Lifestyle

จาก'เขาใหญ่'ไป'วังน้ำเขียว'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จาก 'เขาใหญ่' ไป 'วังน้ำเขียว' : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย...เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์

 
                         "พี่ว่า วังน้ำเขียว จะยังมีโอโซนติดอันดับอีกมั้ย"  คำถามที่สอดแทรกขึ้นมาระหว่างรถเก๋งตะบึงผ่านโค้ง บนถนนสายคดเคี้ยวที่ตัดจากเขาใหญ่ มุ่งสู่ อ.วังน้ำเขียว  
 
                         "ผมว่าตอนนี้มันมีแต่ควันจากท่อไอเสียมากกว่านะ" เสียงพี่ชายบอกกล่าว ซึ่งฉันก็เห็นจริงตามนั้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุด ที่จะมีผู้คนเดินทางโหยหาธรรมชาติพิสุทธิ์ 
 
 
 
จาก'เขาใหญ่'ไป'วังน้ำเขียว'
 
 
 
                         เขาใหญ่-วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา แหล่งท่องเที่ยวสูดอากาศธรรมชาตินอกเมืองใหญ่ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ  ทั้งสองแห่งมีความใกล้เคียงกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งอยู่ใกล้กัน ฉะนั้นดีที่สุดคือต้องมีรถไป จึงจะแวะเที่ยวแต่ละที่ได้สะดวก หรือไม่ก็ตั้งเป้าไปเลยว่าจะไปที่ไหน ก็แล้วตรงดิ่งไปที่นั่น พักผ่อน นอนเล่นกันอยู่ที่นั่นยันวันกลับ เพราะเดี๋ยวนี้ รีสอร์ทแต่ละแห่ง มีการจัดแต่งสถานที่สวยงาม มีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างมาก มีมุมมุ้งมิ้ง เดินเล่น ปั่นจักรยาน แถมที่พักฮิพๆ ให้เลือกมากมาย 
 
                         เมื่อก่อนใครจะไปเขาใหญ่ ก็มุ่งหน้าเขาใหญ่ ส่วนคนที่จะไปวังน้ำเขียว ก็มักตั้งใจไปวังน้ำเขียว เส้นทางมักจะแยกกันค่อนข้างชัดเจน โดยเขาใหญ่ไปได้ทั้งฝั่ง อ.ปากช่อง หรือ นครนายก-ปราจีนบุรี ส่วนวังน้ำเขียวก็มักจะขึ้นทาง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี (ถนนหมายเลข 304) แต่เดี๋ยวนี้ แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บนเส้นทางที่เชื่อมปากช่องกับวังน้ำเขียวเข้าด้วยกัน กลับกลายเป็นแหล่งพักผ่อน มีทั้งที่พักกางเต็นท์ริมทะเลสาบ หรือรีสอร์ทฮิพๆ ไปจนถึงรีสอร์ทสวยหรู 
 
                         เที่ยวนี้ ฉันอาสาเป็นไกด์พาพี่ชาย ขับรถเที่ยวจากเขาใหญ่ ไปวังน้ำเขียวแบบสบายๆ ในเส้นทางลัดสายนี้ดู โดยขอเว้นวรรคอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และทับลาน ฝั่งวังน้ำเขียวไปก่อนนะ 
 
                         จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้ามวกเหล็ก ฉันเลือกเข้าเส้นทางลัดขึ้นเขาแผงม้า โดยไม่ไปถึง อ.ปากช่อง ซึ่งเป็นทางขึ้นหลัก
 
                         ถนนสองเลนที่ไม่พลุกพล่านมากนัก ป้ายบอกทางสถานที่เที่ยว ที่พัก มีตลอดทาง จนถึงสามแยกถนนธนะรัชต์ เลี้ยวซ้ายไฟแดง ย้อนไปหน่อย แวะชิล & ช็อป ที่ ปาลิโอ เขาใหญ่ (เลี้ยวขวาขึ้นอุทยาน) ที่นี่แม้จะเปิดตัวมานานหลายปี มีร้านค้าเปลี่ยนหน้าตาไปตามกาลเวลาบ้าง แต่กรุ่นอายของความเป็นอิตาลีน้อยๆ ยังคุกรุ่น เลยมีหนุ่มสาวแวะมาช็อป มาชิล มามุ้งมิ้ง อย่างไม่ขาดสาย ที่นี่มีร้านค้ารวมๆ แล้วกว่า 120 ร้าน แถมด้วยโรงแรมให้บริการด้วย
 
                         ต้นฤดูร้อนแบบนี้ อากาศที่เขาใหญ่ ยังเย็นสบาย จะว่าแดดร้อนก็ไม่เถียง แต่พออยู่ในร่มที่ไม่โดนแดด ก็รู้สึกได้ถึงลมเย็นๆ อากาศสบายๆ ขึ้นมาทันทีเหมือนกัน 
 
 
จาก'เขาใหญ่'ไป'วังน้ำเขียว'
 
                         ออกจากปาลิโอ มุ่งหน้าขึ้นเขาใหญ่ ก่อนถึงปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทางแยก ไปวังน้ำเขียว ระยะทางราวๆ 70 กม. แต่ในรายทาง น่าตื่นตาตื่นใจไปกับร้านกาแฟเก๋ๆ รีสอร์ทฮิพๆ หรือรีสอร์ทแอนด์กอล์ฟ คลับ ที่ขึ้นชื่ออย่าง คีรีมายา หรือ ทอสคานา ก็อยู่บนเส้นทางสายนี้ โดยเฉพาะทอสคานา วัลเลย์ ที่ใครผ่านไปมา มักแวะถ่ายรูปด้านหน้าโครงการ ซึ่งจะเห็นอาคารสไตล์ทัสคานี ไล่ระดับสวยงาม
 
                         เส้นทางเขาใหญ่-วังน้ำเขียวสายนี้ เป็นเส้นทางเดียวกับที่มุ่งสู่ ตลาดน้ำเขาใหญ่ ตลาดน้ำคนสร้างขนาดใหญ่สไตล์วินเทจ เจ้าของเดียวกับตลาดน้ำอโยธยา และตลาดน้ำหัวหิน ที่เริ่มเปิดให้คนเข้าเที่ยวชมเมื่อต้นเดือนธันวาคมและเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เอง ข้าวของในโครงการเลยยังไม่คึกคักมากนัก และแม้จะอยู่ห่างจากถนนหลัก แต่มีป้ายบอกทางไปตลอด ไม่มีหลง แค่ระยะทางค่อนข้างไกลสำหรับคนที่คาดหวังว่าเดี๋ยวก็ถึง (ฮา) เพราะเบ็ดเสร็จนับจากแยก ก็ราวๆ 25 กม. เอง
 
                         นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันลองมาใช้เส้นทางเชื่อมระหว่างเขาใหญ่กับวังน้ำเขียวเส้นนี้ สองข้างทางเป็นเนินเขาลูกเล็ก ลูกใหญ่ ที่เหมือนจะกลายร่างเป็นทุ่งหญ้าในบางพื้นที่ แปลงปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตใกล้จะแล้วเสร็จ ขณะที่บางแปลงรีสอร์ทสไตล์ยุโรปกำลังขึ้นโครงการ
 
                         เลยจากแยกไปตลาดน้ำเขาใหญ่อีกราว 50 กม. เป็นเส้นทางคดโค้ง ขึ้นลงเขา ดอกไม้ฤดูร้อนที่ปลูกริมทางพากันออกดอกสีสันสวยงาม ทั้งสีส้มของทองกวาว หรือดอกจาน สีชมพูหวานๆ ที่ออกดอกแน่นกิ่งยาวๆ ของกัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้สองชนิดที่จะเห็นได้เยอะระหว่างสองข้าง ในเส้นทางสายอีสาน จนอดนึกไม่ได้ว่า ถ้าปลูกต้นเรียงเป็นแนวริมถนน เหมือนกับนางพญาเสือโคร่ง ในเส้นทางสายฮิตภาคเหนือ เวลาออกดอก นักท่องเที่ยวก็น่าจะพากันมาเดินทางผ่านเส้นทางสายนี้มากขึ้น 
 
                         เห็นถนนสายเล็กๆ อย่างนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำมันหมดกลางทาง เพราะมีปั๊มน้ำมันขนาดกลางๆ อยู่ 2 แห่ง ที่พักยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีไปตลอดทาง
 
                         เข้าสู่วังน้ำเขียว ผ่าน อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ กลายเป็นจุดแวะพักผ่อนอีกมุมหนึ่ง ที่มีรีสอร์ททั้งเล็กทั้งใหญ่ผุดขึ้นมาหลายแห่ง ถนนสายนี้ไปทะลุเส้น 304 ตรงเขาแผงม้า (เลี้ยวขวาก็ลงเขาสู่ปราจีน เลี้ยวซ้ายก็เข้า อ.วังน้ำเขียว และมุ่งหน้า อ.ปักธงชัย) เราเลือกเลี้ยวซ้าย ไป อ.วังน้ำเขียว เพราะมีที่หมายจะไปนั่งจิบกาแฟในไร่องุ่น แล้วก็แวะเที่ยวผาเก็บตะวัน 
 
                         วังน้ำเขียว เป็นอำเภอที่อยู่ตอนใต้ของ จ.นครราชสีมา ติดกับ อ.นาดี ของปราจีนบุรี ที่ได้ชื่อวังน้ำเขียวก็เพราะสมัยก่อน แถบนี้มีวังน้ำที่ใสสะอาดงดงาม ขนาดที่ว่าน้ำใสจนเห็นเงาสะท้อนสีเขียวของต้นไม้เลยทีเดียว
 
                         ภาพของวังน้ำเขียวที่ได้ชื่อว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน ในวันนี้ ดูแล้วคล้ายๆ กับฝั่งเขาใหญ่เข้าไปทุกที ด้วยรีสอร์ทผุดขึ้นมากมาย ป่าไม้หายไปจนกลายเป็นว่ารีสอร์ทบางแห่งรุกพื้นที่ป่าก็มี  
 
                         แวะเติมน้ำมันก่อน ปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่เด่นด้วยป้ายชื่อกิ๊บเก๋ ที่ดึงดูสายตา เมื่อก่อนจะมีแค่ปั๊มเล็กๆ ตรงตลาดหน้าอำเภอ เติมน้ำมันรถเสร็จ ถึงเวลาเติมน้ำมันคนมั่ง ฉันพาพี่ชายไปแวะจิบกาแฟที่ "วิลเลจฟาร์ม & ไวน์เนอรี่" ชมไร่องุ่น ที่กำลังออกลูกพอดี
 
                         ออกจากวิลเลจฟาร์ม แวะเข้าหมู่บ้านไทยสามัคคี ปลายทางที่ ผาเก็บตะวัน เรียกว่าใครผ่านมาแถวนี้ มีโอกาสก็มักจะแวะเข้าไปเที่ยวชม แถมใครมาช่วงนี้ สามารถแวะเที่ยวสวนดอกไม้ "เบญจมาศบานในม่านหมอก @ วังน้ำเขียว" ที่จัดแต่งเมื่อวันแห่งความรัก แล้วยังเก็บไว้จนถึงวันนี้ ดอกไม้สีสันสดใส ยังงดงาม ท่ามกลางแดดจัดๆ จนคิดว่าน่าจะเหมาะกับการมาเดินเล่นช่วงเช้ากับเย็นซะมากกว่า 
 
 
จาก'เขาใหญ่'ไป'วังน้ำเขียว'
 
 
                         ระหว่างทางจะผ่านทั้ง สวนลุงไกร ลุงที่เล่นกีตาร์ร้องเพลงให้ผักฟัง จนได้ออกทีวีไปหลายรายการ ฟาร์มเห็ดก็มี แต่ที่ตื่นตาก็ป้ายบอกทางรีสอร์ท ทั้งเยอะ ทั้งสูงที่สุด ก็อยู่ ในเส้นทางนี้เหมือนกัน ส่วนผาเก็บตะวันจะอยู่สุดปลายทาง อยู่ในความดูแลของหน่วยย่อย อุทยานแห่งชาติทับลาน อากาศร้อนแบบนี้ ผู้คนไม่มากนัก หน้าตาของผาเก็บตะวันเปลี่ยนไปทั้งป้ายหินขนาดใหญ่ และยังมีบ้านไม้ที่ใช้ถ่ายละครเข้ามาแทนที่ศาลาที่เคยมีแต่หลังคา
 
                         วันนี้ตะวันร้อนแรงเกินกว่าจะเก็บ เลยได้แต่เดินถ่ายรูปนิดหน่อย กิจกรรมยิงหนังสติ๊กปลูกต้นมะค่าริมหน้าผา ยังมีอยู่เหมือนเดิม  
 
                         "พี่ว่ามั้ย เขาใหญ่ กับวังน้ำเขียว รีสอร์ทเยอะมากเลยนะ" 
 
                         "ผมว่า ใครจะมาเที่ยวที่นี่ คงต้องมีรถ ไม่งั้นก็เที่ยวได้แต่ด้านนอกๆ" 
 
                         สองพี่น้องคุยกันระหว่างขากลับ...
 
 
 
......................
 
(จาก 'เขาใหญ่' ไป 'วังน้ำเขียว' : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย...เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์)
 
 
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ