรือแต่ละขวดจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป บางคนตัดสินใจซื้อเพราะหลงใหลในรูปทรงการดีไซน์ ขณะที่บางคนสนใจเฉพาะกลิ่นเย้ายวน ยังไม่รวมถึงสีสันและแพ็กเกจจิ้ง แต่สำหรับนิสิตสาวปี 4 คณะพาณิชย์และการบัญชี จากรั้วจามจุรี อย่าง ระริน เล่าว่า ในช่วงแรกๆ เธอหลงใหลทั้งรูปลักษณ์ทั้งกลิ่นหอม แต่ก็เน้นเฉพาะกลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุนหรือไม่หวานมากเกินไป จวบจนเมื่อก้าวเข้าสู่วัยสาวการเลือกซื้อจึงแปรเปลี่ยนไป โดยแต่ละครั้งก็จะเน้นเฉพาะกลิ่นให้ตรงกับบุคลิกเพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองยิ่งขึ้น

 ถึงแม้จะโชคดีมีบุญวาสนาได้เกิดมาบนกองเงินกองทองของตลาดสดยิ่งเจริญ ซึ่งเพียบพร้อมไปทุกสิ่งอย่าง อย่าว่าแต่น้ำหอมเพียงขวดเล็กๆ ไม่กี่ร้อยขวด ขอเพียงแค่เอ่ยปากว่าอยากได้อะไร มีรึที่ใครจะอาจหาญขัดใจ แต่สำหรับสาว ระริน ผู้พิสมัยกลิ่นความหอมและใฝ่ฝันอยากทำงานด้านการเงินหลังจากคว้าปริญญามาครอบครอง ย้ำถึงหลักการทุ่มทุนซื้อของสุดโปรดชนิดนี้ว่า นอกจากการเลือกกลิ่นตรงกับบุคลิกตัวเองแล้ว สิ่งสำคัญคือราคาต้องไม่แพงเกินไป

 "อย่างที่บอกว่าในสมัยแรกๆ จะซื้อเยอะแล้วก็ซื้อบ่อย เรียกว่าถูกใจก็ซื้อเลยไม่ค่อยสนใจเรื่องราคา แต่เมื่อโตขึ้นความคิดเริ่มเปลี่ยนไป การเลือกซื้อแต่ละครั้งจะเน้นความพิถีพิถันมากขึ้น นอกจากกลิ่นที่ต้องถูกใจเป็นปัจจัยอันดับแรกแล้ว เรื่องราคาก็เป็นสิ่งที่หนูให้ความสำคัญด้วย เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองอยู่เหมือนกัน ดังนั้น ราคาน้ำหอมที่หนูซื้อเองก็จะมีสนนราคาอยู่ในระดับหลักพันต้นๆ เท่านั้นเอง นอกเสียจากได้รับของขวัญของฝาก"

 นอกจากความรื่นรมย์ที่ได้รับจากกรุ่นกลิ่นหอมอันเป็นเสน่ห์แสนเย้ายวนชวนให้ลุ่มหลง อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เป็นแรงดึงดูดให้สาววัย 20 ต้นๆ หลงใหลได้ปลื้มนั่นคือ การช่วยนำพาให้เธอได้ย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาดีๆ ที่ผ่านมาเมื่อประพรมน้ำหอมกลิ่นต่างๆ

 "จริงๆ แล้วน้ำหอมที่มีอยู่หนูก็ชอบทุกขวด เนื่องจากแต่ละกลิ่นจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป แต่จะมีบางขวดที่หยิบใช้บ่อยว่าใครอย่างเช่น เบอร์เบอร์รี่ (Burberry) ปารีส ฮิลตัน (Parris Hillton) ซีเค คาลวินไคลน์ (CK Calvin Klein) และในขณะเดียวกันก็จะมีอีกหลายขวดเช่นกันที่แม้ว่านานๆ จะหยิบขึ้นมาใช้สักครั้ง แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ดีที่ไม่ใช่เพียงแค่กลิ่นหอมชื่นใจเท่านั้น เพราะกลิ่นเหล่านั้นเป็นเสมือนผู้ช่วยปลุกเร้าเรื่องราวดีๆ ในวันวานให้ย้อนกลับมา อย่างเช่น ราล์ฟ ลอเรน (Ralph Lauren) จะเป็นกลิ่นที่หยิบใช้เมื่อไหร่ก็จะคิดถึงตอนสมัยที่อยู่โรงเรียนกับเพื่อนๆ หรือของยี่ห้อ โจ มาโลน (Jo Malone) ก็เช่นกันไม่ว่าจะหยิบใช้ครั้งไหน ก็จะต้องนึกถึงเพื่อนคนที่ซื้อขวดนี้มอบให้เป็นของขวัญ" ระรินเล่าพลางชี้ชวนให้ดูแต่ละขวดในดวงใจ

 เพื่อตอกย้ำอีกครั้งว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างจริงจัง ลูกสาวหนึ่งเดียวของปริญญา ฝากบอกถึงวัยรุ่นหรือผู้ที่ชื่นชอบความหอม แต่ไม่มีกำลังซื้อว่า น้ำหอมไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่สุด  แต่ถ้าหากอยากให้กลิ่นกายหอมสดชื่น แค่เพียงรักษาความสะอาด โดยเลือกใช้สบู่ที่มีกลิ่นหอมเหมาะกับตัวเอง หรืออาจจะใช้บอดี้ สเปรย์ ชนิดพกติดตัวก็ได้ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใช้น้ำหอมปลอม เพราะไม่รู้ว่าเขาผสมอะไรลงไปบ้าง มันอันตรายมากๆ