เปิดซองส่องไทย : ไม่จ่าย ถูกจับ | คมชัดลึก

 

                           ดิฉันเป็นคนสมุทรสาคร ต้องไปจับจ่ายซื้อของที่บริเวณริมถนนฟุตบาท ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร เป็นประจำ ไม่ทราบว่าทำไมประชาชนจึงไม่สามารถเดินบนฟุตบาทได้เลย เนื่องจากมีการตั้งแผงขายของเต็มไปหมด โดยมีบรรดาพ่อค้า แม่ค้า วางของขายกันเป็นแถว ซึ่งผู้ค้าขายทั้งหลายต้องมีการจ่ายเงินให้แก่เทศบาลนครสมุทรสาครด้วย หากไม่จ่ายก็จะโดนเทศกิจจับ 

 

                           อยากร้องไปยังนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาครว่า ดูแลลูกน้องอย่างไรถึงให้มีการเรียกเงินจากพ่อค้า แม่ค้าเหล่านี้ และฟุตบาทก็เป็นทางเดินส่วนรวม ทำไมจึงปล่อยให้มีการค้าขายเต็มทางเดินไปหมด แล้วชาวบ้านจะใช้พื้นที่ตรงไหนในการเดินได้อย่างไร เพราะต้องลงไปเดินบนถนนแทน แถมบนถนนก็มีร้านค้าขายอีกเช่นกัน จึงทำให้ชาวบ้านไม่มีพื้นที่ในการเดินเลย จึงต้องลงไปเดินบนท้องถนนแทน ซึ่งต้องเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายเป็นอย่างมาก และถ้าประชาชนได้รับอันตรายใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ 

 

                           และการค้าขายตรงบริเวณนี้ก็ไม่เป็นระเบียบ อยากตั้งตรงไหนก็ตั้งกัน รุกล้ำทาง รุกล้ำถนน จึงอยากทราบว่าทางเทศบาลนครสมุทรสาครให้ตั้งค้าขายได้อย่างไร และถ้าให้ค้าขายแล้วทำไมจึงต้องมีการเรียกเก็บเงินกันด้วย อย่างนี้บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ก็มาขึ้นราคากับผู้ซื้ออีกทีหนึ่งหรือเปล่า เพราะต้องจ่ายเงินให้แก่เทศบาล และทางฝ่ายเทศกิจที่เรียกเก็บเงินนำเงินไปไหน นำเข้าคลังหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ อยากให้ทีมงานลุงแจ่มลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบด้วย ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร 

 

 

วลินดา / สมุทรสาคร

 

 

ตอบ

 

 

                           น.ส.อุษา นิลสุวรรณ หัวหน้างานรักษาความสงบ เทศบาลนครสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ชี้แจงว่า บริเวณริมถนนฟุตบาท ตลาดมหาชัย ทางเทศบาลนครสมุทรสาครจะมีจุดผ่อนผันเพื่อให้ค้าขายได้ โดยต้องตั้งร้านให้เป็นระเบียบ แต่ถ้าเป็นพวกหาบเร่ แผงลอย รถเข็นทั่วๆ ไป จะไม่ให้ขาย เพราะไปจอดในจุดที่ไม่ให้ประกอบการค้า โดยครั้งแรกจะเป็นการตักเตือนก่อน พอพบพวกหาบเร่ แผงลอย หรือรถเข็น ทำการฝ่าฝืนในการขายของอีก ทางเทศบาลก็จะต้องยกของทั้งหลายเหล่านี้เข้ามาที่เทศบาล เพื่อทำการเปรียบเทียบปรับ โดยการปรับก็จะดูที่ลักษณะของสินค้าว่าขายพวกอะไร ทางเทศบาลจึงทำการปรับเป็นจำนวนเงิน 100-200 บาทเท่านั้น และก็จะออกใบเสร็จให้ทุกครั้งที่มีการปรับ 

 

                           ส่วนบริเวณตลาดมหาชัย ก็จะมีการจ่ายเงินเป็นค่ารักษาทำความสะอาดในตัวตลาด ต้องจ่ายที่สำนักการคลังเป็นรายเดือนเดือนละประมาณแล้วแต่พื้นที่ที่ใช้สอย เพราะพื้นที่ไม่เท่ากัน โดยคิดที่ตารางเมตรละ 5 บาท คุณด้วย 30 วัน ก็จะได้ราคาในแต่ละเดือน  แต่ร้านค้าในตลาดนั้น ใช้พื้นที่ไม่เท่ากันจึงต้องทำการคำนวณในแต่ละเดือนโดยร้านมีความกว้างเท่าไหร่ก็จ่ายตามนั้น และก็ได้รับใบเสร็จรับเงินจากทางเทศบาลเหมือนกัน

 

                           บริเวณตลาดมหาชัย เป็นจุดผ่อนผันในการค้าขาย โดยช่วงเช้าจะให้ขายบนถนนได้ คือขายกันเองจริงๆ แล้วทางเทศบาลก็ไม่อยากให้ขาย แต่ตลาดมหาชัยตรงนี้เป็นแบบนี้มานานแล้วจึงเข้าไปทำการแก้ไขอะไรไม่ได้เท่าไหร่นัก จึงต้องตั้งเวลาให้ขายของได้ถึง 08.00 น.เท่านั้น พอถึง 08.00 น. แล้ว ร้านค้าที่ตั้งล้ำมาบนถนนทั้งหมดต้องขึ้นไปตั้งบนฟุตบาทเท่านั้น ถ้าล้ำออกมาแล้วทางฝ่ายเทศกิจตรวจพบก็จะทำการเตือนเป็นลำดับแรกก่อน ถ้าเตือนแล้วยังไม่ทำตามกฎที่ฝ่ายเทศกิจตั้งมาก็จะมีการจับปรับเหมือนกัน 

 

                           และตรงบริเวณนี้ทางเดินเท้าจะมีให้เดินประมาณไม่ถึงเมตร เป็นทางเท้าแคบนิดเดียว ก็อนุโลมให้ประชาชนต้องลงไปเดินตรงถนนตรงถนนสุขาภิบาลที่เดียว โดยให้เว้นช่องทางเดินให้คนเดิน 50 เซนติเมตรเท่านั้น และก็ต้องมีช่องทางเดินบนฟุตบาทอีก 50 เซนติเมตรเหมือนกัน และบริเวณถนนก็จะมีรถจักรยานยนต์มาจอดอีก โดยกำหนดจอดเป็น วันคู่ วันคี่ ก็ยิ่งทำให้ถนนแคบลงไปอีก ซึ่งตอนนี้ทางฝ่ายเทศกิจกำลังจัดระเบียบตลาดมหาชัยอยู่ 

 

                           หัวหน้างานรักษาความสงบ บอกว่า รับรองได้ว่าทางเทศบาลนครสมุทรสาคร ไม่มีการเรียกเก็บเงินเข้ากระเป๋าใครทั้งนั้น เพราะในการเก็บเงินแต่ละครั้ง บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ทั้งหลายต้องมาจ่ายกันเองที่เทศบาล และทุกคนที่มาจ่ายก็จะได้รับใบเสร็จกันทุกคน และเงินที่ได้รับจากพ่อค้า แม่ค้า เหล่านี้ ทางเทศบาลก็นำมาบำรุงตลาดมหาชัย เทศบาลก็อยากทำความเข้าใจกับผู้ร้องเรียนว่าทางเทศบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินแต่อย่างใด 

 

 

ลุงแจ่ม

 

 

 

กลัวโดนจับ

 

 

                           ผมกับภรรยาซื้อบ้านผ่านธนาคาร ปี 2540 จนเมื่อถึงปี 2541 เราก็แยกทางกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก็ให้ธนาคารยึดบ้านไป กระทั่งปี 2555  ธนาคารฟ้องผม มีหมายศาลให้ผมไปศาลแต่ผมไม่เคยเซ็นรับเลย เพราะไม่เคยอยู่บ้านตามทะเบียนบ้าน ผมค้าขายอยู่ต่างจังหวัดตลอดเวลา 

 

                           สิ่งที่อยากทราบคือ  ผมไม่ได้เซ็นหมายศาลที่เรียกมา ผมจะผิดไหมครับ และเขาฟ้องผมได้ไหมครับ โดยที่ผมไม่ได้เซ็นรับหมายศาล ผ่านมา 10 ปีแล้ว ผมก็เหมือนคนล้มละลาย และอีกเรื่องคือ บัตรประชาชนผมหมดอายุแล้ว ผมสามารถไปทำบัตรประชาชนใหม่ได้ไหมครับ ถ้าโดนฟ้องล้มละลายแล้ว ผมไปทำบัตรผมจะโดนจับไหมครับ

 

 

สมคิด

 

 

ตอบ

 

 

                           ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ชลธิชา  สมสอาด คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำเรื่องนี้ว่า กรณีของคุณไม่ได้บอกรายละเอียดว่า ขณะนี้คุณถูกฟ้องล้มละลาย หรือฟ้องทางแพ่งเพียงอย่างเดียว  ซึ่งทั้งสองกรณีนี้ไม่เหมือนกัน 

 

                           หลังจากธนาคารยึดบ้านไปแล้ว ก็ต้องขายทอดตลาด ถ้าขายแล้วเอาเงินมาใช้หนี้แล้วยังไม่พอ ธนาคารก็จะฟ้องเพื่อให้คุณชดใช้หนี้ส่วนที่เหลือ 

 

                           จากข้อมูล เข้าใจว่า คุณถูกฟ้องเรียบร้อยแล้ว การที่คุณไม่ได้เซ็นเอกสารใด ที่ศาลส่งมาให้ เจ้าหนี้ก็มีสิทธิฟ้องฝ่ายเดียว ศาลจะตัดสินจากฝ่ายเดียว เนื่องจากคุณไม่ได้ไปชี้แจงให้ศาลทราบในส่วนของคุณ และจากข้อมูลเข้าใจว่า ขณะนี้เรื่องของคุณอยู่ในขั้นตอนของการบังคับคดีแล้ว คือ ศาลตัดสินไปแล้วว่าคุณต้องชำระหนี้ส่วนต่างที่เหลืออยู่ ถ้าเจ้าหนี้สืบทราบว่า คุณมีทรัพย์สินก็สามารถบังคับให้คุณใช้หนี้ได้เลย โดยคุณต้องจ่ายหนี้คืน กรณีนี้เป็นการฟ้องแพ่ง  

 

                           แต่ถ้าป็นกรณีที่ถูกฟ้องล้มละลาย จะมีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาจัดการกับทรัพย์สินที่คุณมี เช่น ถ้าคุณมีเงินเดือน เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์จะเข้ามาจัดการเงินเดือนในแต่ละเดือนของคุณ หรือ เข้ามาจัดการดูแลทรัพย์สินของคุณ ถ้าคุณมี 

 

                           ดังนั้น เรื่องของคุณ น่าจะผ่านขั้นตอนของการฟ้องร้องมาแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการบังคับดคี 

 

                           ส่วนเรื่องการทำบัตรประชาชนไม่มีผลอะไรกับเรื่องหนี้ที่คุณมี ประชาชนทุกคนมีสิทธิทำบัตรประชาชน และเจ้าหนี้ก็ไม่มีสิทธิมาจับคุณ ถ้าเป็นคดีแพ่ง 

 

                           แต่ถ้าเป็นการล้มละลาย และคุณมีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินโดยที่เจตนาจะหลบหลีกการใช้หนี้ แล้วเจ้าหนี้สามารถรู้ หรือตามได้ กรณีนี้ก็มีสิทธิโดนจับเหมือนกัน

 

 

ลุงแจ่ม