
เสียงละเมอของ'ชวาลา ชัยมีแรง'
10 ส.ค. 2557
เสียงละเมอของ'ชวาลา ชัยมีแรง' : คอลัมน์ ศิลป์แห่งแผ่นดิน โดย... ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
เพลง “แสงจันทร์” สุดยอดเพลงหนึ่งของ มาลีฮวนน่า
“แสงจันทร์กระจ่าง ส่องนำทางสัญจร คิดถึงนางฟ้าอรชร ป่านนี้นางนอนหลับแล้วหรือยัง แสงจันทร์นวลใย ข้าจ่อมจมในภวังค์ เรไรเสียงไพรแว่วดัง ยิ่งฟังยิ่งเหงาจับใจ...คิดถึง
เดินทางกลางเถื่อน กลางหมู่เดือนและหมู่ดาว แหงนมองฟ้าดั่งมองเงา ของเยาวมาลย์อยู่ในสายลม ผู้ใดซ่อนเจ้า น้ำค้างเหน็บหนาวและขื่นขม น้ำตาหยด หยดทุกข์ระทม พร่างพรมอยู่ในสองตา..หวั่นไหว
เอาใจและร่างออกมาว่างเดิมพัน เดินทางไกลอยู่ใต้แสงจันทร์ คิดถึงทุกวัน คิดถึงทุกคืน คิดถึงคนรัก ชุบชูใจให้ตื่นฟื้น โอ้ฝันอยู่ทุกค่ำคืน ในคืนที่มีแสงจันทร์...อ่อนหวาน
แขวนความฝันใฝ่ สองเราไว้ที่ปลายฟ้า เดินทางผ่านสายธารเวลา ขอให้ศรัทธาอย่าลืมลางเลือน รอแสงสว่าง อรุณรุ่งรางมาเยือน ฝากใจไว้กับแสงดาวเดือน ขอให้มาเยือนเธอในนิทรา...หลับฝัน..”
ใครกี่คนจะรู้ว่า เพลงอันงดงามในนามมาลีฮวนน่าเพลงนี้ ผู้ประพันธ์คำร้อง ทำนอง คือ ชวาลา ชัยมีแรง
ชวาลา ชัยมีแรง คนชัยภูมิ เรียนศิลปะที่เทคโนฯ โคราช เรียน ม.รามคำแหง ปี 2528 เคยได้แชมป์โฟล์คซองที่ธรรมศาสตร์ ทำเพลงชุดแรกเป็นเทปคาสเซ็ต เมื่อปี 2532
แต่งเพลงให้นักร้องหลายคน นอกจากมาลีฮวนน่าแล้ว ยังมีสีเผือก “คนด่านเกวียน” ที่ขับร้องเพลงแสงจันทร์ด้วย ในชื่อเพลงว่า “นางฟ้าอรชร”
ชวาลา ชัยมีแรง ขับร้องเพลง “แสงจันทร์” ของเขาได้อรรถรส อารมณ์เพลงไปอีกแบบ แต่เพลงแสงจันทร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือฉบับของมาลีฮวนน่า ที่อาจารย์ไข่ คฑาวุธ ทองไทย ขับร้องได้อย่างวิเศษ เท่าที่นักร้องคนหนึ่งจะขับร้องเพลงเพลงหนึ่งให้ไพเราะกินใจได้ ฟังเวลาเหงาๆ หวานเศร้าซึมลึกหากเผลอปล่อยใจจมภวังค์ไม่ตั้งสติ น้ำตาซึมเอาได้ง่ายๆ นั่นเพราะพลังศิลปะการขับร้องที่ยอดเยี่ยม ประกอบกับคำร้อง ทำนองที่สมบูรณ์แบบ ทุกถ้อยคำในเพลงทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องกราบคารวะงามๆ นอกจากเพลงแสงจันทร์แล้ว ชวาลา ชัยมีแรง ยังแต่งเพลงไว้อีกหลายเพลง เช่นเพลง “เรือน้อย” คำร้อง กินใจเหลือหลาย
ล่าสุด ผมเพิ่งได้เพลงชุด “เสียงละเมอของผีเสื้อ” ของชวาลา ชัยมีแรงมา คำร้อง-ทำนอง และขับร้อง
10 เพลง ในชุด แก้มหอม เธอจ๋า วันนั้นวันนี้ หัวใจดวงเก่า คิดไม่ถึง ใจพเนจร สถานีน้ำตา รอรจนา เสียงละเมอของผีเสื้อ น้ำตากระจอก
ผมชอบชื่อ “อัลบั้ม” “เสียงละเมอของผีเสื้อ” มาก เห็นชื่อก็อยากฟัง
“เนื้อเพลง” “เธอมาให้เห็นเพื่อให้เป็นภาพความทรงจำ เป็นบทเศร้าซ้ำ ซ่อนในคำร่ำลาชาชิน ได้พบ ในดวงตา และสาให้น้ำตาริน สายฝนหล่นมาหาดิน หลั่งรินเพียงช่วงเวลา
เปิดตาของฉันให้ฉันเห็นดวงตาของเธอ เปิดใจในเจอ รักที่เธอให้มาปรานี แว่วเสียงกระซิบแผ่วเบา เริงเร้าในยามราตรี ไออุ่นอรุณรวี ร้อยบทกวียามเช้า
ชิดอยู่ข้างใจ ห่างไกลแต่ใจยังเห็น เย็นฝนพรำยามเย็นกระเซ็นสาดใจให้เพ้อ เสียงผีเสื้อปีกบาง คร่ำครวญหนาวคราวละเมอ ห่างไกลแต่ใจได้เจอ ภาพเธออยู่ในห้วงฝัน
วันคืนล่วงลับ ลับล่วงเลยไม่เคยย้อนคืน ยังอยู่หยัดยืน ฝืนสู้ทนบนทางชีวา รอยเท้าทอดทิ้งห่างไกล ไปในกาลเวลา หลุดลอยดังคำสัญญา ผ่านมาเพียงให้จดจำ
ฉันยังจดจำ ถ้อยคำที่เธอฝากไว้ ภาษากระซิบ เสียงใจ อยู่ในสายลมอ้างว้าง คืนหนาวกลางแสงเดือน ไม่เคยจะเลือนลับราง ความจำมิยอมจางจาก ปล่อยวางดวงตาของเธอ”
ลงเนื้อเพลงไว้ให้อ่านกันเต็มๆ นี่คือจุดแข็งของเขา คำร้องที่สวยงาม อุดมด้วย “ธาตุกวี” เพลง “เสียงละเมอของผีเสื้อ” จะค่อยๆ แทรกซึมเข้าถึงจิตถึงใจผู้ฟังอย่างช้าๆ เป็นเพลงที่ต้องตั้งใจฟังทุกถ้อยคำ
เพลงอื่นๆ ผมขอละไว้ที่จะไม่พูดถึง ให้ท่านหามาฟังกันเอง ผู้ร่วมงาน : กระจ่าง ช่วยรอดหมด เปียโน, คีย์บอร์ด, เรียบเรียง ประยุทธ์ มารศรี คีย์บอร์ด, โปรแกรมเมอร์ วีระฤกษณ์ สุวรรณจักร กีตาร์โปร่ง, กีตาร์ไฟฟ้า นรินทร์ ปานสุข กีตาร์ไฟฟ้า YE WYNNT KYAW ไวโอลิน, WIN ZAW เบส
เขียนถึง...ชวนให้ฟัง... เสียงละเมอของผีเสื้อ ชวาลา ชัยมีแรง ครับผม
.......................................
(หมายเหตุ เสียงละเมอของ'ชวาลา ชัยมีแรง' : คอลัมน์ ศิลป์แห่งแผ่นดิน โดย... ศักดิ์สิริ มีสมสืบ)