
คุณภาพศิษย์สะท้อนคุณภาพครู
คุณภาพศิษย์สะท้อนคุณภาพครู'ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผอ.สมศ.': คอลัมน์ท่องโลกการเรียนรู้ : โดย...ชุลีพร อร่ามเนตร
“คนคุณภาพ” เป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องการ เพราะนั่นหมายถึงการเดินหน้า พัฒนาของประเทศ และคนจะมีคุณภาพได้ส่วนหนึ่งอยู่ที่ระบบการศึกษา “ครู” จึงเป็นหัวใจสำคัญในการผลิตศิษย์ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) (องค์การมหาชน) ภายใต้การดูแลของ ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการ สมศ. เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยเน้นการประเมินผู้เรียนเพื่อสะท้อนผู้สอน การประชุมวิชาการนานาชาติ “ประกันคุณภาพการศึกษา” ประจำปี 2556 ในปีนี้ เมื่อวันที่ 7-8 พฤศจิกายน ภายใต้หัวข้อ “คุณภาพศิษย์ สะท้อนคุณภาพครู”
เด็กคนหนึ่งจะเติบโตเป็นคนดี เก่ง มีคุณธรรม นอกจากการบ่มเพาะจากครอบครัวแล้ว สถานศึกษายังเป็นแหล่งเรียนรู้ ปลูกฝังให้เขาเป็นคนสมบูรณ์ ผอ.สมศ.เล่าต่อว่า ทุกองค์กรต้องมีวัฒนธรรมคุณภาพ ถ้าองค์กรไหนไม่มีคุณภาพเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้องค์กรนั้นเจริญก้าวหน้า คุณภาพการศึกษา ถือเป็นระดับความพึงพอใจที่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวัง ความต้องการของบุคคลได้ ต้องพิจารณาได้จากคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ตามปณิธาน พันธกิจของสถานศึกษา
“กฎแห่งคุณภาพ คือความจริงหรือข้อกำหนดที่พึ่งปฏิบัติให้ได้มาซึ่งนักเรียน นิสิต นักศึกษาและบัณฑิตในอุดมคติ อย่างมีคุณภาพ-ภาพคุณ มีภาพลักษณ์ที่ผ่านจากการทำงาน ผลงานเชิงประจักษ์ที่สังคมยอมรับ แต่ขณะนี้สถานศึกษาของไทยทุกระดับมีแต่ปัญหา โดยเฉพาะการแย่งชิงบัณฑิตกันอย่างรุนแรง เนื่องจากปัจจุบันนักเรียนที่จบ ม.ปลายน้อยกว่านักศึกษาที่สถาบันอุดมศึกษาต้องการ ทำให้ไม่มีระบบการคัดกรอง คัดเลือกเพราะมหาวิทยาลัยต้องการรับเด็กเข้าเรียน ขณะที่โรงเรียนส่วนใหญ่ก็ปล่อยให้เด็กจบออกมาโดยอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้แต่ได้เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 เพราะครู สถานศึกษาต้องทำผลงาน ทั้งที่คุณภาพเด็กยังไม่ถึงไหน พอเด็กเข้ามหาวิทยาลัยก็กลายเป็นคนคุณภาพพอควรหรือแย่ แต่ไม่มีคุณภาพดี จบออกไปสู่สถานประกอบการประเทศก็ได้ทรัพยากรบุคคลคุณภาพปานกลาง ประเทศก็ขาดทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพจริงๆ”
สมศ.เป็นกระจกสะท้อนผลการศึกษา แต่การพัฒนาเป็นหน้าที่ของสถานศึกษา หากคุณภาพศิษย์ด้อย สถานศึกษาก็ต้องเร่งพัฒนา ครูต้องมองหาหนทางช่วยเด็ก เพราะคุณภาพของคนที่สังคมพึงพอใจ แม้จะต้องปรับเปลี่ยนตามค่านิยม กาลเวลา ยุคสมัย แต่ถ้าเด็กมีคุณภาพจากความรู้ การฟัง พูดคิด อ่านเขียน วิเคราะห์ สังเคราะห์ มีทักษะปฏิบัติ มีคุณธรรม และคุณลักษณะที่เป็นคุณ ลักษณะที่เป็นเสน่ห์ เช่น ยิ้มแย้มแจ่มใส น้ำใจไมตรี มารยาท สัมมาคารวะ กาลเทศะ เป็นต้น ต่อให้สังคมเปลี่ยนแปลง เด็กก็สามารถอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ
ศ.ดร.ชาญณรงค์ บอกว่าคนเก่งไร้ซึ่งคุณธรรมน่ากลัวมาก เพราะคนเก่งแต่ไม่มีความรับผิดชอบ เมตตา น้ำใจ มีจริยธรรม จิตสำนึกต่อส่วนรวม สังคมคงแย่ เรื่องเหล่านี้สถานศึกษาจำเป็นต้องสร้างให้เป็นเสมือนเอกลักษณ์ของโรงเรียน มหาวิทยาลัย เพราะสังคมต้องมีคนที่มีทั้งความรู้ เก่ง แยกแยะถูกผิด มีทั้งดีและไม่ดี เป็นห้องเรียนขนาดใหญ่ให้แก่เด็กได้เรียนรู้ ถ้าบอกว่าเด็กไทยด้อย พ่อแม่ต้องขายหน้า ครูบาอาจารย์ต้องเสียหน้า และสถานศึกษา กระทรวงศึกษาธิการต้องร่วมรับผิดชอบ ไม่ใช่ปล่อยเด็กออกไปในระดับการเรียนการสอนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เพียงเพราะครู ผู้บริหารไม่ต้องการถูกประณาม ไม่ต้องการถามว่าทำไมเด็กอ่อน เรียนไม่ได้ แต่ครู ผู้บริหารต้องร่วมกันพัฒนาจนกว่าเด็กจะมีคุณภาพ สมศ. อยากนำเรื่องของบาปบุญคุณโทษมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในระบบการวัดประเมิน เพื่อให้ครู ผู้บริหารสถานศึกษาเกิดจิตสำนึก เกิดการทุ่มเทในการสอนเด็ก เพราะคุณภาพ ต้องเกิดจากความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา
“คุณภาพเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาให้ยั่งยืนต่อไป และคุณภาพต้องเริ่มที่ปัจเจกชนสร้างชุมชนคุณภาพ คุณภาพต้องเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต ทุกคนต้องทำทุกวันทำเป็นนิตย์ โดยเฉพาะครูต้องสร้างวัฒนธรรมคุณภาพ สร้างวิถีชีวิตคุณภาพในโรงเรียน ครูต้องเริ่มจากตัวเอง นำไปสู่การเรียนการสอนพัฒนาเด็ก เพราะถ้าคุณภาพสมบูรณ์กับภาพคุณ คุณภาพศิษย์ก็เท่ากับเป้าหมายของการประเมินที่แปรผันตามคุณภาพของครู” ผอ.สมศ.กล่าวทิ้งท้าย
........................
(คุณภาพศิษย์สะท้อนคุณภาพครู'ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผอ.สมศ.': คอลัมน์ท่องโลกการเรียนรู้ : โดย...ชุลีพร อร่ามเนตร)



