เชียงใหม่ ก็เป็นเชียงใหม่อยู่วันยันค่ำ | คมชัดลึก

 

                         ถึงแม้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่แห่แหนมาตามรอย Lost in Thailand จะกลายเป็นแก๊งม่วนป่วนเชียงใหม่จนชาวเมืองพากันเวียนหัวไปไม่ใช่น้อย แต่เชียงใหม่ยังยิ้มสวยและอ่อนหวานเหมือนเคย  

 

                         คำครหาที่ว่าเชียงใหม่ไม่น่าเที่ยวแล้ว รถติด ห้างเยอะจนหมดเสน่ห์ ไปทางไหนก็จอแจไปหมด จึงไม่เคยทำให้ฉันหมดรักเชียงใหม่ 

 

                         ในวันที่ฝนเริ่มโปรยเม็ดลงมาทักทายขวานทอง ชวนให้ฉันนึกถึงบรรยากาศอันหอมหวานของริมแม่น้ำปิงขึ้นมาดื้อๆ โดยบังเอิญที่ โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท แอนด์ สปา (www.anantara.com) ชักชวนไปจิบน้ำชายามบ่ายในแบบไฮ ที (High Tea) พอดิบพอดี เลยไม่ได้ปัดป่ายคำเชื้อเชิญนั้น

 

                         เที่ยวนี้สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส (www.bangkokair.com) พาบินไปส่งถึงเชียงใหม่ เขามีเที่ยวบินไปกลับเชียงใหม่วันละ 5 เที่ยว และช่วงนี้ใครอยาก ”บินดี อยู่ดี” ก็มีแพ็กเกจที่จัดทำร่วมกับบรรดาโรงแรมสุดหรูให้เลือกเที่ยวกันหลายเส้นทาง

 

                         ริมแม่น้ำปิงยังคงรื่นรมย์เสมอ นั่งอยู่มุมนี้แล้วสดชื่นรื่นใจเท่านั่งสูดอากาศอยู่ริมทะเล แถมวันนี้ช่างคลาสสิกเสียเหลือเกินเมื่อนั่งเอกเขนกอยู่ที่อนันตราฯ ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลอังกฤษเก่าประจำจังหวัดเชียงใหม่มาก่อน 

 

                         เรือนพักสุดหรูแห่งนี้อายุเกือบ 100 ปีแล้วสินะ ถึงจะถูกจับแปลงสภาพเปลี่ยนเป็นโรงแรม แต่เขายังคงอนุรักษ์โครงสร้างเดิมอันโดดเด่นของตัวอาคารกงสุลในสไตล์โคโลเนียลไว้ โดยได้ออกแบบอาคารสถานที่ใหม่ให้รับกับตัวอาคารกงสุลเดิม เพื่อคงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ให้กับสถานที่

 

                          อาคาร 4 ชั้น รูปตัวแอล โอบล้อมสนามหญ้าและสวนเขียว หันหน้าเข้าสู่แม่น้ำปิง มีชายคาแบบไทย บรรจุห้องหับเอาไว้เกือบ 90 ห้อง ฉันนั่งจิบบรรยากาศอันแสนสบายอยู่บนระเบียง ทอดสายตามองแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านตัวรีสอร์ทอย่างสงบ

 

                         พอตกบ่าย โฉบไปสำรวจสปาสักหน่อย และทุกครั้งที่แวะไปอนันตราฯ ก็เป็นธรรมเนียมที่ต้องไปยืดสายคลายเส้นในสปาเสมอ เพราะเป็นอันรู้กันว่าชื่อชั้นของอนันตรา สปานั้นจัดว่าเยี่ยมยุทธ์

 

                         สบายเนื้อสบายตัวเสร็จ แล้วถึงได้แวะไปนั่งที่ เดอะ โคโลเนียล เฮ้าส์ (The Colonial House) มุมนี้ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลาบ่ายสองไปยันหกโมงเย็นจะมีชาชั้นดีให้เลือกจิบมากมาย  

 

                          ฉันชอบบรรยากาศแบบนี้เหลือเกิน นั่งอยู่ริมแม่น้ำปิงอันสงบ มีเสียงกีตาร์บรรเลงสดคลอเคลียอยู่ข้างหู มีเสียงสนทนาเคล้ากับเสียงหัวเราะของผู้คน มันคือความสบายใจที่ห้อมล้อมเราอยู่ 

 

                         ไฮทีบางที่จิบชากินขนมนมเนยกันแค่กรุบกริบ แต่ที่นี่เขาจัดเต็มมาก จัดมาทั้งคาวหวานกันแบบเต็มพิกัดในสไตล์บุฟเฟ่ต์ โดยมีเชฟชาวอินเดีย พราบาช พราบาการัน ขนอาหารคาวหวานมาจัดวางพรึ่บเต็มโต๊ะ จำพวก มินิพาย และสโคน ในแบบอังกฤษดั้งเดิม ปานินี่ แอนด์ พิตต้า เบรด แซนวิช นี่ออเดิร์ฟ  ยังมีข้าวซอย เนื้อย่าง สลัด วาฟเฟิลสเตชั่น ผลไม้สด ไปจนถึงเมนูอาหารอินเดียสูตรต้นตำรับที่หาชิมได้ยากในจังหวัดเชียงใหม่

 

                         บางคนไม่ชอบจิบชา ก็เห็นมีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายทั้งค็อกเทล น้ำสมุนไพร และน้ำผลไม้สดเพื่อสุขภาพ และกาแฟหอมๆ ที่คอกาแฟอย่างฉันไม่ยอมพลาด ขอลองชิมไปเสียทุกรสชาติทุกแบบ

 

                         แต่ดูเหมือนไฮไลท์ของไฮที ยามบ่ายของอนันตราฯ อยู่ที่ชา ที่พูดได้คำเดียวว่าอลังการงานชามาก เพราะเขามีชาให้เลือกชิมกว่า 20 ชนิด ทั้งชาดาร์จีลิง  ชาจากศรีลังกา และชาชั้นดีที่เดินทางมาจากทั่วโลกหาชิมได้ที่นี่ อะไรไม่เด็ดเท่าเขามี ที มาสเตอร์ ซึ่งเป็นผู้รู้ทางด้านชา คอยให้คำแนะนำ วิธีการชงชา และการดื่มชาคู่กับอาหาร 

 

                         สำหรับคนชอบจิบชาเป็นอันรู้กันว่า ตามธรรมเนียมของชาวอังกฤษ ไฮที เป็นการดื่มชาขณะรับประทานอาหารมื้อหลัก อาหารคาวหวานจะถูกจัดวางบนโต๊ะที่มีทรงสูง จึงเป็นที่มาของคำว่า High Tea  มิน่าล่ะ ไฮที มื้อนี้ถึงเป็นมื้อหนักมื้อหนึ่งเลยทีเดียว

 

                         จิบชาริมปิงแล้ว มาเชียงใหม่ทุกเที่ยว ฉันต้องนั่งรถเมล์แดงออกไปสอดส่องมองเมืองทุกเที่ยว เรียกว่าเฝ้าดูทุกการเปลี่ยนแปลงก็ว่าได้   

 

                         และถนนสายหนึ่ง ที่ไปเชียงใหม่ทุกครั้งก็ต้องแวะไปเดินทอดน่องมองหาอาหารการกินแทบทุกครั้ง คือ ถนนนิมมานเหมินทร์ ฮิพสตรีทที่ไม่ได้เป็นแค่แหล่งช็อป แต่เรื่องปากท้องก็มาฝากท้องไว้บนถนนนิมมานเหมินทร์ได้ หรือแค่อยากจะแฮงก์เอาท์ นัดเพื่อนฝูงมานั่งเมาท์ ก็บนถนนนี้อีกเช่นกัน เพราะมีคาเฟ่ให้เลือกนั่งชิลล์นับไม่ถ้วน และไม่น่าเชื่อว่าไปทุกครั้งก็มีร้านหน้าตาไฉไลเปิดใหม่รอให้ไปสำรวจทุกเที่ยว

 

                         ใครไม่ได้ไปเชียงใหม่นาน คุณอาจตกใจได้เมื่อเห็นถนนนิมมานเหมินทร์ที่เคยเงียบสงบ ทุกวันนี้ชิคและฮิพไปทุกอณู ตามซอกซอยซ่อนคาเฟ่และร้านเก๋ๆ และตามมาด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ยึดทุกมุมของถนนนิมมานเหมินทร์เอาไว้โพสท่ากันอย่างไม่สนใจโลก จนนักท่องเที่ยวชาวไทยบางคนถึงกับออกปากว่าไม่อยากเฉียดไปนิมมานฯ กันเลยทีเดียว 

 

                         ไม่ว่าใครจะรักหรือชังเชียงใหม่ แต่ฉันคนหนึ่งล่ะ ยังอมยิ้มได้เสมอเมื่อพ่นหายใจในเชียงใหม่ ทั้งน้ำพริกหนุ่ม ถนนนิมมานเหมินทร์ ดอยสุเทพ วัดวาอาราม ถนนคนเดิน และไนท์บาซาร์และตลาดวโรรส ยังคงทำให้มีความสุขทุกครั้งไปเชียงใหม่  เป็นแบบนั้นจริงๆ

 

 

 

 

------------------------

 

(เที่ยวนี้ขอเล่า : เชียงใหม่ ก็เป็นเชียงใหม่อยู่วันยันค่ำ : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง - [email protected])