ไลฟ์สไตล์

'คอฟฟี่ อนัตตา'ต่อยอดธุรกิจรีสอร์ท

'คอฟฟี่ อนัตตา'ต่อยอดธุรกิจรีสอร์ท

04 ธ.ค. 2556

ทำมาหากิน : หอมกรุ่น 'คอฟฟี่ อนัตตา' กาแฟต่อยอดธุรกิจรีสอร์ท : โดย...เทพารักษ์ ดำรงค์

 

                            กาแฟยามเช้า...หอมกรุ่นเสมอ ยิ่งได้ลิ้มรสกาแฟสายพันธุ์ "อาบาริกา" คั่วสดๆ รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม ท่ามกลางไอหมอกและสายลมหนาวริมแม่น้ำแม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นแรงบันดาลใจให้ กฤตนู เพชรวราภา หนุ่มใหญ่เจ้าของ "อนัตตารีสอร์ท" ลงมือปลูกกาแฟคั่วเองขายเอง ภายใต้แบรนด์ "คอฟฟี่ อนัตตา" (Coffee Anatta) ไว้คอยบริการผู้มาเยือน

                            "นักท่องเที่ยวเคยมาถามถึงที่มาของกาแฟนี้คิดว่าเป็นกาแฟที่มาจากต่างประเทศ พอรู้ว่าเราปลูกเอง คั่วเอง เป็นกาแฟออร์แกนิกแท้ๆ ปลูกบนดอยในป่าธรรมชาติ ถึงกับอึ้งและทึ่ง ต่างติดใจในรสชาติกาแฟดีๆ บรรยากาศก็ดี บอกเลยว่าแก้วเดียวไม่เคยพอ" กฤตนูเล่าอย่างอารมณ์ดี

                            ปรัชญาของ "กฤตนู" ในการเนรมิต "กาแฟอนัตตา" โดยปลูกตามแนวพระราชดำริให้คนกับป่าอยู่ร่วมกัน ให้คนรักษาป่าและป่าสร้างรายได้ให้คน ที่สำคัญ "นักท่องเที่ยว" สามารถไปชมไร่กาแฟ ลองเก็บกาแฟ กะเทาะเปลือก จนกระทั่งลองคั่วกาแฟเองได้

                            จุดเริ่มต้นของไร่กาแฟออร์แกนิกแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อราว 6-7 ปี ระหว่างที่กฤตนูก่อสร้าง "อนัตตารีสอร์ท" ที่หมู่บ้านสบก๋าย ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีชาวบ้านสูงอายุ 2 คน ชื่อ "ตาสม" กับ "ยายแก้ว" จูงมือกันมาหาแล้วขายที่ดินแปลงหนึ่ง ทั้งสองบอกว่าอายุมากแล้วทำไร่ไม่ไหว ลูกหลานก็ไม่กลับมาดูแล จึงช่วยซื้อไว้และบอกให้สองตายายเข้าไปทำไร่ได้เหมือนเดิม เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่ชาวไร่และไม่มีประสบการณ์ ต่อมามีชาวบ้านมาขายให้อีก 3-4 แปลง กระทั่งได้ที่ดินร่วม 60 ไร่ เลยต้องวางแผนพัฒนาที่ดิน พอขึ้นไปสำรวจตอนแรกถึงกับเข่าอ่อน เพราะมันรกร้างสภาพกลายเป็นป่าจึงตัดสินใจปลูกป่าเสริมเข้าไปเลยเพื่อให้คงธรรมชาติไว้ ปีแรกปลูกไม้หอมราว 2,000 ต้น ปีถัดมาขึ้นไปดูปรากฏว่าตายเกือบหมดเพราะแมลงและไฟป่า

                            กระทั่ง "กฤตนู" มีโอกาสไปเที่ยวดอยช้าง ได้เรียนรู้จากชาวไร่ที่นั่น เลยขอซื้อต้นกล้ากาแฟมาปลูก ตอนแรกตั้งใจปลูกเป็นไม้คลุมดิน รักษาความชื้นในป่า บำรุงรักษาตามปกติ ผ่านไป 3 ปี ปรากฏว่า ต้นหญ้าโตกว่ากาแฟ ส่วนต้นกาแฟไม่สมบูรณ์ แคระแกร็น ถูกมอดแมลงไชตายไปเกือบทั้งไร่ เลยต้องฝึกวิชากับ อ.ยักษ์ หรือ วิวัฒน์ ศัลยกำธร แห่งศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง แนะนำให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ใช้แมลงกำจัดกันเองในธรรมชาติ ปรากฏว่า ต้นกาแฟกลับมางามสมบูรณ์ เมล็ดใหญ่ไม่มีแมลงกิน ปีนั้นจึงเริ่มพัฒนาฝึกการคั่วแกแฟเอง

                            "ช่วง 2 ปีแรก ใช้วิธีโบราณ คั่วในกระทะเหล็ก คั่วอ่อนบ้าง แก่บ้าง ไหม้บ้าง จนเข้าใจธรรมชาติของกาแฟ ว่าต้องมีการผสมกันปริมาณที่พอเหมาะถึงจะได้กลิ่นและรสที่กลมกล่อม แรกๆ เราคั่วกาแฟใช้ภายในรีสอร์ทเท่านั้น กระทั่งมาออกบูธงานท่องเที่ยว มีลูกค้ารายหนึ่งบอกว่า ติดกาแฟชื่อดังยี่ห้อหนึ่งต้องดื่มวันละ 5-6 แก้ว ก็บอกเขาว่ารีสอร์ทเราอยู่ในป่า มีกาแฟคั่วเองให้มาลองชิม ปรากฏว่าวันที่เขามาพักที่รีสอร์ทได้ลองชิมกาแฟของเราแก้วแรก ทำตาโตแล้วบอกว่ามันเยี่ยมมาก เป็นรสกาแฟแท้ๆ มีกลิ่นอายของธรรมชาติ วันนั้นเขากินไป 10 แก้ว ตั้งแต่นั้นมาเขากลายเป็นลูกค้าประจำ จนตอนนี้มาสร้างบ้านอยู่ข้างๆ รีสอร์ทแล้ว ส่วนลูกค้ารายอื่นๆ ที่ติดใจซื้อติดมือกลับไปชงเอง บางรายที่เปิดร้านกาแฟออร์แกนิกก็สั่งกาแฟจากเรา" กฤตนู บอกด้วยความภูมิใจ

                            เมื่อเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จเริ่มผลิดอกออกผล "กฤตนู" ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเครื่องคั่วกาแฟมาตรฐานขนาดเล็ก ส่วนขั้นตอนอื่นๆ ยังคงใช้แรงงานจากคนทั้งหมด ตั้งแต่การเก็บเม็ดกาแฟสดๆ จากไร่ กะเทาะเปลือกด้วยครกไม้ ฝัดเปลือกด้วยกระด้ง ส่วนการคั่วต้องอาศัยความชำนาญของสายตาและชิมเองทุกเตา จนได้ "กาแฟออร์แกนิก" ที่มีกลิ่นและรสชาติกลมกล่อมเฉพาะตัว

                            อย่างไรก็ตาม "คอฟฟี่ อนัตตา" กำลังการผลิตยังไม่สูงมากนัก ยังไม่มีวางจำหน่ายโดยทั่วไป ถ้าสนใจลิ้มรสต้องเดินทางขึ้นเหนือไปชิมฟรีที่รีสอร์ท หรือสั่งซื้อได้โดยตรงจากรีสอร์ทเท่านั้น โทร.08-5199-5417 ย้ำว่า "ราคาไม่แพง" หรือติดตามข้อมูลได้ที่ www.baanAnttaResort.com

 

 

----------------------

(ทำมาหากิน : หอมกรุ่น 'คอฟฟี่ อนัตตา' กาแฟต่อยอดธุรกิจรีสอร์ท : โดย...เทพารักษ์ ดำรงค์)