"ขมิ้นชันตรัง 2” สมุนไพรตัวใหม่ ระยะเวลาปลูกสั้น-ให้ผลผลิตสูง | คมชัดลึก

  นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ปัจจุบันเกษตรกรปลูกขมิ้นชันกระจัดกระจายทั่วประเทศราว  5,000-6,000 ไร่ แต่ได้ผลผลิต 1-1.2 หมื่นตัน ซึ่งราคาในท้องตลาดค่อนข้างสูง และยังเป็นที่ต้องการของตลาด จึงทำให้นักวิจัยจากศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง กรมวิชาการเกษตร ได้ศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ขมิ้นชันมาตั้งแต่ปี 2541 ตั้งเป้าให้ได้พันธุ์ขมิ้นชันที่เหมาะสมในการบริโภค ให้ผลผลิตสูง และมีสารสำคัญเคอร์คูมินอยด์ (curcuminiod) ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด คือ 5% ให้มีน้ำมันหอมระเหย (volatile oil) ไม่ต่ำกว่า 6% เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่เกษตรกรที่จะนำไปปลูกป้อนตลาด ซึ่งจะช่วยสร้างอาชีพและสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว

    ล่าสุด นายสมชายบอกว่า เป็นที่น่ายินดีเพราะขณะนี้ศูนย์วิจัยพืชสวนตรังได้พัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ขมิ้นชันพันธุ์ใหม่ได้เสร็จสมบูร์แล้ว คณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร ได้พิจารณาเห็นชอบให้เป็นพันธุ์แนะนำชื่อ "ขมิ้นชันพันธุ์ตรัง 2" เป็นขมิ้นชันพันธุ์ใหม่มีความสูงของต้น 0.8-1.1 เมตร ใช้ระเวลาปลูก 9 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ขณะที่ขมิ้นชันทั่วไปใช้เวลาราว 10 เดือน ที่สำคัญปลูกในพื้นที่ภาคใต้ให้ผลผลิตหัวสดไร่ละราว 2.59 ตัน จากพันธุ์ทั่วไปให้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 2 ตัน นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญเคอร์คูมินอยด์เฉลี่ย 11.04% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานยาสมุนไพรไทยถึง 120.80% มีน้ำมันหอมระเหยเฉลี่ย 7.78% สูงกว่ามาตรฐานยาสมุนไพรไทย 29.67% เนื้อในหัวสีส้มแกมแดง หรือ Orange group 28 B

 อธิบดีกรมวิชาการเกษตร บอกอีกว่า มิ้นชันพันธุ์ตรัง 2 สามารถปลูกได้ในเขตภาคใต้และทั่วไปที่มีสภาพดินร่วนปนทราย การระบายน้ำดี อุณหภูมิเฉลี่ย 27-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย 70-80% ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,500-2,000 มิลลิลิตรต่อปี แต่ไม่ควรใช้ส่วนขยายพันธุ์ (หัวและแง่ง) ที่มาจากแหล่งที่เป็นโรคเหี่ยวและโรคโคนเน่า เพราะอาจจะทำให้เกิดโรคระบาดในขมิ้นชันพันธุ์ตรัง 2 ได้

 "ปัจจุบันศูนย์วิจัยพืชสวนตรังได้เร่งเพาะขยายพันธุ์ขมิ้นชันตรัง 2 เพื่อเพิ่มปริมาณมากขึ้น พร้อมกับส่งหัวและแง่งขมิ้นชันพันธุ์ตรัง 2 ให้สถาบันวิจัยพืชสวนและศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ เพื่อขยายพันธุ์โดยใช้เทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณต้นพันธุ์ได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกษตรกรนำไปปลูกเชิงการค้าในอนาคต" อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

 ขมิ้นชันถือเป็นพืชที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ค่อนข้างหลากหลาย เป็นทั้งเครื่องเทศ สมุนไพร หรือพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ ซึ่งปัจจุบันตลาดทั้งภายในและต่างประเทศมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ราคาค่อนข้างสูงคือหัวสดซื้อขายที่ราคา กก.ละ 10-50 บาท หัวแห้ง (ทั้งหัว) กก.ละ 30-150 บาท หัวหั่นเป็นแว่นแห้ง กก.ละ 60-150 บาท และผงขมิ้นชันแห้ง กก.ละ 80-150 บาท

 ขมิ้นชันพันธุ์ตรัง 2 ก็นับเป็นอีกทางเลือกของเกษตรกร หากสนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง หมู่ 2 ต.ไม้กวาด อ.สิเกา จ.ตรัง โทร.0-7521-1133 หรือ 0-7520-3248 ในเวลาราชการ