ไลฟ์สไตล์

สัมผัสไร่ชาอูหลง-หม่อนเชียงใหม่

สัมผัสไร่ชาอูหลง-หม่อนเชียงใหม่

30 มี.ค. 2557

ท่องโลกเกษตร : สัมผัสไร่ชาอูหลง-หม่อนเชียงใหม่ แปลงส่งเสริมที่ 'ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา'

 
                         คณะของเราเริ่มต้นที่สนามบินเล็กๆ ที่ถูกล้อมด้วยขุนเขาใกล้ตัวเมืองจังหวัดน่าน นั่งรถตู้ลัดเลาะตามไหล่เขาบนเส้นทางอันคดเคี้ยว ผ่านภูเขาที่ขึ้นเรียงทางสองฟากฝั่งเส้นทาง มุ่งสู่จุดปลายทางที่ ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ต.ภูฟ้า อ.บ่อเกลือ จ.น่าน อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สำคัญของจังหวัดในเวลานี้
 
                         ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา เป็นโครงการพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กินพื้นที่ทั้งหมด 1,815 ไร่ ครอบคลุมที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน คือ บ้านห่างทางหลวง หมู่ 2 และบ้านผาสุก หมู่ 3 ต.ภูฟ้า อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ ให้แก่เด็ก เยาวชน เกษตร และประชาชนทั่วไปที่มาเยี่ยมชม นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์การศึกษาเส้นทางธรรมชาติให้เดินเที่ยว อาทิ สวนธรรมภูฟ้า ศูนย์วัฒนธรรมภูฟ้า เป็นต้น 
 
                         ภายในศูนย์จะประกอบด้วย ห้องนิทรรศการหมุนเวียน ห้องสมุด อาคารแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาคารแปรรูปชาอูหลง พร้อมทั้งให้ทดลองชิม พื้นที่การปลูกพืชไร้ดินแบบไฮโดรโปนิกส์ มีร้านค้าสวัสดิการที่นำสินค้าของโครงการที่เป็นฝีมือชาวบ้านนำมาจัดจำหน่ายให้เลือกซื้อมากมาย นอกจากนี้ยังมีพระตำหนักภูฟ้าที่สวยงาม ที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างเสด็จฯ มาทรงงาน ณ ศูนย์ภูฟ้า อีกทั้งยังมีบริการห้องประชุม ห้องสัมมนา และที่พักให้เลือกหลายรูปแบบ พร้อมอาหารพื้นเมืองเลิศรสบริการอีกด้วย 
 
                         หากเรายืนบริเวณตรงกลางที่ทำการศูนย์ภูฟ้าพัฒนา หันไปมองทัศนียภาพรอบๆ จะแลเห็นพื้นที่ทำกินของเกษตรกรขึ้นเขียวขจี และมีพืชเศรษฐกิจที่หลากหลาย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรปลูกตามที่ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาแนะนำและส่งเสริม อีกส่วนหนึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่บริษัทเอกชนนำไปส่งเสริม อย่างที่เห็นคือ กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่สนองแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น อาทิ โครงการปลูกและผลิตชาอูหลง มาตั้งแต่ปี 2543 โดยนำชาสายพันธุ์ชิงซินอูหลง จากเมืองหมิงซาน มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน มาส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก เริ่มแรกจำนวน 2 หมื่นต้น ครอบคลุมพื้นที่ 15 ไร่ และขยายพื้นที่ใกล้เคียงรวมอีก 65 ไร่ และล่าสุดกรมหม่อนไหม สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำหม่อนมัลเบอร์รี่สายพันธุ์เชียงใหม่ไปส่งเสริมให้เกษตรกรอีกด้วย 
 
                         นายสำราญ สุขใจ ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดน่าน บอกระหว่างที่ไปดูกิจการส่งเสริมการปลูกหม่อนสายพันธุ์เชียงใหม่ ที่ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ว่า ขณะนี้กรมหม่อนไหมกำลังเดินหน้าส่งเสริมการปลูกหม่อนสายพันธุ์เชียงใหม่ ในศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกทั้งสิ้น 50 ไร่ สามารถนำมาแปรรูปเป็นแยม น้ำมัลเบอร์รี่สกัดพร้อมดื่ม แนวโน้มจะขยายพื้นที่ปลูกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ทั้งยังมีการส่งเสริมการปลูกชาอูหลงในพื้นที่ปลูกชา 50 ไร่ เนื่องจากเห็นว่ากำลังได้รับความนิยมของคนไทยอยู่ในขณะนี้ ทำให้ตลาดมีความต้องสูงอย่างต่อเนื่อง 
 
                         ขณะเดียวกันก็ยังงเน้นการปลูกกล้วย เพื่อนำมาแปรรูปในรูปแบบต่างๆ เช่น กล้วยตาก กล้วยฉาบ กล้วยกวน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า อีกทั้งยังมีการส่งเสริมการปลูกลูกชิดไปพร้อมกับการปลูกป่า ปลูกผลไม้ อย่าง เงาะ ลองกอง ผสมผสานเข้ากับป่าอย่างกลมกลืนผสมผสานกันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการปลูกกาแฟ พืชผักสวนครัวในพื้นที่สูง โดยผลผลิตทั้งหมดจะถูกนำมาแปรรูปแล้วส่งออกไปจำหน่ายในศูนย์สินค้าโอท็อปทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์จากศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ปรากฏว่าปัจจุบันตลาดตอบรับดีมาก ทำให้ชาวเขาในพื้นที่สูงมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว และอนาคตจะเน้นการส่งเสริมการปลูกหม่อนสายพันธุ์เชียงใหม่ และชาอูหลงมากขึ้นให้เป็นศูนย์ภูฟ้าพัฒนา และมีการจัดสรรปันส่วนให้ชาวเขาได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อทำกินและใช้เป็นที่อยู่อาศัย พร้อมกับเปิดโอกาสให้ชาวเขาได้เข้ามาเรียนรู้การทำการเกษตร ปลูกพืชต่างๆ จนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
 
                         สำหรับที่มาของศูนย์ภูฟ้าพัฒนา เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2538 เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปเยี่ยมราษฎรและทอดพระเนตรบ่อเกลือสินเธาว์ ณ บ้านบ่อหลวง อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ทรงเห็นสภาพความเป็นอยู่ของราษฎรที่มีความด้อยโอกาส ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม จึงมีพระราชดำริให้สำนักงานโครงการส่วนพระองค์ฯ ดำเนินการช่วยเหลือการพัฒนาในพื้นที่ อ.บ่อเกลือ โดยเริ่มพัฒนาที่โรงเรียนประถมศึกษาก่อน จากนั้นขยายไปยังศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” ประกอบด้วย 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน 2.โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน 3.โครงการส่งเสริมสหกรณ์ และ 4.โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
 
                         จนกระทั่ง 30 พฤศจิกายน 2542 พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา” ขึ้น เพื่อใช้เป็นต้นแบบการพัฒนาและการถ่ายทอดความรู้การพัฒนาไปสู่พื้นที่ และราษฎรในเป้าหมายในท้องที่ อ.บ่อเกลือ และอ.เฉลิมพระเกียรติ ตามพระราชปณิธานของพระองค์ โดยมีวัตถุประสงค์ 5 ประการ คือ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรบนพื้นที่สูงและใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาต่อไป, เพื่อการส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพของราษฎรและพื้นที่บนที่สูง, เพื่อเป็นศูนย์รวบรวมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องด้านการตลาด, เพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น และเพื่อการศึกษาวิจัยถ่ายทอดความรู้การพัฒนาและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืน สู่จุดมุ่งหมาย “คนอยู่ร่วมกับป่า” นั่นเอง โดยมีมีเกษตรกรที่อยู่ในโครงการ 13 กลุ่ม รวม 127 ครอบครัว เน้นพัฒนา 4 ด้าน คือ
 
                         1.การพัฒนาเด็กและเยาวชนในโรงเรียนและศูนย์การเรียนรู้ชุมชนไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง โดยมีพระราชประสงค์ส่งเสริมให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาศักยภาพมีสุขภาพแข็งแรงสามารถอ่านออกเขียนได้ มีความรู้พื้นฐานอย่างเพียงพอ สามารถพึ่งตนเองได้ และยังสามารถเรียนต่อในชั้นสูงต่อไปตามศักยภาพของแต่ละคน การพัฒนาอาชีพเสริมให้แก่ราษฎร
 
                         2.การจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม "ภูฟ้า" ขึ้น ที่ ต.ภูฟ้า อ.บ่อเกลือ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2542 เพื่อให้เป็นห้องเรียนและพิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก สามารถศึกษาค้นคว้า ทำโครงงานต่างๆ รวมทั้งเป็นที่เรียนวิทยาศาสตร์ รวมทั้งเป็นศูนย์ถ่ายทอดความรู้สำหรับประชาชน สอดคล้องกับการพัฒนา 3.การส่งเสริมอาชีพภาคเกษตรและอาชีพนอกภาคเกษตรที่สอดคล้องกับทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ชุมชนพึ่งตนเองได้ 4.ทรงเน้นให้มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น
 
                         โครงการภูฟ้าพัฒนา นับเป็นโครงการที่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน สู่การพัฒนาแบบยั่งยืน ที่สำคัญไม่ส่งผลต่อภาวะสมดุลตามธรรมชาติ โดยที่ราษฎรสามารถพึ่งพาตนเองได้ นำไปสู่ผลการพัฒนาประเทศ การใช้ทรัพยากรท้องถิ่นเชิงอนุรักษ์ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน