ทูตไทยพาเที่ยว-ถึงแหล่ง 'หัวใจ' สปป.ลาว | คมชัดลึก

 

                           ถ้าจะเข้าใจลาวใหม่ ก็ต้องไปให้ถึงที่ ที่นี่เหนือสุด เมืองแห่งกำเนิดของ สปป.ลาว ที่ เมืองเวียงไซ แขวงหัวพัน  ฐานปฏิวัติประชาชนลาว กำลังกลายเป็นเมืองสำคัญ แหล่งท่องเที่ยว เมืองประวัติศาสตร์ของประเทศลาว เป็นกำเนิดของกองทัพประชาชนลาว และเป็นต้นกำเนิดของผู้นำลาวหลายท่าน

 

                           นายพิษณุ จันทร์วิทัน เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว บอกว่า เมืองเวียงไซ แขวงหัวพัน เป็นฐานที่มั่นของประเทศลาว การต่อสู้ของผู้นำฝ่ายซ้ายลาวอยู่บริเวณนี้ เมืองเวียงไซมีถ้ำประมาณ 400-500 ถ้ำ ในช่วงการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชาติลาว ถ้ำเหล่านี้เป็นที่หลบระเบิดของฝ่ายข้าศึก ภายในถ้ำเป็นทั้งกองบัญชาการ โรงพยาบาล โรงเรียน และที่พักอาศัย ผู้นำต่างๆ มีถ้ำพักอาศัยคนละถ้ำ

 

                           โดยรอบบริเวณที่ตั้งของถ้ำเป็นป่าทึบ หากมองภายนอกจะไม่รู้ว่าบริเวณนี้มีถ้ำ คิดว่าเป็นผาหินธรรมดา นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ทหารอเมริกันไม่สามารถเข้ามาบริเวณนี้ได้ ประชาชนดำรงชีวิตอยู่ในถ้ำ และออกไปทำงาน ทำนาในเวลากลางคืน 

 

                           ถ้ำที่มีความสำคัญที่สุดคือ ถ้ำของประธานไกสอน พมวิหาร เลขาธิการใหญ่คณะบริหารงานศูนย์กลางพรรคปฏิวัติประชาชนลาวคนแรก และนายกรัฐมนตรีคนแรกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ต่อมาภายหลังได้เป็นประธานประเทศลาวคนที่ 3 ภายในถ้ำของประธานไกสอนประกอบไปด้วยห้องประชุม ห้องทำงาน ห้องพัก ถ้ำแห่งนี้เป็นที่กำบังชีวิตท่าน ทำให้มีประธานไกสอนมีกำลังแรง กำลังใจนำพาประชาชนลาวลุกขึ้นต่อสู่กู้ชาติ จนสามารถปล่ดปล่อยประเทศลาวเป็นอิสระได้ การดำรงชีวิตในถ้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องอาศัยแสงไฟจากตะเกียง จึงมีไส้ตะเกียงตกอยู่ทั่วทุกแห่งภายในถ้ำ ด้านครอบครัวของประธานไกสอน ภรรยาของท่านเป็นคนหนึ่งที่มีบทบาทในการปฏิวัติ ขณะนั้นภรรยาของท่านนำนักศึกษาเดินทางไปประเทศจีน ส่วนลูกของประธานไกสอนไปเรียนที่เวียดนาม เมื่อมีโอกาสได้พบเจอหน้ากัน จะมาใช้ชีวิตร่วมกันในถ้ำแห่งนี้

 

                           ในห้องประชุม มีโต๊ะที่ประธานไกสอนและผู้นำลาวคนอื่นๆ นั่งประชุมขณะทำการปฏิวัติ ผู้ที่นั่งหัวโต๊ะ คือ ประธานไกสอน ผู้นำท่านอื่นๆ ได้แก่ เจ้าชายแดง สุภานุวงศ์ ประธานหนูฮัก พูมสะหวัน ประธานคำไต สีพันดอน พูมี วงวิจิด พูม สีประเสริฐ มาประชุมคณะกรรมการปุลิปุโล โดยมีท่านไกรสร พรหมวิหารเป็นประธานในที่ประชุม ถัดมาเป็นเจ้าชายแดง สุภานุวงศ์ ประธานหนูฮัก

 

                           แขวงหัวพันมีความสำคัญ เป็นที่เกิดประวัติศาสตร์ลาว เป็นต้นกำเนิดของกองทัพประชาชนลาว ต้นกำเนิดของผู้นำลาวหลายท่าน รัฐบาลลาวถือว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของประเทศลาว ปี 2557 ครบรอบ 65 ปีการจัดตั้งกองทัพประชาชนลาว แขวงหัวพันมีภูมิประเทศสวยงามมาก การเดินทางด้วยรถยนต์สะดวก หน้าหนาวอากาศเย็นสบาย ตั้งอยู่ในระดับความสูงเท่ากับดอยหลายๆ ดอยของประเทศไทย สำหรับอาหาร ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณีก็คล้ายคลึงกับประเทศไทย อยากมาดูธรรมชาติแนะนำให้มาที่แขวงหัวพัน

 

                           ตลอดการเดินทางพบเห็นทุ่งดอกบัวตองหลายแห่ง ประเทศไทยมีแห่งเดียวคือ จ.แม่ฮ่องสอน และภูเขาหิน ภูไหหิน เวียงไซมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เป็นป่าเขาจำนวนมาก มีถ้ำประมาณ 400-500 แห่ง กองทัพประชาชนลาวใช้ชีวิตในถ้ำเหล่านี้ ถึงแม้ข้าศึกทิ้งระเบิดมากมายขนาดไหนก็ไม่เดือดร้อน ภายในถ้ำมีอากาศบริสุทธิ์ มีห้องทำงาน ถ้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นโรงเรียน โรงพยาบาล ห้องประชุม ที่นี่เป็นจุดเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของประเทศลาว 

 

                           ภูเขาหิน ทุ่งไหหิน เป็นมรดกโลกแห่งหนึ่งของเมืองเชียงขวาง ออกจากเมืองซำเหนือ แขวงหัวพัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนเกินไป ทุ่งไหหินเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของลาว เป็นสมรภูมิสำคัญ ตั้งแต่ลาวมีการสู้รบภายในประเทศระหว่าง 2 ฝ่าย มีการสู้รบรุนแรง และมีลูกระเบิดที่ตกค้าง ยังไม่ระเบิดอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากทุ่งไหหินแห่งนี้แล้ว ยังมีทุ่งไหหินอีกหลายแห่ง แต่ทางการลาวไม่เปิดให้ท่องเที่ยว เพราะมีระเบิดที่ยังไม่ได้เก็บกู้อีกจำนวนมาก

 

                           แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่เมืองเชียงขวางจำนวนมาก เพื่อมาชมทุ่งไหหิน เมืองเชียงขวางเป็นกำเนิดของไทพวน อาณาจักรพวนเดิม มีวัฒนธรรมรุ่งเรือง ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าและมีโขดหินจำนวนมาก ล้อมรอบด้วยหุบเขา เป็นที่ราบ อู่ข้าวอู่น้ำของลาวทางตอนเหนือ มีข้าวเหนียวคุณภาพดี หอม เรียกว่าข้าวไก่น้อย และผลไม้เมืองหนาว ได้แก่ ลูกพีช แอพพิคอท

 

                           นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรมเกี่ยวกับคนตาย ด้านตำนานบอกว่าเป็นไหของขุนเจือง เป็นไหเหล้า เป็นตำนานของประชาชน 

 

                           เอนก นาวิกมูล นักค้นคว้าไทย บอกว่า เดินทางมาทุ่งไหหินเป็นครั้งที่ 2 ทุ่งไหหินเป็นสุสานเก่าแก่ของมนุษย์หลายพันปี ถ้ามาตอนเย็นจะนึกถึงบทรำพึงในป่าช้าของกวีชาวอังกฤษ ซึ่งพระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) แปลเป็นบทดอกสร้อย สร้างความสะเทือนใจ สะเทือนอารมณ์ สุสานทุ่งไหหินแห่งนี้ เป็นที่บรรจุอัฐ เป็นหินกองอยู่กลางทุ่งหลายพันก้อน

 

                           ร้านอาหารที่ทุ่งไหหินนำระเบิดที่ทหารอเมริกันทิ้งลงที่ทุ่งไหหิน นำมาประดับร้านชื่อว่า BOMBIE RESTAURANT & BAR ตรงข้ามร้านอาหารเป็นบริษัทค้นหาระเบิดที่ยังมีหลงเหลือบริเวณทุ่งไหหิน

 

 

 

 

-------------------------

 

(ชิค & ชิล : ทูตไทยพาเที่ยว-ถึงแหล่ง 'หัวใจ' สปป.ลาว : โดย...รมยกร)