
'สมาร์ทเลดี้ ไทยแลนด์ ผู้หญิงสวย...ด้วยความคิด'
'สมาร์ทเลดี้ ไทยแลนด์ ผู้หญิงสวย...ด้วยความคิด'คนแรก พร้อมทำหน้าที่ เคียงข้างกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ : คอลัมน์สัมภาษณ์พิเศษ
โครงการ "สมารท์เลดี้ ไทยแลนด์ ผู้หญิงสวย...ด้วยความคิด" ประกาศผลผู้หญิงเก่งคนแรกของโครงการที่ได้รับคะแนนสูงสุด ไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2556 ได้แก่ "โบนัส" น.ส.พรรษสลิล รีพรหม นักศึกษาปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับมอบรางวัล 2 แสนบาท โดยมี ขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ เป็นผู้มอบรางวัล
ดร.ขนิฏฐา กาญจนรังษีนนท์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และรองผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ เล่าถึงความเป็นมาของ โครงการ "สมารท์เลดี้ ไทยแลนด์ ผู้หญิงสวย...ด้วยความคิด" ให้ฟังว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ต้องการสรรหาผู้หญิงเก่ง ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เพื่อเชิดชูเกียรติ ส่งเสริมบทบาทผู้หญิงเก่งสู่สาธารณะ ตามแนวคิดเพื่อให้รางวัลแก่ผู้หญิง ขณะเดียวกันต้องให้บุคคลอื่นได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ และต้องการให้มีบุคคลใหม่ๆ เข้ามาเป็นสมาชิกของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพิ่มขึ้น
"สตรี เป็นส่วนเติมเต็มของสังคม ที่สามารถร่วมสร้างสรรค์พัฒนาประเทศให้มีความมั่นคงและยั่งยืน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจึงเปิดโอกาสให้หญิงไทยรุ่นใหม่ได้แสดงออกด้านความคิด ความสามารถ และพัฒนาศักยภาพ ในการเป็นผู้นำ ผ่านรายการเรียลิตี้ทีวี สมารท์เลดี้ ไทยแลนด์ เพื่อประกวดและพัฒนาศักยภาพของผู้เข้าประกวดให้สูงขึ้น และขยายบทเรียนการพัฒนาศักยภาพของผู้เข้าร่วมโครงการ ไปสู่บุคคลภายนอก โดยเฉพาะผู้หญิง ให้ได้เรียนรู้ในคราวเดียวกัน และเป็นการส่งเสริมค่านิยมแบบใหม่ของสังคมให้มองผู้หญิงที่ความคิด ไม่ใช่รูปร่างหน้าตา"
ผู้เข้าร่วม โครงการ "สมารท์เลดี้ ไทยแลนด์ ผู้หญิงสวย...ด้วยความคิด" จึงไม่จำเป็นต้องมีรูปร่างหน้าตาดี ซึ่งในความหมายของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ต้องการผู้หญิงเก่งที่มีบทบาท มีศักยภาพที่จะช่วยกันพัฒนาประเทศ แข่งขันกันที่ความคิด หน้าตาเป็นส่วนประกอบ แต่สำคัญคือต้องคิดดี โดยคัดเลือกผู้หญิงทั่วประเทศเข้าอบรมพัฒนาศักยภาพผู้นำ มีกระบวนการคัดเลือกพร้อมกับการอบรมให้ความรู้และพัฒนาศักยภาพ
"มีหญิงไทยจากทุกภาคทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 21,890 คน ผู้ผ่านการคัดเลือก 12 คนเท่านั้นที่จะเป็นตัวแทนผู้หญิงของประเทศ ได้รับคัดเลือกรอบสุดท้ายเข้าสู่บ้าน "สมารท์เลดี้ ไทยแลนด์" อยู่ร่วมกันเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเรียนรู้ อบรม ฝึกทักษะอย่างเข้มข้น ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจากผู้เชี่ยวชาญและแขกรับเชิญชื่อดังในแต่ละสัปดาห์"
สัปดาห์ที่ 1 ในหัวข้อ “คิดเพื่อค้น” ผู้ชมและ สมาร์ทเลดี้ ได้ค้นหาและรู้จักคุณค่าของตัวเอง เป็นรากฐานของการพัฒนาสังคม
สัปดาห์ที่ 2 ในหัวข้อ“คิดเพื่อเรียนรู้” เข้าใจและพร้อมแก้ปัญหาเพื่อผู้หญิงในสังคมไทย
สัปดาห์ที่ 3 ในหัวข้อ“คิดเพื่อต่อยอด” สัปดาห์แห่งการรวมพลังต่อยอดความคิดผลิตงานสร้างสรรค์
สัปดาห์ที่ 4 ในหัวข้อ “คิดเพื่อพัฒนา” แปลความคิดเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อพัฒนาด้านบุคลิกภาพ การคิดและการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม การร่วมกันทำโครงการจริงซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคม
โดย สมาร์ทเลดี้ทั้ง 12 คนจะเสนอโครงการของตัวเองคนละ 1 โครงการ และโครงการสมาร์ท โปรเจกท์ เป็นโครงการเพื่อสังคมที่ทั้ง 12 คนร่วมกันคิด ได้แก่ โครงการลดความรุนแรงในสตรี หลังจบโครงการ สมาร์ทเลดี้ทั้ง 12 คน จะได้ทำโครงการเพื่อสังคมและเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม โดยปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นเวลา 1 ปีเต็ม
แรกเริ่มโครงการมาจากแนวคิดของคำถามที่ว่า โครงการนี้ผู้ชนะจะได้อะไร และคนอื่นจะได้อะไร จึงมีการกำหนดรูปแบบกิจกรรมและปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเรื่อยๆ จนกระทั่งตกผลึกที่การเป็นเรียลิตี้ทีวี ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกถึงแม้จะมีความรู้ ความสามารถอยู่แล้ว เมื่อผ่านการคัดเลือกและเข้าบ้าน "สมารท์เลดี้ ไทยแลนด์" 12 คน จะได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันต้องให้บุคคลอื่นได้เรียนรู้จากการฝึกอบรมนั้นด้วย สำหรับการกำหนดอายุผู้สมัคร 18-35 ปี เพราะต้องการคนรุ่นใหม่ จากการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สมาชิกเป็นบุคคลค่อนข้างมีอายุ ส่วนใหญ่เป็นคนในหมู่บ้านตามต่างจังหวัด คนในเมืองใหญ่ๆ สมัครเป็นสมาชิกน้อยมาก จึงเป็นวัตถุประสงค์หนึ่งของคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติที่ต้องการขยายฐานสมาชิกไปสู่เมือง และเป็นคนรุ่นใหม่
ดร.ขนิฏฐา บอกว่า กว่า 1 เดือนเต็มที่ผู้ผ่านการคัดเลือก 12 คน ต้องใช้ชีวิตในบ้านหลังเดียวกัน มีโค้ช หรือผู้ฝึกสอน ให้ความคิด ความรู้ ปรับทัศนคติ โดยมีการกระบวนการหล่อหลอมความคิดสมาร์ทเลดี้ทั้ง 12 คน จะได้รับบททดสอบต่างๆ จากครูใหญ่ในบ้าน ครูผู้สอน วิทยากรในบ้าน โดยเกณฑ์การตัดสินมาจากคณะกรรมการให้คะแนน ผลคะแนนโหวตของผู้เข้าแข่งขันด้วยกันเอง ผลโหวตจากผู้ชมทางบ้าน เพื่อหาผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด เป็นผู้ชนะการประกวดครั้งนี้ ไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา
จากนั้น วันที่ 18 ธันวาคม 2556 มีการประชุมสรุปผลและแนวทางที่จะดำเนินการต่อไปหลังเสร็จสิ้นโครงการ และพิธีลงนามเอ็มโอยู กับสมารท์เลดี้ ไทยแลนด์ ทั้ง 12 คน เพื่อมอบภารกิจในฐานะทูตกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดย ขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ เป็นประธานการลงนาม ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ
"สำหรับภารกิจหลักของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในด้านการส่งเสริมอาชีพของสมาชิกกองทุน มีการอบรมให้ความรู้ในเรื่องธุรกิจโดยหน่วยงาน องค์กรเอกชนในแวดวงธุรกิจต่างๆ เพื่อให้สมาชิกนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดในธุรกิจของตนเอง ได้แก่ ด้านเกษตร ด้านบริการ ร้านเสริมสวย ร้านซักรีด ร้านอาหาร กองทุนจะจัดอบรมเรื่องการบริหารร้าน การทำบัญชี การลงทุน การออกแบบทรงผม การผลิตเครื่องสำอาง โดยร่วมมือกับ สมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย นอกจากนี้ สมาชิกกองทุนคนใด มีอาชีพแต่ขาดเงินทุนสนับสนุน สามารถนำเสนอแผนงานมายังกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีประจำท้องถิ่นของตนเองได้ โดยกองทุนจะพิจารณาแผนงานและอนุมัติเพื่อสนับสนุนต่อไป"
ส่วนกิจกรรมต่างๆ และโครงการเพื่อสังคมของสมาร์ทเลดี้ทั้ง 12 คน รวมทั้งโครงการสมาร์ท โปรเจกท์ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะนำขึ้นเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ และเฟซบุ๊กของกองทุน โดยจะเปิดพื้นที่แฟนเพจเผยแพร่และประชาสัมพันธ์กิจกรรมของผู้หญิง รวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปค้นหาข้อมูล
หลายโครงการที่สมาร์ทเลดี้ 12 คน นำเสนอต่อคณะกรรมการ โครงการ "สมารท์เลดี้ ไทยแลนด์ ผู้หญิงสวย...ด้วยความคิด" นั้น คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ เห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะผู้หญิง อาทิ การใช้เฟซบุ๊ก ภัยของผู้หญิงกับโซเชียลมีเดีย กฎหมายที่ผู้หญิงต้องรู้ ก็จะเผยแพร่ในเว็บไซต์เช่นกัน ประชาชนสามารถติดตามข่าวกิจกรรมกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้ที่ www.womenfund.in.th และ เฟซบุ๊ก กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
....................
('สมาร์ทเลดี้ ไทยแลนด์ ผู้หญิงสวย...ด้วยความคิด'คนแรก พร้อมทำหน้าที่ เคียงข้างกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ : คอลัมน์สัมภาษณ์พิเศษ)