ไลฟ์สไตล์

กังหันลมผลิตไฟฟ้าครั้งแรกของไทย

กังหันลมผลิตไฟฟ้าครั้งแรกของไทย

21 มิ.ย. 2552

สนช.หนุนเอกชน ดึง มทร.ธัญบุรีออกแบบกังหันลมผลิตไฟฟ้าที่เหมาะสมกับประเทศไทยครั้งแรก ชี้ต้นทุนต่ำ ช่วยสิ่งแวดล้อม เจ้าของผลงานฝากรัฐติดตั้งทุกชุมชนขาดแคลนไฟฟ้า แจงใช้งบเพียง 1 ล้านต่อต้น ขณะที่กังหันลมนำเข้าใช้งบ 300 ล้าน

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) และบริษัท พระพายเอ็นจีเนียริ่ง จำกัด แถลงข่าวพิธีมอบเงินค่าบริการวิชาการในโครงการ “กังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ชนิดเสาเดี่ยวร่วม” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

 ดร.ศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านพลังงานกำลังได้รับความสนใจจากประเทศต่างๆ เนื่องจากราคาน้ำมันที่มีความผันผวนและแนวโน้มขยับตัวสูงขึ้น ดังนั้นหลายประเทศจึงมุ่งหาพลังงานทดแทน เช่น พลังงานลม แสงอาทิตย์ น้ำ ซึ่งโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ ชนิดเสาเดี่ยวร่วม โดย สนช.ให้การสนับสนุนด้านการเงินภายใต้โครงการ แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน ในวงเงินไม่เกิน 708,000 บาท จากมูลค่ารวมโครงการทั้งสิ้น 1,208,000 บาท ให้แก่บริษัท พระพายฯ ในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เพื่อใช้ในการพัฒนากังหันลม

 ส่วนการออกแบบดำเนินการโดยนักวิจัย มทร.ธัญบุรี ให้ใบกังหันมีความเหมาะสมกับความเร็วลมต่ำในประเทศไทย รวมถึงออกแบบชุดหมุนส่ายหาลม ชุดหางกังหัน ชุดเพลาส่งกำลัง และระบบเบรกพร้อมชุดผ่อนแรง จึงเป็นความสำเร็จของประเทศไทยในการสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ และเป็นหนึ่งในโครงการนวัตกรรมด้านพลังงานทางเลือก และเป็นโครงการนวัตกรรมรายอุตสาหกรรม เนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศ ด้านพลังงานสะอาด

 ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวต่อว่า โครงการกังหันลมจัดทำขึ้นเพื่อความเหมาะสมสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้ลดต้นทุนในการผลิตและการติดตั้งเสา ค่าขนส่ง และใช้พื้นที่ติดตั้งน้อย จึงถือเป็นตัวอย่างที่ดีต่อแนวทางในการดำเนินงานพัฒนาผลงานวิจัยให้เห็นเชิงรูปธรรมต่อโครงการอีกจำนวนมากที่วิจัยโดย มทร.ธัญบุรี ที่ผ่านมา มทร.ธัญบุรีและ สนช.ร่วมเป็นเครือข่ายวิชาการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนวัตกรรม 4 โครงการ ได้แก่ โครงการป้ายอะคริลิกประหยัดพลังงาน โครงการเครื่องผลิตไฟฟ้าและน้ำมันจากขยะพลาสติกและขยะอุตสาหกรรม โครงการหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ T5 นาโน ไร้ฝุ่น และโครงการสารสกัดจากสะเดาคุณภาพสูง ซึ่งมีมูลค่าการสนับสนุน 4,750,000 บาท แต่ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุน 51,098,000 บาท

 รศ.ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าและวิจัย เพื่อพัฒนาให้เกิดผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ และสามารถนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ โดยโครงการดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งผลงานวิจัยที่ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการในการสร้างธุรกิจใหม่บนฐานความรู้ ซึ่งมหาวิทยาลัยทำหน้าที่ให้บริการทางวิชาการ โดย ดร.วิรชัย โรยนรินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มพลังงานทดแทน เป็นเจ้าของผลงานในการพัฒนาต้นแบบกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ ชนิดเสาเดี่ยวร่วม แบบความเร็วลมต่ำ ที่เหมาะสมกับประเทศไทย ดังนั้นโครงการนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นและจุดประกายความคิดในการริเริ่ม และผลิตงานวิจัยที่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง

 ดร.วิรชัย เจ้าของผลงานกังหันลม กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยจะนำกังหันจากต่างประเทศมาใช้ ซึ่งทำให้สูญเสียงบประมาณจำนวนมาก อีกทั้งรูปแบบกังหันลมของต่างประเทศก็ไม่เหมาะสมกับประเทศไทย ดังนั้นจึงคิดค้นและริเริ่มออกแบบกังหันลมให้เหมาะสมกับประเทศไทย โดยเฉพาะเขตพื้นที่กันดาล เนื่องจากกังหังลมเป็นการใช้พลังงานลมทดแทน ลดพลังงานที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน รักษาสิ่งแวดล้อม ลดต้นทุน และยังทำให้เกิดความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศด้วย

 “โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและสถานประกอบการ โดยได้รับการสนับสนุนจาก สนช.ในการผลิตกังหันลมเพื่อชุมชนและพื้นที่ที่ยังไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง เพราะการที่รัฐจะใช้กังหันลมจากต่างประเทศติดตั้งโดยลากสายไฟไปตามพื้นที่ต่างๆ ทำให้เสียงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ขณะที่หากนำกังหันลมกระแสไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ ชนิดเสาเดี่ยวร่วมไปใช้ จะใช้ต้นทุนเพียง 1 ล้านบาท ทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้จำนวนมาก โดย 1 ต้น สามารถใช้ได้ 2-3 ครัวเรือน ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยดำเนินการติดตั้งที่เกาะล้าน จ.ชลบุรี ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และช่วยเหลือชาวบ้านได้จำนวนมาก” ดร.วิรชัย กล่าว

 ในเร็วนี้ๆ มหาวิทยาลัยจะร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่ขึ้นที่ลำตะคอง จ.นครราชสีมา เป็นการผลิตที่เหมาะสมกับชุมชน จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนและช่วยเหลือ เพื่อที่คนไทยในทุกๆ พื้นที่ได้มีกระแสไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือน

 นายสุรชัย อาจสามารถ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท พระพายเอ็นจีเนียริ่ง จำกัด กล่าวว่า กังหันลมที่ร่วมผลิตขึ้น เพื่อต้องการสร้างต้นแบบและการใช้เทคโนโลยีไฟฟ้าจากพลังงานลมอย่างเหมาะสม ด้วยการใช้เสาเดียวกันต่อหัวกังหันลม 2 ชุด ทำให้สามารถลดการใช้เสาและวัสดุเหล็ก อีกทั้งยังสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง จึงถือเป็นเรื่องที่ดี ที่อนาคตทุกครัวเรือนในประเทศไทยมีไฟฟ้าใช้ด้วยพลังงานลม