ตากหนาวในบอสเนีย&เฮอร์เซโกวีนา
15 ธ.ค. 2556
ตากหนาวในบอสเนีย&เฮอร์เซโกวีนา : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง
เมืองทุกเมือง ประเทศทุกประเทศ มีเรื่องเล่าและเรื่องราวอยู่เสมอ แต่ให้ตายเถอะ ฉันไม่ชอบเรื่องราวของบอสเนีย & เฮอร์เซโกวีนา (Bosnia and Herzegovina) เอาซะเลย ที่จริงมันเศร้าเกินกว่าจะเล่าด้วยซ้ำ
พูดก็พูดเถอะ ฉันแอบเสียน้ำตาให้สถานที่หลายแห่งในโลกมาก็หลายหน อย่างน้อยก็ค่ายเอาซ์วิตซ์ ประเทศโปแลนด์ ที่ทำให้เผลอสะอื้นอยู่ในอก ได้แต่หวังว่าเรื่องราวของบอสเนีย & เฮอร์เซโกวีนา จะไม่ทำให้คนอ่อนไหวเผลอเสียน้ำตาอีก
เที่ยวนี้บินจากกรุงเทพฯ ไปลง ซาราเยโว (Sarajevo) เมืองหลวงของบอสเนีย & เฮอร์เซโกวินา ไม่ได้บินแบบม้วนเดียวจบ เพราะไหนๆ บินกับสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (02-2310300-7) เลยแวะเที่ยวอิสตันบูลเป็นของแถม เพราะเดี๋ยวนี้คนไทยเที่ยวตุรกีไม่ต้องทำวีซ่าแล้ว ปกติจากกรุงเทพฯ เขามีเที่ยวบินไปกลับซาราเยโวทุกวัน
ปีก่อนฉันก็สัญจรไปในประเทศแถบนี้ด้วยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส นี่แหละ ทั้งโคโซโว มาซิโดเนีย แอลเบเนีย มอนเตเนโกร โครเอเชีย แต่ไม่รู้เผลอหลุดบอสเนีย & เฮอร์เซโกวีนาไปได้อย่างไร เป็นเหตุให้ปีนี้ต้องบินกลับไปเก็บตก
ความจริงถ้าใครจะสัญจรมาทางรถไฟก็ได้เหมือนกัน เพราะบอสเนียเชื่อมเส้นทางรถไฟจากหัวเมืองใหญ่ในยุโรปตะวันออก อย่างบูดาเปสท์ เมืองหลวงของฮังการี เบลเกรด เมืองหลวงของเซอร์เบีย และซาเกร็บ เมืองหลวงของโครเอเชีย ไปยังซาราเยโว โดยสามารถใช้พาสประเภท Balkan Flexipass \http://wikitravel.org/en/European_rail_passes\ ของรถไฟยุโรป (www.raileurope.co.th ) ได้
สำหรับคนชอบยุโรปเจริญรุดหน้าแน่นขนัดไปด้วยแบรนด์เนมทุกตรอกซอกซอย โปรดเก็บสตางค์ของท่านเอาไว้เดินช็อปแถวฝรั่งเศส อิตาลี และอังกฤษต่อไป อย่าได้เผลอหลุดมาละแวกนี้ให้เสียดายเงินและเวลา
เพราะประเทศแถวนี้ไม่มีแบรนด์เนมให้จับจ่าย มีแต่ทิวเขาและรอยกระสุนตามผนังตึกให้เดินสอดส่องกัน
นี่คือประเทศใหม่ที่ถือกำเนิดได้ไม่นานนัก โดยเพิ่งได้รับเอกราชและแยกตัวจากยูโกสลาเวียมาได้ไม่นาน และเพิ่งหมาดจากสงครามมาได้ไม่นานเช่นกัน
ไม่รู้ใครมาบอสเนียด้วยเหตุผลอะไร ส่วนฉันมาเพราะความค้างคาของตัวเอง แถมค้างคากันข้ามปีเลยทีเดียว
และผลจากการนั่งรถข้ามประเทศสัญจรไปในแถบนี้ทำให้รู้ว่าบอสเนียไม่ได้มีอะไรน่ากลัวอย่างที่หลายคนกลัว
ฉันอยากมาเห็นบอสเนียในจังหวะนี้มากกว่า ที่จริงอยากจะมาเมื่อ 5 ปีก่อนด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้นอะไรๆ คงยังไม่ได้ขัดสีฉวีวรรณกันมากนัก แต่ถ้าจะให้รอจนซาราเยโวผ่องแพ้ว รอยกระสุนถูกปูนโบกปิดทับไปหมด ไปเที่ยวเมืองสวยๆ ทางยุโรปตะวันตกไม่ดีกว่าหรือ
ก็ฉันตั้งใจมาดูผลพวงในความไม่มีประโยชน์ของสงคราม จะไปรอให้บอสเนียรองพื้นก่อนทำไม มาเห็นหน้าสดนี่แหละ
ก็เหมือนเคยที่ถึงจะคุ้นเคยกับภูมิภาคแถวบอลข่าน แต่ก็ไม่เคยประมาทกับประเทศพวกนี้ ทำการบ้านสิบตลบเหมือนเคย คลิกไปค้นข้อมูลสารพัดว่านักเดินทางเขาซ่องสุมกันแถวไหน ผลจากการคลิกจึงได้ความว่า ย่านเมืองเก่า คือแหล่งพำนักของนักเดินทาง จึงคลิกเข้าไปสำรวจเรือนพักแถวนั้นจากเว็บไซต์อโกดา ( www.agoda.com) นั่นแหละถึงได้รู้ว่าซาราเยโวกำลังเป็นเมืองยอดนิยมในสายตานักท่องโลกแค่ไหน เพราะจำนวนเรือนพักที่เด้งขึ้นมาให้คัดตัวนั้นเยอะพอๆ กับเมืองยอดฮิตอย่างปราก ปารีส และลอนดอนเลย
แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แค่ย่างเท้าไปแถวปากทางเข้าเมืองเก่า จึงพบว่าต่อให้ลมหนาวกระโชกโฮกฮากแค่ไหน เมืองเก่าซาราเยโวก็ไม่เคยขาดแคลนผู้คน
ไม่ได้เป็นเมืองเก่าที่แออัดไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามเหมือนกับเมืองเก่าปราก ไม่ได้คลาสสิกเท่าเมืองเก่าของบูดาเปสท์ หรือน่ารักเท่าเมืองเก่าของลูเบลียน่าแห่งสโลวีเนียหรอก
เพราะเมืองเก่าของซาราเยโวบอบช้ำมาจากสงครามอันยาวนานเกือบ 4 ปี ร่องรอยของบาดแผลจึงยังคงอยู่
วันนี้ผู้คนชาวบอสเนียนยิ้มแย้มแจ่มใส ราวกับว่าสงครามอันยืดเยื้อกับเซอร์เบียเมื่อ10 กว่าปีก่อน เป็นเพียงพล็อตเรื่องในหนังฮอลีวูดเท่านั้น
บางทีคงเป็นวันที่ซาราเยโวหมดทุกข์หมดโศกเสียที ผู้คนในเขตเมืองเก่าจึงได้ใช้ชีวิตกันอย่างเบิกบาน รอยยิ้มไม่ใช่ของหาง่ายเหมือนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน โบสถ์ สุเหร่า ตั้งไม่ไกลกัน บอกเล่าความใจกว้างของชาวบอสเนียน
รอยยิ้มและไมตรีของพวกเขาในวันนี้ ได้แต่ชวนให้สงสัยว่าเมื่อโดนกองทัพเซอร์เบียปิดล้อมเมืองเกือบ 4 ปี พวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างไรนะ พวกเขาจะยิ้มเดือนละกี่วัน และอะไรที่ทำให้ชาวบอสเนียนก่อร่างสร้างสุขได้อย่างรวดเร็วเพียงนี้
รอยกระสุนเจือจางไปแล้ว ไม่รู้ว่าแผลเป็นในใจผู้คนจะยังคงอยู่หรือไม่ ฉันหอบความสงสัยเดินตากหนาวต่อไปในเมืองเก่าซาราเยโว
..........................
(ตากหนาวในบอสเนีย & เฮอร์เซโกวีนา : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง)