ไลฟ์สไตล์

ไหว้พระบนภูเขาไฟ ผจญภัย 'เพ ลาเพลิน'

ไหว้พระบนภูเขาไฟ ผจญภัย 'เพ ลาเพลิน'

07 ก.ย. 2557

ชวนเที่ยว : ไหว้พระบนภูเขาไฟ ผจญภัย 'เพ ลาเพลิน' : เรื่อง / ภาพ ... นพพร วิจิตร์วงษ์

 
                             พูดถึงภูเขาไฟ ใครอาจนึกไกลตัวไปถึงต่างประเทศเพราะมีข่าวคราวการระเบิดอยู่บ่อยครั้ง บางแห่งก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียง ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือนเป็นล้านคน แต่ใครจะรู้บ้างว่า ใกล้ตัวเรา อย่างที่จังหวัดบุรีรัมย์ ก็มีภูเขาไฟอยู่หลายแห่ง มากที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ โดยเรียงรายอยู่ในแนวเทือกเขาพนมดงรัก ทั้งด้านเหนือและใต้
 
                             หากแต่ภูเขาไฟที่บุรีรัมย์ เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว และยังมีการค้นพบซากปราสาทหินสมัยขอมโบราณ แสดงถึงความเป็นชุมชนของคนสมัยก่อน แต่ปัจจุบันมีการบูรณะ รวมถึงการสร้างวัดขึ้นบนภูเขาไฟที่ว่า หลักๆ มีถึง 3 แห่ง คือ วนอุทยานเขากระโดง, วัดเขาอังคาร และปราสาทหินพนมรุ้ง เอาเป็นว่าชวนเที่ยวสัปดาห์นี้ เราไปไหว้พระกัน 3 ที่เลย ยิ่งเดี๋ยวนี้การเดินทางสะดวกสบาย เด็กไปได้ ผู้ใหญ่ไปดี ยิ่งมีความศรัทธาบวกเข้าไปด้วย 
 
                             จากตัวเมืองบุรีรัมย์ใช้ทางหลวงหมายเลข 219 บนเส้นทางสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ประมาณ 7 กิโลเมตร ก็จะถึงทางเข้า วนอุทยานภูเขาไฟเขากระโดง สมัยก่อนชาวบ้านเรียกว่า "พนมกระดอง" เป็นภาษาเขมร แปลว่า "ภูเขากระดอง" เพราะมีลักษณะคล้ายกระดองเต่า ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น กระโดง วนอุทยานเขากระโดงมีพื้นที่ราว 1,450 ไร่ ที่นี่เคยเป็นดินแดนภูเขาไฟ ที่ยังปรากฏร่องรอยปากปล่องให้ได้เห็นอย่างชัดเจน เป็นแอ่งลึกกว้าง เราสามารถขึ้นไปด้านบนเขาได้ 2 ทาง จากลานจอดรถด้านล่าง มีบันไดนาค ทอดยาวขึ้นสู่ด้านบน ดูเหมือนเป็นทางลาด แต่ถ้านับขั้นบันไดก็มีถึง 297 ขั้น และถ้าเดินขึ้นไปอาจจะนับได้หลายหอบ (สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย) 
 
                             บันไดนาคที่ว่านี้ เขาเรียกกันว่า  สะพานพิสูจน์ศรัทธาสาธุชน สร้างขึ้นเมื่อปี 2512 เพื่อขึ้นไปสักการบูชาพระสุภัทรบพิตร พระพุทธรูปคู่เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขากระโดง ซึ่งเมื่อพ้นบันไดก็จะถึงลานองค์พระเลย 
 
                             พระสุภัทรบพิตรมีขนาดหน้าตักกว้าง 12 เมตร สร้างขึ้นในปี 2512 โดยหลวงพ่อบุญมา ปัญญาปโชโต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดง และนายสุรวุฒิ บุญญานุสาสน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับชาวบุรีรัมย์ผู้มีจิตศรัทธา โดยมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในพระเศียรขององค์พระ 
 
                             บริเวณใกล้กัน มีปรางค์กู่โบราณ ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2505 แทนองค์เดิมที่สูญหายไป โดยสร้างมณฑปครอบทับไว้ เพราะตัวปรางค์ผุพังไปมากแล้ว และด้านบนนี้ยังมีต้นไม้หายากที่มักพบในบริเวณเขตภูเขาไฟ คือ ต้นโยนีปีศาจ หรือภาษาถิ่นหรือคนเขมรเรียกว่า “ต้นกะนุยขมอย”
 
                             หรือใครอยากขึ้นไปถึงเร็วหน่อยก็สามารถขับรถขึ้นไปได้ มีลานจอดรถด้านบนเขาเช่นกัน ระหว่างทางจะผ่านปากปล่องภูเขาไฟเขากระโดง มี สะพานแขวนลาวา เป็นสะพานแขวนข้ามปากปล่องภูเขาไฟ ที่มีป้ายระบุว่า อายุผ่านมาเท่ากับจำนวนก้าวคูณ 10,000 ปี ส่วนปากปล่องภูเขาไฟมีอายุประมาณ 3 แสนถึง 9 แสนปี สูงจากระดับน้ำทะเล 265 เมตร ซากปากปล่องเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งซีก ยอดเนินเขาเป็นขอบปล่องด้านทิศใต้เรียกว่า เขาใหญ่ ส่วนยอดเนินเป็นขอบปล่องด้านทิศเหนือเรียกว่า เขาน้อย หรือเขากระโดง ส่วนบริเวณที่เป็นขอบปล่องปะทุ คือ บริเวณที่เป็นหุบเขา ปัจจุบันมีสภาพเป็นสระน้ำ จัดได้ว่าเป็นซากภูเขาไฟที่ยังคงสภาพดี และในเส้นทางเขากระโดงนี้ ถือเป็นอีกสนามประลองของพวกปั่นเสือ โดยมีเส้นทางพิเศษจัดไว้ให้ได้ออกกำลังปั่นเสือขึ้นเขากัน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ด้วย
 
                             ลงจากภูเขาไฟเขากระโดง มุ่งหน้าเลยแยกประโคนชัย ไป อ.เฉลิมพระเกียรติ หาภูเขาไฟลูกถัดไปที่นั่นเป็นสถานที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญคู่จังหวัด ปราสาทพนมรุ้ง บนยอดเขาพนมรุ้ง หรือ วนํรุง (ภาษาเขมร)  ภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วอีกลูกหนึ่ง  
 
                             ความขรึมขลัง อลังการของปราสาทหินทรายสีชมพู ภายในอาณาจักรอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เป็นสถานที่แรกๆ ที่ผุดขึ้นในความคิดทันทีที่นึกถึงบุรีรัมย์ (แต่สมัยนี้อาจจะนึกไปถึงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพราะเป็นฟีเวอร์ไปทั้งเมือง) ปราสาทพนมรุ้งแรกสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู มีปรากฏหลักฐานศิลาจารึกอักษรขอมพบที่ปราสาท และบอกเล่าถึงผู้ก่อสร้าง คือ "นเรนทราทิตย์" เชื้อสายราชวงศ์มหิธรปุระ ผู้เกี่ยวข้องเป็นพระญาติกับเจ้าเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้สร้างปราสาทนครวัด  
 
                             มาวันนี้อุทยานประศาสตร์พนมรุ้ง ไม่เคยว่างเว้นจากการหลั่งไหลมาเยือนของนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติ ที่ "ชวนเที่ยว" เคยเขียนถึงไปแล้ว เมื่อเดือนก่อน (ฉบับวันที่ 27 กรกฎาคม 2557) 
 
                             ออกจากอุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง เราจะมุ่งไปไหว้พระที่เขาอังคาร ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 20 กม. ซึ่งก็เป็นอีกวัดที่ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว โดยลงจากเขาพนมรุ้ง ถึงบ้านตาเป็ก เลี้ยวซ้ายไปทางอ.ละหานทราย ราว 13  กม. แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางลูกรังอีกประมาณ 7 กม. (จะผ่านที่ตั้งของโรงปูน และกำลังทำทาง มีรถสิบล้อเยอะ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง) 
 
                             ขึ้นถึงวัด สิ่งแรกที่เห็นเป็นพระนอนองค์ใหญ่ ส่วนฝั่งวิหาร จะมีพระพุทธรูปเรียงรายอยู่โดยรอบ ภายในบริเวณวัดเคยมีการค้นพบโบราณสถานเก่าแก่และใบเสมาหินทรายสลักภาพบุคคล สถูป ดอกบัว และธรรมจักร สมัยทวารวดีหลายชิ้น อยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-14 ปัจจุบัน มีการก่อสร้างโบสถ์ ศาลาและอาคารต่างๆ เลียนแบบสถาปัตยกรรมสมัยต่างๆ ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษ จัดเป็นวัดที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์
 
                             ไหว้พระ อิ่มบุญอิ่มใจ ชมวิวจากยอดภูเขาไฟ ที่วันนี้ไม่ให้ความรู้สึกถึงความน่ากลัวของภูเขาไฟที่จะปะทุใดๆ กลับมาพักผ่อนหย่อนใจในเมือง ถ้าใครชอบดูนก แนะนำเลย "อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด" ซึ่งประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หลังจากสำรวจพบนกชนิดต่างๆ มากกว่า 100 ชนิด บางชนิดใกล้สูญพันธุ์ หาดูได้ยาก และที่นั่นยังเป็นแหล่งหนองน้ำใหญ่ที่พักผ่อนหย่อนใจของคนบุรีรัมย์ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอีกด้วย 
 
                             ส่วนฉันขอเลยไปผักผ่อนแบบสนุกๆ กึ่งผจญภัยเล็กๆ ที่ เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท อ.คูเมือง อยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ราว 30 กม. ที่นี่มีห้องพักให้เลือก 20 ห้อง ที่น่าตื่นตาตื่นใจกับการแต่งห้องไม่ซ้ำกัน ชั้นบนเป็นโซนยุโรป ชั้นล่างเป็นโซนเอเชีย ตกลงกันได้ คืนนี้ฉันขอไปนอนที่เกาหลีก่อนแล้วกัน
 
                             ที่จริงเพ ลาเพลินไม่ได้เน้นที่พัก แต่เน้นกิจกรรมกลางแจ้งและอุทยานไม้ดอกเป็นหลัก ใครแวะผ่านมาเที่ยวเล่น เที่ยวชม โดยไม่พักค้างก็ได้ ที่นี่เลยเป็นอีกสถานที่สำหรับถ่ายภาพเก๋ๆ แล้วแชร์ให้เพื่อนดูในช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก การตกแต่งสถานที่เก๋ๆ มีมุมหลากหลาย แค่บริเวณติดต่อด้านหน้าก็เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ได้ไม่ยาก ผนังที่มีนาฬิกาหลากรุ่นแขวนอยู่เต็มน่าก็น่าสนใจไม่น้อย  ลึกเข้าไปด้านในเป็นโซนกิจกรรมผจญภัย ที่จำลองสิ่งหมัศจรรย์ของโลกมาเป็นฐานกิจกรรม 
 
                             แล้วฉันก็เลือกขึ้นบันไดไปหอเอนปิซ่า เพื่อจะโรยตัวลงมาข้างล่าง ก่อนจะไปปีนขึ้นกำแพงเมืองจีน เพื่อขึ้นไปเดินบันไดเชือก แล้วโหนรอกข้ามน้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง ต่อด้วยการเดินสะพานเชือกกลับมา หรือจะวิ่งเบาะน้ำกลับมา ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน 
 
                             พักเหนื่อยก็ไปเดินเล่นแถวโซนเด็กๆ บ้าง มีการแต่งสวนสไตล์อังกฤษ บ้านกังหันลม  หรือจะเลือกเดินลึกเข้าไปด้านใน (หรือใช้รถรางของรีสอร์ท) จะเป็นโซนอุทยานไม้ดอก ที่มีการตกแต่งโรงเรือนต่างๆ  ส่วนพื้นที่กลางแจ้งก็มีต้นไม้สารพัดชนิดตกแต่งสถานที่ ตามแต่ฤดูกาลของดอกไม้เหล่านั้น
 
                             เพลินกับการพักผ่อนในสถานที่กว้างๆ มีกิจกรรมกลางแจ้งให้เล่น เดินทางไหว้พระบนเขา ที่เราอาจไม่รู้ว่าเป็นภูเขาไฟมาก่อน บุรีรัมย์ ... ไม่ธรรมดาจริงๆ 
 
 
 
 
 
 
 
------------------------------
 
(ชวนเที่ยว : ไหว้พระบนภูเขาไฟ ผจญภัย 'เพ ลาเพลิน' : เรื่อง / ภาพ ... นพพร วิจิตร์วงษ์)