
กทม.เดินหน้าโครงการGreen Wi-Fiเพิ่ม256k
กทม.อัพเกรดให้บริการ Green Bangkok Wi-Fi ปีที่ 2 เพิ่มความเร็ว 256 kbps พร้อมเตรียมตั้ง คกก.ประเมินผลความคุ้มค่า-ประชาชนพึงพอใจหากไม่เวิร์กยกเลิกสัญญา ทรูฯ ด้าน สตง.สอบระบุ กทม.เข้าข่ายเอื้อประโยชน์เอกชนทำป้ายโฆษณาให้โดยไม่เก็บผลตอบแทน
นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยถึงโครงการ Green Bangkok Wi-Fi ซึ่ง กทม.ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายฟรีในพื้นที่ กทม. ว่า โครงการดังกล่าวจะครบ 1 ปี ในวันที่ 30 มิ.ย. 2552 ซึ่งประชาชนยังสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโครงการมีระยะเวลาครอบคุลมถึง 3 ปี ตามข้อตกลงระหว่าง กทม.และบริษัท ทรูฯ ซึ่งการให้บริการในปีที่ 2 กทม.จะเพิ่มทางเลือกของ Green Bangkok Wi-Fi โดยอัพเกรดบริการเป็นบอร์ดแบรนด์ สำหรับผู้ที่ต้องการความเร็วสูงขึ้น 256 kbps ใช้ฟรี 1 ชั่วโมง/เดือน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. หรือเลือกใช้แบบเดิมที่ความเร็ว 64 kbps ไม่จำกัดเวลาการใช้งานและยังสามารถใช้ต่อเนื่องไปจนกว่าจะหมดสัญญา โดยระหว่างนี้ กทม.และบริษัท ทรูฯ จะร่วมกันประเมินผลความคุ้มค่าและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการในช่วง 3 เดือนแรกรวมทั้งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาด้วย
นายธราดล กล่าวว่า ส่วนกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เข้ามาตรวจสอบโครงการดังกล่าว โดยสงสัยว่าอาจเป็นการเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้เอกชน เนื่องจาก กทม.มีการลงทุนประชาสัมพันธ์โครงการด้วยการติดตราสัญลักษณ์ของบริษัท ทรูฯ ในป้ายโฆษณา ซึ่งน่าจะเป็นรูปแบบของการให้สิทธิเอกชนเข้ารับสัมปทานโครงการต้องจ่ายผลตอบแทนให้ส่วนราชการนั้น ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าว กทม.จะร่วมมือกับ สตง.ในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ และในช่วงนี้จะยังไม่มีการซ่อมแซมและยังไม่มีการติดตั้งป้ายโฆษณาเพิ่มเติมด้วย แม้บริษัท ทรูฯ จะมีหนังสือมาถึง กทม.ให้ดำเนินการซ่อมป้ายและเพิ่มป้ายโฆษณาอีก 1,500 ป้าย เพื่อให้เป็นไปตามสัญญา MOU ที่ได้ลงไว้ต่อกัน ซึ่งระบุว่า กทม.จะต้องติดตั้งป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์จำนวน 5,500 ป้าย รวมทั้งซ่อมบำรุงป้ายให้อยู่ในสภาพที่ดีเสมอ แต่เนื่องจากที่ผ่านมา กทม.ติดตั้งป้ายโฆษณาเพียง 4,000 ป้าย เพราะมีปัญหาไม่สามารถหาจุดติดตั้งเพิ่มได้
นายธราดล กล่าวว่า อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัท ทรูฯ ได้เข้าใจถึงเหตุผลในการไม่สามารถติดตั้งป้ายโฆษณาได้ เพราะ สตง.เข้ามาตรวจสอบซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติไม่สามารถฝืนได้ ส่วนการตรวจสอบก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของ สตง.ไป แต่การให้บริการไม่สามารถยุติได้ เพราะปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 40,000 ราย/เดือน ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนเข้าใช้งานมีจำนวนกว่าแสนราย หากหยุดให้บริการจะทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ อีกทั้งการตรวจสอบของ สตง.ก็เป็นคนละส่วนกับการให้บริการด้วย อย่างไรก็ตามหากผลการประเมินพบว่า กทม.ไม่คุ้มทุนและประชาชนไม่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง กทม.ก็พร้อมจะยกเลิกสัญญาที่เหลือ โดยที่ผ่านมา กทม.ลงทุนทำป้ายโฆษณาจำนวน 8.5 ล้านบาท
โฆษก กทม. กล่าวด้วยว่า สำหรับประชาชนที่จะใช้บริการสามารถเข้าสมัครหรือต่ออายุสมาชิกได้ทางเว็บไซต์ www.truewifi.net ส่วนการให้บริการ Wi-Max ตามนโยบายที่ผู้ว่าฯกทม.หาเสียงไว้นั้น ยังยืนยันที่จะเดินหน้าต่อไปแต่เนื่องจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องช่วงคลื่นสัญญาณและรูปแบบการให้บริการ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3-4 เดือนนี้
สำหรับกรณีที่ สตง.เข้ามาตรวจสอบโครงการ Bangkok Green Wi-Fi นั้น ได้มีการส่งหนังสือมาถึง กทม. เพื่อให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากตรวจสอบพบว่าการที่ กทม.ลงทุนโครงการนี้โดยใช้งบประมาณจำนวน 8.5 ล้านบาท ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์โครงการมีชื่อบริษัทเอกชน น่าจะเป็นรูปแบบของการให้สิทธิเอกชนเข้ารับสัมปทานโครงการต้องจ่ายผลตอบแทนให้ส่วนราชการ การดำเนินการดังกล่าวจึงเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้เอกชน