ชวนชิม : แซ่บบาร์...อย่าลืมพากันไปชิม | คมชัดลึก

 

                         พูดถึงเรื่องอาหาร บางคนเน้น "กินเพื่ออยู่" ขณะที่บางคนมีความสุขกับใช้ชีวิตแบบ "อยู่เพื่อกิน" แน่นอนว่าในกลุ่มแรกมักจะเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ ต่างจากกลุ่มหลังขอแค่ให้ได้ยินว่ารสชาติดีเถอะต่ออยู่สุดหล้าฟ้าเขียวก็ต้องดั้นด้นตามไปชิมไปลิ้มลอง และเมื่อพูดถึงรสอร่อย พาให้คิดถึงรส "แซบ" หลายคนอาจจะมโนไปถึง "อาหารรสชาติจัดจ้าน" ทั้งๆ ที่ความจริงของคำนี้ หมายถึง "รสชาติอร่อย" ซึ่งไม่ใช่แค่เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หรือ หวานจัด แต่เป็นความกลมกล่อมอย่างลงตัว....ที่ทองหล่อซอย 13 ก็มีแหล่งรวมความแซบทั้งอาหารและเครื่องดื่มชื่อว่า "แซ่บบาร์" เปิดให้บริการ 

 

                         ภายในร้านซึ่งได้รับการตกแต่งให้มีบรรยากาศสบายๆ นำเอากลิ่นอายแบบไอริสมาผสมผสานกับอารมณ์สปอร์ตเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ณัชภิตษา ตันตราภรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนแซ่บ จำกัด ให้คำจำกัดความของร้านว่า "แซ่บ" คือ อร่อย ส่วน "บาร์" คือ สถานบันเทิงที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขาย ดังนั้น "แซ่บบาร์" จึงเป็นแหล่งรวมของกินดื่มเลิศรส โดยกลุ่มเป้าหมายหลักเน้นคนทำงานในละแวกทองหล่อที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตแฮงก์เอาท์ และที่สำคัญต้องชอบทานอาหารอีสานด้วย ดูอย่างเฉพาะเมนูตำๆ ทั้งหลายทางร้านมีให้เลือกชิมถึง 20 รายการ ยังไม่รวมบรรดา ลาบ น้ำตก ปิ้งย่าง ทอด และอีกสารพัด ต้ม ยำ ผัด แกง นับกันไม่หวาดไม่ไหว ส่วนเรื่องเครื่องดื่มก็มีทั้งแอลกอฮอล์และไร้แอลกอฮอล์ตามความนิยม

 

                         เปิดตำรับความ "แซบ" ด้วยจานที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน "ตำแซ่บบาร์" มีแมงกะพรุนเป็นพระเอกตักทานกรุบกริบคู่กับข้าวโพด ผักกระเฉด และไข่เค็ม จี๊ดจ๊าดด้วยรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ตัดหวานเล็กน้อย ส่วนผู้ที่ไม่ถนัดความแซบเว่อร์ สามารถปรับระดับได้แค่เพียงกระซิบบอกพนักงานว่าต้องการแบบไหน ถัดมาอีกหนึ่งความแซบ ได้แก่  "เกาเหลาทะเล" เสิร์ฟคู่กับหมี่ลวก เคล็ดลับความอร่อยของจานนี้ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่บอกไม่มีอะไรมาก แค่เลือกใช้ของสดจากทะเลนำลวกพอให้สุกแล้วคลุกเคล้ากับน้ำยำรสกำลังเหมาะ โดยเฉพาะผู้หลงใหลได้ปลื้มกับการกินตะไคร้บอกได้คำเดียวว่า "มันเจ๋งมาก" แต่ถ้าไม่ถนัดยังมี "ยำมาม่าโป๊ะแตก" มาแนะนำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

 

                         สำหรับนักชิมที่ไม่พร้อมลุยความจี๊ดอย่าเพิ่งตระหนกเหงื่อตกไปว่าจะหาทานจานเบาๆ ไม่ได้ในร้านนี้ เพราะยังมี "หมี่ผัดกระเฉด" รสชาติกลมกล่อมพร้อมเสิร์ฟ นอกจากนี้ยังมี "ไก่ย่างแซ่บบาร์" มาพร้อมกัน 3 ตำรับในจานเดียวทั้ง ไก่ย่างขมิ้น, ไก่ย่างตะไคร้ และ ไก่ย่างรสดั้งเดิม เสิร์ฟตีคู่มากับน้ำจิ้ม  3 แบบให้เลือกเพิ่มรสชาติอีกเช่นเดียวกัน นำทีมโดย น้ำจิ้มแจ่วสด น้ำจิ้มแจ่วแสนแซบ (ต้นตำรับ) และน้ำจิ้มไก่  มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ "บาร์บีคิวหมู//เนื้อ" จานนี้ที่ว่ามีดี เพราะสูตรน้ำซอสเฉพาะสำหรับใช้หมักเนื้อหมักหมูแบบข้ามวันข้ามคืนนี้ถูกส่งตรงมาจากครัวของบ้าน "ภิรมย์ภักดี" ด้วยนี่คือจานโปรดของบรรดาสมาชิกในครอบครัว เมื่อลงมติว่าอร่อยจึงอยากแบ่งปันมาให้ลูกค้าได้ชิมกันบ้าง

 

                         จบของคาวมาต่อกันที่เครื่องดื่มและของหวานตามสเต็ป ในส่วนของเครื่องดื่มค็อกเทล บาร์เทนเดอร์บอกว่ามีแบบหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกเดือนและแบบยืนพื้นอย่าง  "แซ้บแซ่บ" ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านแก้วนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่าง วอดก้า น้ำลิ้นจี่  พริกแดง ก่อนจะท็อปปิ้งด้วยโซดา จิบสลับกับเบคอนปิ้งกรุบกรอบ รสชาติต้องบอกไว้ก่อนว่า "แซ้บซ่า" สมชื่อเขาล่ะ ด้านสีแดงแรงฤทธิ์ "ไหมไทย" ไม่น้อยหน้า มาพร้อมหน้าด้วยเหล้าดาร์กรัม ไวท์รัม ผสมกับน้ำหวานกลิ่นส้ม เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำสับปะรดและน้ำหวานกลิ่นทับทิม ส่วน "คลิกออฟ" มีแก้วมังกรเป็นจุดเด่นให้ความสดชื่นกับรสเปรี้ยวอมหวาน ด้านของหวานก็มี ปังเย็นทรงเครื่อง, เฉาก๊วย และ ถั่วแดงเย็น ให้ล้างปาก

 

                         ร้าน "แซ่บบาร์" เปิดให้บริการตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน จัดพื้นที่ให้นักชิมไว้ 2 โซนแบบห้องแอร์และเอาท์ดอร์เบ็ดเสร็จนับได้ 70 ที่นั่ง หากต้องการไปแฮงก์เอาท์เย็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แนะนำให้โทรศัพท์ไปสอบถามและจับจองโต๊ะก่อนที่ 0-2712-6141....ถ้าไม่อยากเซ็งเพราะไม่ได้แซบ