ไลฟ์สไตล์

เปิด "บ้านยาง" ดินแดนลี้ลับในหุบเขาแห่งล้านนา

เปิด "บ้านยาง" ดินแดนลี้ลับในหุบเขาแห่งล้านนา

18 มิ.ย. 2552

ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวในภาคเหนือคนส่วนใหญ่คงคิดถึงยอดดอยต่างๆ เพราะความงามของธรรมชาติเป็นสิ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการ แต่สำหรับใครที่ชอบเที่ยวภาคเหนือ แต่อยากลองเที่ยวแนวใหม่ดูบ้าง วันนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดตัว “โครงการพัฒนาหมู่บ้

  การเดินทางสู่เชียงใหม่ในครั้งนี้ใช้เครื่องบินเป็นพาหนะ โดยทันทีที่ล้อของนกเหล็กแตะลงสู่พื้น พวกเราก็มุ่งหน้าไปยัง บ้านยาง อ.ฝาง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 150 กิโลเมตร โดยที่นี่เป็นชุมชนที่อาศัยอยู่ของชาวไทยยูนนาน ก้าวแรกที่สัมผัสทำให้รู้ได้ทันทีว่า ถึงจะเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแต่ก็เปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและประเพณี ความงามของธรรมชาติ รวมถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน

 ในส่วนของที่พักจะเป็นโฮมสเตย์โดยให้นักท่องเที่ยวอาศัยอยู่กับชาวบ้าน ทั้งเรื่องการกินและการนอน  ถึงตอนนี้จะมีบ้านที่เข้าร่วมโครงการเพียง 23 หลัง แต่ทุกคนในหมู่บ้านก็เริ่มที่จะตื่นตัวกับโครงการนี้มากขึ้น จากการพูดคุยกับพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ย ทำให้เราได้รู้ว่าชาวบ้านที่นี่แม้จะมีการนับถือศาสนาทั้ง พุทธ คริสต์ อิสลาม แต่ทุกคนก็อยู่รวมกันได้อย่างสมานฉันท์มาเป็นเวลานาน และอีกหนึ่งเรื่องที่นับเป็นสิ่งที่ดีคือ เด็กทุกคนที่บ้านยางจะต้องเรียนภาษาจีนควบคู่ไปกับการเรียนในโรงเรียนปกติ

 พูดคุยกับชาวบ้านจนเพลินเวลาก็ล่วงเลยมาถึงพลบค่ำ ก็ได้เวลาจะมีงานสำคัญที่ทุกคนนับวันรอคอยมานาน นั่นก็คือ พิธีเปิดหมู่บ้านโอท็อปเพื่อการท่องเที่ยว อย่างเป็นทางการนั่นเอง ซึ่งภายหลังงานพิธีการผ่านพ้นไปแล้ว พวกเรามีโอกาสได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายของชาวไทยยูนนาน เช่น การละเล่นพื้นบ้าน อาหาร การแสดงต่างๆ โดยเฉพาะ อาหารของชาวไทยยูนนานขนานแท้ ที่หากินที่ไหนไม่ได้ หากจะลิ้มลองรสชาติก็ต้องไปที่บ้านยางแห่งเดียว...นับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่แสนตรึงใจอีกเช่นกัน

 เช้าวันใหม่ในหมู่บ้านแสนเงียบสงบ  การเดินชมวิถีชาวบ้านในยามเช้านับเป็นภารกิจแรกที่ต้องทำ ภาพมัสยิด ศาลเจ้า โบสถ์คริสต์ ที่รวมกันอยู่ในหมู่บ้านแห่งเดียวถือเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง เสร็จจากการเดิมชมหมู่บ้านแล้วเราก็ลุยต่อที่ สวนลิ้นจี่ ซึ่งนับเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของที่นี่ โดยเจ้าของสวนอนุญาตให้เด็ดกินจากต้นได้ เรียกว่าอร่อยไปอีกแบบ ส่วนมื้อเช้าสำหรับนักท่องเที่ยวจะเป็นการกินกับเจ้าของบ้านในบ้านที่พักอาศัย นับเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างที่ดูอบอุ่น เพราะเหมือนกินอยู่ในครอบครัว

 หลังจากอิ่มท้องก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางต่อ โดยมาถึงบ้านยางทั้งทีก็ควรไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านสักหน่อยนั่นก็คือ ศาลเจ้าแม่กวนอิม โดยในวันสำคัญของจีนจะมีคนมาที่ศาลแห่งนี้อย่างเนืองแน่น ต่อจากนั้นรถได้มุ่งหน้าไปสู่บ้านดิน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวิถีชีวิตของคนที่หมู่บ้านแห่งนี้ ที่ปัจจุบันเริ่มหาดูได้ยากแล้ว เสร็จจากการชมวิถีเก่าแก่ของชาวบ้าน ก็มาถึงโปรแกรมที่หลายคนกำลังรอคอยนั่นก็คือการช็อปปิ้ง โดยสินค้าโอท็อปของที่นี่มีหลายอย่าง เช่น ขนมเปี๊ยะ ไวน์ที่แปรรูปมาจากผลไม้ เส้นบะหมี่แบบชาวจีนยูนนาน เป็นต้น

 ช็อปกันเพลินจนได้ของติดไม้ติดมือกันมาพอสมควร รถได้มุ่งหน้าไปยังสถานที่สุดท้ายของทริปนี้ พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 โดยที่นี่สร้างขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ท่ามกลางชุมชนที่แตกต่างด้านเชื้อชาติและศาสนา อีกทั้งการนำเสนอจะเป็นรูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตเพื่อรวมวัตถุสะสม หลักฐานทางประวัติศาสตร์

 โดยจำลองโรงงานหลวงนับตั้งแต่เกิดขึ้นตามพระราชดำริจนถึงปัจจุบัน นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งเชิงนิเวศ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อแสดงให้เห็นถึงกระบวนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศแบบบูรณาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโรงงานหลวงสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) หลังจากที่ทำหน้าที่แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรมาอย่างต่อเนื่องนาน 30 ปี

 เดินชมพิพิธภัณฑ์และฟังเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของที่นี่จนเพลิน ก็ถึงเวลาที่ต้องลัดฟ้ากลับสู่เมืองหลวงเป็นอันจบทริปอย่างสมบูรณ์ แต่สำหรับใครที่เบื่อการท่องเที่ยวในสถานที่ยอดนิยมหรือบรรยากาศแบบเดิม ก็ลองมาที่บ้านยางแห่งนี้ดูได้ เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ทุกคนได้มาสัมผัส พร้อมทั้งได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

เรื่อง - ภาพ... "ณัฐพงษ์ โปธา"