Lifestyle

เปลือยชีวิตหมอดูต๊อกแต๊ก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปลือยชีวิตหมอดูต๊อกแต๊ก

             เผยชีวิตหมอดู "ต๊อกแต๊ก A4" จากกะเทยบ้านนอกสู่แวดวงโหราศาสตร์ จนกลายเป็นหมอดูเงินล้านที่เหล่าคนดังและคนบันเทิง ให้การยอมรับ เปลือยชีวิตสู่ตัวอักษรลงในหนังสือ "ต๊อกแต๊กA4...หมอดูเงินล้าน" ครั้งแรก

             เป็นหมอดูชื่อดัง ดูดวงคนบันเทิง จนกลายเป็นที่รู้จักมาถึงทุกวันนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 เมษายน 2557 นายเขมกร นพเคราะห์ หรือ "ต๊อกแต๊ก A4" หมอดูชื่อดัง เปิดตัวหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มแรกในชีวิต โดยร่วมกับ สำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ จัดงานเปิดตัวในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 42 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 12 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเผยว่า เริ่มต้นการเป็นหมอดูมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่เข้าสู่วงการบันเทิงมาแค่ปีกว่า

             "ก่อนจะเป็นหมอดู จริงๆ เราไม่ได้เรียน และไม่ได้ขวนขวายที่อยากจะเป็น แต่อยู่มาวันหนึ่ง ตัวของเราไปโดนคนคนหนึ่ง แล้วเห็นเป็นจอภาพขึ้นมา เราได้ไปบอกเขาว่าเราเห็นอะไร คนเลยคิดว่าเรามีองค์หรือเปล่า เราพยายามหาคำตอบให้ตัวเอง ประมาณช่วงอายุ 25-26 ตอนเวลาบ่ายสามโมง เราจะปวดหัวมากทุกวัน เลยแก้ปัญหาด้วยการสวดมนต์ติดกันเป็นเวลา 3 เดือน ก็เริ่มหาย แต่ช่วงแรกที่เริ่มดูดวงยังไม่ได้ใช้กระดาษเอ 4 เราใช้วิธีการแตะมือ แล้วเห็นเป็นภาพขึ้นมา แต่การเริ่มต้นใช้กระดาษเอ4 เนื่องจากว่าเมื่อก่อนเป็นคนบ้าดูหมอดูเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่คนจะดูดวงเราไม่ค่อยได้ แต่มีอาจารย์คนหนึ่งที่เรานับถือมาก และดูดวงให้เราเป็นประจำ แนะนำให้เราใช้กระดาษ เอ4 เพราะตอนแรกที่เริ่มดูดวง ภาพจะไม่เรียง ทำให้เราลำดับเหตุการณ์ไม่ชัด แต่พอใช้กระดาษ ทำให้เราเห็นอะไรแม่นยำขึ้น และสามารถเรียงลำดับเหตุการณ์ได้ง่ายขึ้น" หมอดูชื่อดังกล่าว

             นอกจากนี้ หมอดูต๊อกแต๊กเผยว่า เป็นคนชอบทำบุญมาก และนับถือแม่อุมาเทวี ช่วงก่อนหน้าจะมีเซ้นส์ เดินเข้าออกวัดแขกเป็นเวลา 8 ปี จะไปทำบุญที่นั่นเป็นประจำ เพราะเชื่อว่าลูกๆ ของพระแม่อุมาเทวีหลายคนมีเซ้นส์แบบต๊อกแต๊ก ทั้งนี้ ตนไม่ได้ใช้เซ้นส์ไปในทางที่ไม่ดี และได้ขอใช้เซ้นส์ที่มีจากพระแม่อุมา มาดูดวง ต้องบอกก่อนว่าคนที่มาดูดวงกับตน จะได้คำแนะนำการใช้ชีวิตไม่ใช่แค่การดูดวงที่ว่าแม่นหรือไม่แม่น การแนะนำกับปัญหาที่กำลังเผชิญว่าควรจะหาทางออกอย่างไร หรือต้องทำบุญแบบไหน เพราะเวลาที่ทำบุญ ตนเป็นพุทธก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีอะไรตอบแทน แต่จะใช้ทางสายกลาง คือทำให้ใจสบาย และเวลาที่ทำบุญก็มีความมหัศจรรย์เกิดขึ้นตลอด

             "ตอนเด็กๆ เราเป็นกะเทยบ้านนอกคนหนึ่ง บ้านเกิดอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี ที่บ้านพ่อแม่รับราชการ ท่านก็อยากให้ลูกได้ทำงานมั่นคง แต่เรารู้ตัวว่าเป็นคนไม่ชอบทำงานประจำ เรามีความฝันว่าอยากทำงานที่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิง จนวันนี้เราสบายขึ้น คำว่าหมอดูเงินล้าน มันอาจจะไม่ได้หมายความว่าเรารวยในขณะนั้น แต่มันหมายถึงเราดูแลครอบครัวพ่อแม่ให้อยู่อย่างสบาย อยากกินอะไรก็กิน อยากใช้อะไรก็ใช้ ต๊อกจะบอกพ่อแม่เสมอว่า ตอนนี้เรามี ถ้าอยากได้อะไรขอให้บอก เพราะชีวิตคนเราเกิดมา ถ้าเราหาได้ เราก็ใช้เงินตามกำลัง โดยที่ไม่ต้องเบียดเบียนคนอื่น  ถ้ามีคนถามว่าทำไมเราถึงให้เงินพ่อแม่เยอะ ต้องบอกก่อนว่า ตอนที่ต๊อกเรียนป.ตรี 4 ปี ต๊อกใช้เงินเยอะมาก เราก็เคยทำผิดกับพ่อแม่เหมือนกัน แต่พ่อแม่เราก็ไม่เคยว่า เราต้องการเงินมากเท่าไหร่ท่านก็หามาให้ จนถึงขนาดต้องขายวัวเดือนละตัว ทุกวันนี้พอเรามี เลยอยากจะตอบแทนท่าน เพราะเรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้าน รวมถึงส่งน้องเรียนอีก 3 คน ซึ่งมันเป็นความสุขที่ได้ทำ" ต๊อกแต๊กกล่าว

             หมอดูชื่อดัง ยังบอกด้วยว่า หากถามว่าอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วได้อะไร สิ่งที่ได้แน่ๆ คือได้วิธีดูดวง และได้ข้อคิดเตือนใจ และได้รู้ว่า เส้นทางของหมอดูบ้านนอกคนหนึ่ง ผ่านอะไรมาบ้าง และทำให้รู้จักการทำบุญอย่างประณีตขึ้น อยากให้ทุกคนได้ลองอ่าน เพราะยังมีศาสตร์ที่เกี่ยวกับตัวเลข และวันเกิดให้ทุกคนได้เรียนรู้ อ่านเสร็จแล้วทุกคนอาจจะสามารถเป็นหมอดูแบบย่อมเยาได้เลย หาซื้อได้ที่ บูธหนังสือของเนชั่นบุ๊คส์ ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 42 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 12 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ