ศึกษา'พระพุทธเจ้า'ผ่านหนังสือ | คมชัดลึก

 

                         "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" คือบุคคลผู้มีบุญญาธิการ มีพุทธาธิการเหนือมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ได้ตรัสรู้พระอรหันตสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อุบัติขึ้นในโลกนี้เพื่อเกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก ทรงเป็นบุรุษผู้ประเสริฐ และทรงเป็นบุคคลที่มีพระญาณหาที่สุดมิได้

 

                         ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ปตท.สผ. จำกัด (มหาชน) ร่วมกันจัดงาน เสวนาหนังสือและนิทรรศการแสดงภาพประกอบ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ณ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สาขาจามจุรีสแควร์ โดยมีผู้ร่วมเสวนาคือ พระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก พระปลัดชัชวาล ชินสโภ ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์กลางการศึกษาวิปัสสนาธุระพุทธวิหาร เจ้าอาวาสวัดพระธรรมจักร จ.นครนายก ร่วมด้วย ทรงยศ สามกษัตริย์ ผู้จัดการศูนย์หนังสือจุฬาฯ และ นาวี อนันต์รักสกุล ประธานชมรมรักษ์ธรรม บริษัท ปตท.สผ.จำกัด (มหาชน) ดำเนินรายการโดยทราย เจริญปุระ

 

                         สำหรับหนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของ สุรีย์ มีผลกิจ วัย 86 ปี ผู้อุทิศตนในการศึกษาพระไตรปิฎก และนำมาถ่ายทอดผ่านหนังสือให้พุทธศาสนิกชนสามารถเข้าใจแก่นของพระพุทธศาสนาอย่างไม่ยาก  

 

                         สุรีย์ เล่าถึงที่มาของการเขียนว่า เริ่มจากลูกๆ มาถามว่า พระพุทธเจ้ามีจริงไหม ปาฏิหาริย์มีจริงหรือ ซึ่งในขณะนั้นเธอตอบลูกๆ ไม่ได้เลย จึงเริ่มหันมาศึกษาหาข้อมูลจากพระไตรปิฎก ซึ่งหนังสือ ที่ได้เขียนมาก่อนหน้านี้ มีทั้งหมด 12 เล่มแล้ว

 

                         “หนังสือเล่มนี้เกิดจากพระภาสกร ภาวิไล วัดฝายหิน จ.เชียงใหม่ ท่านให้นำข้อมูลในหนังสือพุทธประวัติ ซึ่งเป็นหนังสือที่เขียนเป็นเล่มแรกมาใส่ภาพประกอบ โดยท่านจะนำหนังสือเหล่านี้ไปแจกแก่นักเรียนทั่วประเทศ เมื่อทำหนังสือให้ท่านเสร็จแล้ว ก็กลับมาดูแล้วพบว่าข้อมูลทั้งหมดค่อนข้างจะสมบูรณ์ จึงได้ขออนุญาตท่านนำมาพิมพ์ใหม่เป็นหนังสือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เล่มที่ได้เห็นกันนี้ ซึ่งเป็นผลงานที่รวบรวมเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ พระพุทธกิจ และพระพุทธวงศ์”

 

                         จากการศึกษาธรรมะ และการเขียนนี่เอง ทำให้สุรีย์มีโอกาสพบกับผู้ติดตามอ่านผลงานของเธออย่าง อรรถนิติ ลาภากรณ์ ที่ช่วยวาดภาพประกอบให้โดยไม่ขอรับค่าตอบแทนใดๆ 

 

                         น่าเสียดายที่หนังสือเล่มนี้จะเป็นเล่มสุดท้ายแล้วที่ สุรีย์ มีผลกิจ จะฝากผลงานเขียนไว้ แต่บทบาทหน้าที่ในฐานะพุทธศาสนิกชนยังไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะยังมีกิจที่จะต้องสานต่ออีก อาทิ การศึกษาพระไตรปิฎก เพื่อรวบรวมพระสูตร และข้อมูลจากพระไตรปิฎกที่ประทับใจ มาเป็นส่วนประกอบในการปฏิบัติและเป็นประโยชน์ต่อกัลยาณมิตรที่ปฏิบัติธรรมร่วมกัน  

 

                         นอกจากนี้สุรีย์ยังมีโครงการจัดพิมพ์หนังสือภาพเล่าพระพุทธประวัติ ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ที่จะทำแจกให้แก่ธรรมทูต และชาวต่างชาติที่ต้องการจะศึกษาพระพุทธศาสนาอีกด้วย

 

                         บรรยากาศการเปิดตัวหนังสือ ยังมีการแสดงผลงาน “แรงบันดาลใจจากหนังสือ สู่นิทรรศการภาพประกอบหนังสือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” โดย อรรถนิติ ลาภากรณ์ ศิลปินไทยคนแรกที่ใช้เทคนิคการวาดภาพจิตรกรรมไทยด้วยปากกา เขาเล่าถึงแรงบันดาลใจว่า  

 

                         "ผมก็มีโอกาสได้อ่านหนังสือของป้าสุรีย์ขณะที่บวชอยู่ ผมประทับใจในวิธีการถ่ายทอดของท่าน จึงเข้าไปขอโอกาสในการเขียนภาพประกอบให้ สำหรับการเขียนภาพเล่มนี้ ผมคิดว่ามันคงเป็นอานิสงส์จากการที่ผมได้บวชเรียนและได้ปฏิบัติธรรม ทำให้ผมรู้สึกมีพลัง มีความเชื่อในสิ่งที่วาด และสามารถเข้าใจงานจิตรกรรมที่ถ่ายทอดออกมาได้ครับ” ศิลปินหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย

 

                         การศึกษาธรรมะ และพุทธประวัติขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นจำเป็นที่สุดสำหรับพุทธศาสนิกชน เพราะจะทำให้เราไม่ได้เป็นเพียงคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธแต่เพียงในสำมะโนครัวเท่านั้น แต่จะทำให้เราเป็นพุทธศาสนิชนจากหัวใจ จากจิตวิญญาณ เพื่อให้ “รู้ถูก เข้าใจถูก ปฏิบัติถูก”  

 

                         สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” และภาพประกอบหนังสือ (ภาพต้นฉบับพร้อมกรอบ และภาพรีปริ๊นซ์) โปสการ์ด สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ทุกสาขา และคอล เซ็นเตอร์ โทร.0-2255-4433 โดยรายได้จากจำหน่ายจะสมทบทุนเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาแก่ โรงพยาบาลสงฆ์, วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร และวัดพระธรรมจักร จ.นครนายก

 

                         หรือหากต้องการชมนิทรรศการภาพประกอบหนังสือ เข้าชมได้จนถึงวันที่ 15 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 4

 

 

 

--------------------------

 

(อมหมึกเคี้ยวกระดาษ : ศึกษา 'พระพุทธเจ้า' ผ่านหนังสือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า : [email protected])