'นิคอน ดีเอฟ'กระตุ้นอารมณ์กล้องฟิล์ม : ไอที รีวิว | คมชัดลึก

              แม้จะเปิดตัวมาสักพักใหญ่ แต่เสียงที่พูดถึงกล้อง Nikon Df กล้องดิจิทัลหน้าตาย้อนยุคยังคงดังอย่างต่อเนื่องในกลุ่มนักถ่ายภาพ และนักนิยมสะสมกล้องถ่ายภาพ จัดเป็น "แรร์ ไอเทม" สำหรับนักถ่ายภาพกันเลยทีเดียว

               นอกจากตัวกล้องจะมีหน้าตาที่ย้อนยุคมีปุ่มควบคุมการทำงานทั้งการปรับค่าสปีดชัตเตอร์ ค่าความไวแสง (ISO) ตั้งแต่ 100-25,600 สามารถใช้งานจริงในเวลาจำเป็นโดยถ่ายภาพเป็น RAW แล้วไปจัดการ Noise ด้วยซอฟต์แวร์ภายนอกได้ ส่วนค่า ISO 204,800 อันนี้ขอบอกว่าเละไม่เหลือชิ้นดี นิคอนไม่ต้องใส่มาก็ได้นะครับ การชดเชยแสง ปุ่มเลือกโหมดการทำงาน และปุ่มชัตเตอร์ แทรกด้วยหน้าจอแสดงค่าขนาดเล็กรวมอยู่ด้านบนของตัวกล้อง ไล่จากซ้ายไปขวา แถมด้านหน้ายังมีปุ่มหมุน และปุ่มกดให้ใช้งานกันอีกมาก เรียกว่า งานนี้ครบอารมณ์กล้องฟิล์มและมีแถมฟีลลิ่งของกล้องดิจิทัลเข้าไปด้วยตั้งแต่แรกเห็น

               น้ำหนักของตัวกล้องก็ไม่มาก เพียง 765 กรัม ถือได้เบาสบาย และเมื่อผนวกกับเลนส์คิท Nikkor 50 mm.F1.8G ที่มีน้ำหนักเบาเข้าไปด้วย ทำให้กล้องชักมีน้ำหนักของความเป็นกล้องดิจิทัลมากขึ้นไปอีก เพราะจากที่เคยสัมผัสกล้องฟิล์มมาในอดีต อย่างเช่น Nikon FM2 ผบวกกับเลนส์ 50 mm. ก็ให้ความรู้สึกว่าหนัก และแน่นกว่านี้

               ในส่วนของเทคโนโลยีที่นิคอนสรรใส่ลงไปในกล้อง Digital Fusion (ที่มาของคำว่า Df) ตัวนี้ เริ่มจากเซ็นเซอร์ฟูลเฟรม (เทียบเท่าฟิล์ม ขนาด 35 มม.) แบบ  FX CMOS (36.0 x 23.9 มม.) ความละเอียด 16.2 ล้านพิกเซล และหน่วยประมวลผลภาพ EXPEED 3 รองรับการถ่ายไฟล์ RAW 14 บิต และ JPEG มีฟังก์ชั่น DX Crop Mode  (ตัดส่วนของภาพและขยายให้เท่ากับกล้องเซ็นเซอร์APS-C แบบตัวคูณ) และ Picture Control รวมทั้งซอฟต์แวร์แต่งภาพในตัวกล้องจัดการแต่งภาพให้จบได้เลยไม่ต้องส่งเข้าคอมพิวเตอร์

               ขณะที่การใช้งานจริงนั้น กล้องตัวนี้ให้ความสะดวกมาในแบบของกล้องดิจิทัล แต่ไม่สะดวกสุดๆ ไม่มีแป้นหมุนรวมศูนย์สั่งการ ให้ใช้ปรับนั่นปรับนี่หลังจากที่ยกกล้องขึ้นจ่อตาแล้ว แต่ก็ยังปรับได้ "บ้าง" โดยอาศัยปุ่มหมุนด้านหน้าที่ช่วยปรับค่า F Stop ในบางโหมดการทำงาน แต่ไม่เกินลิมิตที่ผู้ใช้ตั้งค่าไว้ด้วยการหมุนปุ่มหลักด้านบน สรุปง่ายๆ ว่าก่อนจะยกกล้องขึ้นจ่อตาเข้ากับวิวไฟน์เดอร์ ก็ต้องจินตนาการภาพที่จะออกมาเสียก่อน และตั้งค่าให้แล้วเสร็จก่อนยกกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์

               ต้องยอมรับเลยว่าเสียงชัตเตอร์ของ Nikon Df นั้นหนักแน่น ให้ความรู้สึกมั่นคง และจะยิ่งไพเราะเมื่อกดชัตเตอร์รัว ด้วยความเร็ว 5.5 เฟรมต่อวินาที ระบบโฟกัส 39 จุด ทำงานได้ดี ไม่วืดวาดให้เสียอารมณ์เหมือนกล้องรุ่นเล็ก แต่ในสภาพแสงน้อยก็ต้องเล็งแล้วเล็งอีกหรือหาแสงมาช่วยโฟกัสเหมือนกัน

               ภาพที่ได้จากกล้องตัวนี้ขอบอกว่าเคลียร์กว่าเจ้า D 5300 ที่ได้ลองไปก่อนหน้านี้ค่อนข้างชัดเจน ความอิ่มและการเน้นพลังของสีสัน ทำได้ดีถึงดีมาก

               ส่วนตัวแล้วมองว่าสเน่ห์ที่สำคัญที่สุดของเจ้า Df คือ การที่เราจะมีสมาธิ และจินตนาการในการถ่ายภาพในแบบเดียวกับกล้องฟิล์ม ขณะที่ความสะดวก และคุณภาพไฟล์ที่ได้มา นั้นก็ขึ้นอยู่กับ "ฝีมือ" ผู้ใช้ไม่น้อย เท่ากับเป็นการฝึกฝนจิตใจนักถ่ายภาพที่ยอมลงทุน 95,000 บาท กับชุดกล้อง Nkon Df+ เลนส์ 50 mm. F1.8 G ได้เป็นอย่างดี