ไลฟ์สไตล์

สิบสองปันนา แผ่นดินสองวัฒนธรรม

สิบสองปันนา แผ่นดินสองวัฒนธรรม

16 มี.ค. 2557

สิบสองปันนา แผ่นดินสองวัฒนธรรม : คอลัมน์ตำนานแผ่นดิน

 
                      ขงเบ้ง ปราบศัตรูใกล้ตัวจนราบคาบแล้ว พระเจ้าเล่าปีถึงกาลสวรรคต ราชบัลลังก์ตกอยู่ในมือเจ้าชายน้อยที่ไร้วุฒิภาวะ ขงเบ้งจึงขอกำลังทหารสองแสนคน ยกลงใต้ไปปราบชนกลุ่มน้อย ณ ดินแดนฮวนนั้ง ที่ยังแข็งข้อยกทัพมาตอดตีเสฉวนบ่อยๆ เบ้งเฮก ผู้นำฮวนที่มีกำลังแข็งแกร่ง รวมชนเผ่าทั่วภาคใต้ สู้กับทัพขงเบ้งนานหลายปี
 
                      แต่ถูกขงเบ้งใช้กลศึกตีพ่ายถึง 6 ครั้ง แต่ละครั้งขงเบ้งให้อภัยปล่อยตัวบ่าวไพร่ และนายทัพเบ้งเฮกทุกครั้ง หวังจะให้เบ้งเฮกยอมแพ้ด้วยใจ ครั้งที่ 7 เบ้งเฮกยกทัพไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าพุกาม มีกำลังทหารเข้มแข็ง ใช้หวายแช่น้ำมันถักเป็นเกราะหนา ยิงด้วยธนูฟันด้วยดาบไม่เข้า หนีลงน้ำว่ายข้ามแม่น้ำด้วยเกราะแช่น้ำมัน
 
                      ขงเบ้งจึงให้ทหารยิงธนูไฟใส่ทหารเกราะหวาย ไฟไหม้เกราะชุบน้ำมันเผาทหารพุกามสามหมื่นคนตายในช่องเขาขาด กลิ่นศพไหม้ถึงสามวันสามคืน ขงเบ้งรู้โดยธรรมว่าฆ่าคนจากสงคราม คงทำให้อายุตัวเองสั้น เบ้งเฮกพ่ายแพ้ครั้งนี้ยอมจำนนด้วยใจ ยกให้ขงเบ้งเป็นผู้นำบนแผ่นดินฮวงนั้ง ทหารขงเบ้งส่วนหนึ่งแต่งงาน ตั้งรกรากใช้ชีวิตที่นี่จนถึงทุกวันนี้
 
                      หลังจากที่บรรลุโสดาบัน พระพุทธเจ้าทรงเห็นโดยนิมิตว่าสายน้ำจากยอดเขาหิมาลัย มีชนกลุ่มน้อยที่นับถือภูตผีปีศาจอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเสด็จมาสั่งสอนชนเผ่าริมน้ำ พระพุทธศาสนาจึงเผยแผ่ลงมาตามสายน้ำโขง คู่กับลัทธิขงจื้อ-เต๋าที่ทหารขงเบ้งนำติดตัวมา กระจายไปทั่วดินแดนสุวรรณภูมิ เป็นศาสนาหลักของชาวเอเชีย
 
                      สิบสองปันนา เป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากจีนในยุคสามก๊ก มีภาษาจีนแทรกอยู่ในภาษาฮวนหรือไทยลื้อ มีศาสนาพุทธคู่กับศาสนาฮั่น ผสานอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ชาวไทยลื้อนับถือพุทธศาสนาเคร่งครัด มีเนื้อแห้งข้าวโพดแขวนไว้เต็มราวเหนือเตาย่างไก่ เป็นต้นแบบเนื้อแดดเดียว ที่คนไทยกินอยู่ทุกวันนี้
 
 
 
 
ดินแดนนี้จึงมีสองวัฒนธรรม สองศาสนาที่เข้ากันเป็นอย่างดี
 
 
                      โต๊ะจีน โต๊ะไทย อร่อยทุกโต๊ะ R3A เป็นความร่วมมือรัฐบาลไทย-ลาว-จีน พัฒนาเส้นทางเกวียนในอดีต เป็นทางหลวงเชื่อมสามชาติไปมาหาสู่กันด้วยความสะดวกรวดเร็ว ยูนนานอยู่บนที่ราบสูงไม่มีทางออกทะเล จีนเจาะอุโมงค์ทำสะพานเชื่อมภูเขาตรงมาลาวถึงไทย ขนส่งสินค้าไปออกท่าเรือดานังเวียดนาม ท่าเรือแหลมฉบังที่ชลบุรี และท่าเรือสีหนุวิลที่กัมพูชา
 
                      สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงของ-ห้วยทราย(ลาว) เปิดประตูให้คนจีนขับรถมาเที่ยวเชียงราย คุณสมชัย ชัยชนะวงศ์ มอบหน้าที่ให้ติ๋ว ประธานชมรมร้านอาหารเชียงของ จัดทัวร์ไปดู R3A ให้เจ้าของร้านอาหารไปดูลู่ทางลงทุนทำการร้านอาหารไทยในเมืองจีน รถวิ่งวนบนภูเขานับพันโค้งรอ ตม.จีนอีก 5 ชั่วโมง เพื่อผ่านด่านไปนอนที่สิบสองปันนา
 
                      กระถิน ไกด์จีนปลุกแต่เช้าต้อนพวกเราไปซื้อหยก ไปดูสวนพฤกษศาสตร์ ให้หมอแมะขายยาชุดละหมื่น น้าหล่นบ่นอุบอยากให้พวกเราไปดูธุรกิจมากกว่าถูกบังคับให้ไปซื้อของ สายๆ กระถินจึงพาไปกินโต๊ะจีนอร่อยๆ ร้านโบราณสวยมากๆ แบ่งห้องละโต๊ะ โต๊ะละ 10 คน กินกันไม่อั้น แต่ข้าวสวยสิบสองปันนาแข็งไป สำหรับพวกเราที่กินแต่ข้าวพันดี หอมมะลิไทย
 
                      ดินแดนห่างทะเลจึงมีแต่ปลาน้ำจืด ปลานิลต้มเกี้ยมฉ่าย เคี่ยวจนผักดองเปื่อยความเปรี้ยวซึมเข้าไปในเนื้อปลา เกี๊ยวหมู ห่อแป้งหมี่ลูกโตจิ้มเจี๊ยกโฉ่ว (ซอสเปรี้ยว) กุ้งน้ำจืดทอดเกลือ ไข่เจียวพริกสับ ทอดแผ่นบางๆ ยำรากบัวจีน หั่นรากบัวบางเฉียบยำพริกสด อร่อยแปลกจนผมให้เฮียหมู จำไปทำขายที่ร้านเจี่ยท้งเฮง เชียงใหม่
 
                      มื้อเย็นในเมืองสิบสองปันนาที่เจริญสุดขีด ไม่เหลือเค้าบ้านนอกถนนคลุกฝุ่น แม่น้ำโขงผ่าใจกลางเมืองยังสวยงาม โต๊ะไทยลื้อในร้านใหม่หรูหรา ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ปลานิลย่าง หมูย่าง น้ำพริกกินกับผักลวก แถมด้วยหมี่ข้ามสะพานชามใหญ่ๆ และน้ำซุปผักริมรั้ว (แกงอ่อม) นั่งกินบนตั้งไม้ไผ่อย่างเอร็ดอร่อย ถูกปากคนไทยยิ่งนัก
 
                      อิ่มแล้วติ๋วพาพวกเราไปชมละคร พาราณสี เล่าเรื่องพุทธศาสนาในสิบสองปันนา ยังสวยงามเหมือนเดิม แต่ถูกตัดทอนให้สั้นลงกว่าสี่ปีก่อนที่ผมมาชม คืนนั้นน้าหล่นพาพวกเราสำรวจถนนคนเดิน ดูชาวสิบสองปันนาทำอาหารขายริมแม่น้ำโขง กลิ่นเนื้อผักเสียบไม้ปิ้งย่างฟุ้งตลอดลำน้ำ ที่ไหลมาถึงแผ่นดินไทย
 
 
 
 
หมายเหตุ : คุณสมศรี หีมขาว ประธานชมรมร้านอาหารชุมพรขอเชิญร่วม เปิดโลกทะเลชุมพร 21-25 มีนาคม ณ ชายหาดปากน้ำชุมพร ดำน้ำดูปะการัง สัมผัสฉลามวาฬ แข่งขันตกปลา ชิมอาหารทะเลเต็มหาด พิเศษ! ถือคมชัด ลึก ฉบับนี้ ไปกินอาหารทะเลที่ปาป้าซีฟู้ด ลด 10% โทร.08-1569-6161
 
 
 
 
......................
 
(สิบสองปันนา แผ่นดินสองวัฒนธรรม : คอลัมน์ตำนานแผ่นดิน )