ไลฟ์สไตล์

ปุตราจายา : โมเดิร์นทาวน์มาเลเซีย

ปุตราจายา : โมเดิร์นทาวน์มาเลเซีย

24 พ.ย. 2556

ปุตราจายา : โมเดิร์นทาวน์มาเลเซีย : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย...เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์


                ไม่คิดไม่ฝันว่าฉันจะได้ไปเดินอยู่ในเมืองที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว อย่าง "ปุตราจายา" ประเทศมาเลเซีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองราชการ เพราะเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ ฝ่ายบรหารและประมุขของประเทศ จนใครต่อใครส่ายหน้าบอกว่าไม่มีอะไรน่าเที่ยว แต่ฉันกลับพบว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับการมาหย่อนใจ ชมความทันสมัย ใช้ชีวิตอ้อยอิ่งซะจริงๆ ในยามที่มีเวลาเหลือๆ 1-2 วัน
                ท้าวความเดิม ก็ต้องบอกว่า เมืองปุตราจายา สร้างใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากแนวคิดของอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ที่ต้องการขยายเมือง ลดปัญหาความแออัดของกรุงกัวลาสัมเปอร์ นครหลวงลงบ้าง เมืองนี้ลงมือสร้างกันจริงๆ ตั้งแต่ริเริ่มในปี 2538 มาเสร็จในเฟส 3 ปี 2553 แต่การก่อสร้างตึกใหญ่โต รวมทั้งมหาวิทยาลัย ยังดำเนินต่อไป
                ปุตราจายา เมืองที่สร้างทุกอย่างขึ้นมาใหม่ บนเนื้อที่ราว 4,932 เฮกตาร์ หรือราวๆ 3 หมื่นไร่ อยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปทางใต้ ราว 25 กิโลเมตร และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) มากกว่าตัวเมืองหลวงด้วย  สิ่งที่โดดเด่นเตะตา เมื่อย่างกรายเข้าสู่เมืองปุตราจายา ก็คือ ทะเลสาบปุตราจายา บึงน้ำกว้างๆ ที่ยามเมื่อเรือสำราญแล่นผ่านยังเห็นเล็กนิดเดียว ไม่ว่าจะผ่านไปทางด้านไหนทะเลสาบนี้ก็ไม่หายไปจากสายตา เพราะเป็นทะเลสาบที่ขุดขึ้นมา ก็เลยขุดขึ้นเป็นเหมือนเส้นเลือดผ่านกลางเมือง คนที่นั่นเขาก็ว่าเป็นโอเอซิสของเมืองและยังเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ต่างๆ นกนานาพันธุ์แม้แต่นกอพยพบางชนิดก็ยังมาอาศัยแวะพักแถวนี้
                บริเวณโดยรอบทะเลสาบแห่งนี้ มีกิจกรรมเกิดขึ้นทั้งวัน ตั้งแต่เช้าที่จะเห็นคนมาวิ่งออกกำลังกาย  ปั่นจักรยาน อีกด้านหนึ่งมีศูนย์กีฬาทางน้ำ ที่เห็นมีคนมาซ้อม มาแข่งเรือพายกันประจำ ไม่ไกลกัน เป็นที่ตั้งของปุตราจายา มารีน่า ที่มีทั้งอู่เก็บเรือและท่าเทียบเรือยอชท์ ที่นี่มีเรือหลากหลายประเภทไปจอดเก็บ เหมือนพิพิธภัณธ์เรือย่อยๆ เปิดให้เข้าชมอีกต่างหาก และบริเวณนี้เอง เป็นมุมที่มองเห็นทะเลสาบได้สวยๆ มองเห็นไปถึงสะพานข้ามทะเลสาบสวยๆ
                เพราะความที่ทะเลสาบกว้างใหญ่นี้ทอดยาวไปตลอดเมือง เลยมีสะพานสวยๆ ข้ามน้ำถึง 5 แห่ง แต่ที่โดดเด่น สะดุดตาทั้งความสวยงามในช่วงกลางวัน และการเล่นแสงสีในยามค่ำคืน ก็คือ สะพานปุตรา ที่ใครไป ใครมาก็มักจะแวะถ่ายรูปด้วย ไม่ไกลกัน
                คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ หรือ ศูนย์ประชุมนานาชาติ เป็นอีกสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นบนเนินเขาสูง มองเห็นได้ตั้งแต่ย่างเข้าเมืองปุตราจรยาไม่แพ้ทะเลสาบ ศูนย์ประชุมแห่งนี้ มีห้องประชุมใหญ่ที่สุดที่จุคนได้ถึง 2,800 คน รูปลักษณะที่เห็นเมื่อรถคืบคลานขึ้นเนินคดเคี้ยวเข้าไปใกล้ ฉันมองเห็นเป็นเหมือนหมวกปีกกว้าง แต่ดูจากข้อมูลคนสร้างเขาบอกว่า หน้าตามันมาจาก "วาว บุลัน" ซึ่งเป็นว่าวโบราณของรัฐกลันตัน ผสมผสานกับเข็มกลัด "เพนดิง เปรัก" ซึ่งก็เป็นเข็มขัดโบราณทำจากเงินของรัฐเปรัก ตะหาก
                จริงๆ ฉันก็ไม่ได้คิดจะขึ้นไปถึงด้านบนศูนย์ประชุมนี่หรอก เพียงแค่ถามว่า เขาให้เที่ยวมั้ย บนนั้นน่าจะเห็นวิวเมืองสวยๆ คนขับรถใจดีชาวมะละกา ก็ขานรับทันที รีบขับรถพาขึ้นไปดู แถมตบท้ายตอนที่ขึ้นไปถึงด้านบนแล้วเห็นฉันอุทานถึงความสวยงามของสถานที่ ด้วยว่า "นี่ล่ะ ทำไมถึงไม่อยากให้พลาดที่นี่ไป"
                ก็จากลานจอดรถด้านบน มองลงมาด้านล่าง เห็นเมืองทั้งเมือง ที่มีทะเลสาบ ตึกสมัยใหม่ใหญ่โต ผสมผสานกับตึกสไตล์มาเลเย์ที่มียอดโดมสีสวยๆ
               สะพานโฉบเฉี่ยว ส่วนพื้นที่สีเขียวๆ ของต้นไม้ มีอยู่ทั่วไป เหมือนแต่ละตึกจะมีบริเวณสำหรับพื้นที่สีเขียวเยอะเอาการ เพราะดูจากสัดส่วนการจัดวางผังเมืองมีข้อกำหนดพื้นที่สีเขียวถึง 37 กว่าเปอร์เซ็นต์
                และจากคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์นี่เอง จะเห็นถนนสายหลักตรงดิ่งจากคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ข้ามสะพาน ผ่านวงเวียนน้ำพุ ตรงไปสุดทางที่ตึกใหญ่โตบนเนิน มียอดโดมสีเขียว นี่เอง ... ทำเนียบรัฐบาลมาเลเซีย
                 แล้วฉันก็ตั้งต้นค่อยๆ ทำความรู้จักกับเมืองปุตราจายา ไปจากศูนย์ประชุมนี่เลย ข้ามสะพานสรี เกมิลัง ไปได้หน่อย ถนนกว้างๆ รถราไม่ติดขัด จะแล่นช้าหน่อยเพื่อชมวิวก็ไม่เกะกะใคร ผ่านตึกที่ทำการสหพันธรัฐปุตราจายา หรือรัฐบาลท้องถิ่น  อีกด้านเป็นตึกกระทรวงยุติธรรม เด่นเป็นสง่าด้วยรูปทรงที่มียอดโดมสีสวย  
                เลยผ่านวงเวียนน้ำพุไปไม่ไกล ฉันก็ร้องขอให้คนขับรถช่วยจอดข้างทาง ก็ด้วย มัสยิดสีชมพู หรือ มัสยิดปุตรา ตั้งโดดเด่นเหมือนอยู่ริมทะเลสาบนั่นเอง มัสยิดแห่งนี้ เห็นได้ในระยะไกลๆ ทีเดียว แล้วสีชมพูหวานๆ กับลวดลายอ่อนช้อย โดดเด้งมาแต่ไกล จนฉันอดใจไม่อยู่ ขอลงไปชมไกลๆ สักรอบหนึ่งก่อน เพราะมุมไกลจะเห็นฐานมัสยิดอยู่เกือบจะในทะเลสาบ ส่วนฝั่งตรงข้ามทะเลสาบ เป็นตึกคอนโดสูงๆ เรียงเป็นแถว และที่ขาดไม่ได้ก็ต้นไม้เขียวๆ ต้นเล็ก ต้นใหญ่ กระจายไปทั่วบริเวณ
                จากตรงนี้ ถ้าไม่รีบเร่ง เดินเอื่อย ก็ไปถึงสุดทาง ที่เป็นวงเวียนใหญ่ๆ เลี้ยวซ้ายไปก็เป็นทางสู่มัสยิดปุตรา แถวนี้มีรถรามาจอด เพื่อเข้าไปชม หรือเข้าไปละหมาดในมัสยิด เกือบจะรอบวงเวียน อ้อ...ที่นี่จะเข้าไปชมด้านในก็ได้ แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด เพื่อเป็นการเคารพต่อสถานที่อย่างเคร่งครัด และอย่าเผลอไปช่วงที่เขามีพิธีละหมาดนะ จะต้องรอจนกว่าจะเสร็จพิธีเลยล่ะถึงจะเข้าไปได้
                มิสยิดปุตรามียอดโดยสวยงามสีชมพู ประตูใหญ่ของมัสยิดออกแบบตามทางเข้าตัวอาคารแบบมุสลิมเปอร์เซีย ตรงกลางจุดที่สูงที่สุดของมัสยิด มีความสูงเทียบเท่าตึกประมาณ 25 ชั้น ใกล้กันเป็นหอคอยสูงถึง 116 เมตร ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมัสยิดโอมาร์ ในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก
                ด้านบนถนนไม่มีแผงลอย ไม่มีร้านขายของเกะกะ แต่ใช่ว่าจะไม่มีแหล่งช็อปปิ้ง ด้านหน้ามัสยิดปุตรา ซึ่งจะมีบันไดเลื่อนลงไปชั้นใต้ดิน เป็น ตลาดซุค บาซาร์ มีร้านขายของเรียงรายมากกว่า 50 ร้าน ให้อารมณ์เหมือนตลาดในตะวันออกกลาง ตั้งแต่ร้านอาหาร เสื้อผ้า ผ้าคลุมผม เครื่องประดับ ไปจนถึงของจิปาถะ งานศิลปะสวยๆ ก็มีวางขาย หรืออยากจะถ่ายรูปกับนกแก้วมาคอว์สวยๆ ก็มีบริการ
               ถัดจากมัสยิด เป็นตึกใหญ่โตตั้งอยู่บนเนิน อันเป็นปลายทางของถนนสายหลักเส้นนี้ ลักษณะของตึกเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างมาเลย์และอิสลาม หลังคาเป็นโดมสีเขียว ที่นี่ล่ะ...ที่ทำการของนายกรัฐมนตรี  หรือ เปอร์ดานา ปุตรา ห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีก็อยู่ตรงกลางตึกนั่นเอง วันนั้นมีบัณฑิตจบใหม่ แต่งชุดครุยมาถ่ายรูปกันหน้าเปอร์ดานา ปุตรา กันสนุกสนาน ฉันเองก็พลอยลงไปถ่ายรูปสนุกไปด้วย
               ถนนสายหลักเส้นนี้ จัดเป็นย่านหน่วยงานราชการ ระยะทางราว 4.2 กิโลเมตร ถ้าช่วงก่อนและหลังเลิกงาน รถก็จะเยอะหน่อย  ตลาดถนนไม่มีร้านขายของ ไม่มีแผงลอยเกะกะ แล้วจะไปซื้อของกันที่ไหนกัน คนขับรถใจดีส่งฉันกลับมาที่หน้ามัสยิดปุตรา แค่ลงบันไดเลื่อนไป ก็เจอกับ ตลาดซุค บาซาร์ ขายของเรียงรายเป็นตับ เหมือนหลุดมาในตะวันออกกลาง ตั้งแต่ร้านอาหาร เสื้อผ้า ผ้าคลุมผม เครื่องประดับ ไปจนถึงของจิปาถะ งานศิลปะสวยๆ ก็มีวางขาย หรืออยากจะถ่ายรูปกับนกแก้วมาคอว์สวยๆ ก็มีบริการ แต่ถ้าอยากไปช็อปของห้างสรรพสินค้าใหญ่ ก็ต้องไปอีกย่านหนึ่ง เพราะที่นี่เขาจัดระบบ ระเบียบชัดเจน
               ปุตราจายา เป็นเมืองสร้างที่มีความทันสมัย แม้ใครจะว่าเงียบ ฉันกลับรู้สึกรื่นรมย์ แต่ก็อดนึกถึงเมืองแออัดของฉันไม่ได้ เสน่ห์ใคร เสน่ห์มันจริงๆ  
               
........................
(ปุตราจายา : โมเดิร์นทาวน์มาเลเซีย : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย...เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์)