ไลฟ์สไตล์

ฉาว!มาเฟียเกาะล้านเตะทรายไล่ฝรั่ง

ฉาว!มาเฟียเกาะล้านเตะทรายไล่ฝรั่ง

06 ก.ย. 2557

มาเฟียชายหาดเกาะล้าน ขู่แหม่มนทท.ไม่ให้นั่งอาบแดดบนชายหาด ใช้เท้าเตะทรายใส่ไล่ไปเช่าเตียงนอน เมืองพัทยาเต้น ลั่นให้หากินดีๆ ไม่ชอบ ต้องจัดระเบียบใหม่

 
                            6 ก.ย. 57  การปรากฏคลิปวิดีโอชายหนุ่มรูปร่างกำยำ สวมชุดปกปิดร่างกายมิดชิด คาดว่าเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร หรือผู้ให้บริการเช่าเตียงผ้าใบริมชายหาดแห่งหนึ่ง มีพฤติกรรมขู่กรรโชกนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติที่นั่งอาบแดดอยู่ชายทะเล ด้วยการใช้เท้าเตะทรายใส่และแสดงท่าทางลักษณะเหมือนพูดจาขับไล่ไม่ให้นั่งเล่นบนพื้นทราย และขู่บังคับให้ไปใช้บริการเช่าเตียงนอนของทางร้าน จนเกิดการโต้เถียงกันอย่างหนัก ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่แสดงความเห็นในลักษณะโกรธแค้นที่ผู้ประกอบการรายนี้ย่ำยีภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยจนป่นปี้ และเรียกร้องให้รัฐบาล หรือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาจัดระเบียบด่วน
 
                            ล่าสุด ได้มีการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ที่ปรากฏตามคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นที่หาดนวลบนเกาะล้าน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุและติดตามจับกุมมาได้แล้วคือ นายปิ้ง (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาวกัมพูชา เป็นเด็กเฝ้าร่มเตียงชายหาด มีนายชาลี พิมพา เป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งเมื่อเรื่องทราบไปถึงผู้บริหารเมืองพัทยา ถึงกับจะลงมาจัดระเบียบผู้ประกอบการริมชายหาดใหม่ทั้งหมด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะเป็นความประพฤติที่ไม่ดีของผู้ประกอบการเพียงรายเดียว หรืออาจจะไม่กี่ราย แต่ก็สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของเมืองพัทยาจนหมดสิ้น
 
                            นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมืองพัทยาเข้ามาจัดระเบียบผู้ประกอบการให้เช่าเตียงและร่มริมชายหาดตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยยึดแนวทางให้ผู้ประกอบการจัดระเบียบความเรียบร้อยกันเอง ซึ่งจากการเชิญผู้ประกอบการริมชายหาด พัทยา จอมเทียน และเกาะล้าน  มาประชุม ทุกคนก็เห็นด้วย แต่เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เมืองพัทยาอาจต้องลงมาจัดระเบียบผู้ประกอบการใหม่ทั้งหมด เหมือนที่ชายหาดหัวหิน และ ภูเก็ต
 
                            "เป็นเรื่องเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเมืองพัทยามาก ทั้งที่เราให้โอกาสผู้ประกอบการในการประกอบอาชีพแล้ว แต่ภาพที่เกิดขึ้นทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว เนื่องจากผู้ประกอบการไม่รักษาผลประโยชน์ของตนเองที่เพิ่งจะได้รับ แต่กลับทำลายภาพลักษณ์สร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยว ทำให้การจัดระเบียบของเมืองพัทยาอาจต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกับหัวหิน และภูเก็ต" นายรัตนชัย กล่าว
 
                            นายรัตนชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ประกอบการที่แสดงพฤติการณ์ตามคลิปที่ปรากฏนั้น เมืองพัทยาจะลงไปสอบสวนเพื่อมีมาตรการลงโทษ และวันจันทร์นี้จะประชุมหารือแนวทางการจัดระเบียบอย่างเร่งด่วนอีกครั้ง
 
                            ด้าน นายสินชัย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าจะเป็นการกระทบกระทั่งเพียงนักท่องเที่ยวคนเดียว แต่ภาพลักษณ์ที่สื่อออกไปทางโชเซียลเน็ตเวิร์ก ถือว่าออกไปทั่วโลก เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวก็จะมองว่าเมืองพัทยาเป็นเมืองเถื่อน เมืองมาเฟีย เพราะภาพดังกล่าวสะท้อนถึงสภาพความเป็นจริงว่า เมืองพัทยามีปัญหาเรื่องการข่มขู่การเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวอยู่ นับว่าเป็นภาพที่น่าละอายมาก   
 
                            "คสช.ควรกำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สะสางปัญหาที่เกิดขึ้น จากนี้ไปจะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด และดูในเรื่องบทลงโทษให้เป็นระบบโดยทางภาครัฐต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง" นายสินชัย กล่าว
 
                            นายสุรัตน์ เมฆะวรากุล ประธานสภาวัฒนธรรม และผู้บริหารในเครือไมค์กรุ๊ป กล่าวว่า เป็นการเอาเปรียบสังคมในแง่ของการไปยึดครองชายหาด เอามาทำร่มเตียงเป็นของส่วนตัว ขณะที่ภูเก็ต คสช.ได้จัดระเบียบไปแล้ว ควรที่จะมาดำเนินการต่อที่พัทยาด้วย  
 
                            "การรังแกนักท่องเที่ยวกรณีอย่างนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นภาครัฐจะได้ต้องไม่ปล่อยปละละเลยให้เอกชนหรือใครก็ตามเข้ามายึดครองที่สาธารณะ" นายสุรัตน์ กล่าว
 
                            พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม รอง ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายปิ้ง ชาวกัมพูชา อายุ 25 ปี ทำงานรับจ้างบนเกาะล้าน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่ก่อเหตุสร้างความรำคาญให้แก่นักท่องเที่ยวที่พักผ่อนอยู่บนชายหาด เหตุเกิดเมื่อเดือนตุลาคม  2556 ที่ชายหาดนวล บริเวณหน้าร้านขายของนายจ้าง 
 
                            พล.ต.ต.ธเนตร์ กล่าวว่า ผลจากการเผยแพร่คลิปดังกล่าวทำให้เสียภาพลักษณ์และเสียชื่อเสียงให้แก่การท่องเที่ยว ซึ่งตำรวจจะสืบสวนหาคนนำภาพดังกล่าวออกไปเผยแพร่ เพราะทำให้เสียภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวของพัทยา เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นนานแล้ว
 
                            "ด้านคดีก็ให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา พิจารณาไปตามพฤติกรรมการก่อเหตุ ส่วนเจ้าของร้านก็จะสอบสวน หากพบมีส่วนเกี่ยวข้องหรือพบความผิดที่เกิดขึ้นก็จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน" พล.ต.ต.ธเนตร์ กล่าว
 
                            นายปิ้ง กล่าวว่า นายจ้างสั่งให้ไปไล่นักท่องเที่ยวหญิงชาวรัสเซีย เนื่องจากมาปูผ้าบังหน้าร้าน โดยให้นักท่องเที่ยวรายนี้ไปนั่งที่เตียงของร้าน แต่นักท่องเที่ยวไม่ยอม จึงมีปากเสียงกัน และได้แสดงพฤติกรรมตามในคลิปดังกล่าวจริง
 
                            ด้าน นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ประกอบการกับนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่กรณีของนายปึ้งถือว่ารุนแรงและเกิดความเสียหาย แต่สาเหตุที่ไม่ดำเนินการเพราะไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความ ทำให้ปัญหาคาราคาซังจนมีการนำภาพไปโพสต์ลงในเว็บไซต์ต่างๆ
 
                             "อย่างไรก็ตามเมืองพัทยา ก็มีมาตรการควบคุมผู้ประกอบการร่มเตียงอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว แต่อาจมีหลงหูหลงตาไปบ้าง ซึ่งจากนี้ในวันจันทร์ที่ 8 กันยายนนี้ เมืองพัทยาจะร่วมกับ อ.บางละมุง ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการบนเกาะล้านต่อไป"
 
 
 
 
 
---------------------------
 
(หมายเหตุ : ภาพประกอบข่าว)