ไลฟ์สไตล์

ลองชิมอาหารแดนหม่อง

ลองชิมอาหารแดนหม่อง

24 พ.ย. 2556

ลองชิมอาหารแดนหม่อง : คอลัมน์ชวนชิม

               เมื่อต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การลิ้มรสอาหารพื้นบ้านในอาเซียนก็เป็นอีกอย่างที่น่าลิ้มลอง เมื่อมีโอกาสได้ร่วมทริปเดินทางไปกับสายการบิน "นกแอร์" เปิดเที่ยวบินดอนเมือง-ย่างกุ้ง ที่เริ่มเปิดให้บริการตั้งวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองแล้ว สิ่งที่หนึ่งที่ต้องไปพลาดนั่นคือการลิ้มลองอาหารพื้นเมืองหรืออาหารพม่าอย่างที่ชาวพม่ากินกันอยู่เป็นประจำ

               ครานี้ "ลูกหนู" สุริยาภา บุนนาค ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายสื่อสารองค์กร สายการบินนกแอร์ เลือกร้านอาหารพื้นเมืองให้ด้วยตัวเอง พร้อมคอนเฟิร์มว่าเป็นร้านที่คนพม่าเองก็ชอบมากิน และคนต่างถิ่นก็ชอบมาชิมเพราะเป็นร้านที่เป็นอาหารพม่าแท้ ขั้นตอนวิธีการทำแบบพม่าทั้งหมด ไม่มีฟิวชั่น ไม่มีผสมผสาน ของแท้จริง นั่นก็คือร้าน "ฟีล" ซึ่งตั้งอยู่บนถนนมะนอฮาลี ใกล้ๆ กับสถานทูตไทยในย่างกุ้ง เริ่มเมนูแรกเป็นออเดิร์ฟที่มาถึงเป็นต้องมีมาเสิร์ฟเพื่อเรียกน้ำย่อย "ปลาร้าต้ม" ที่เคียงมากับผักพื้นเมืองหลากหลายชนิด หลายอย่างก็เหมือนบ้านเรา ด้วยสภาพดินฟ้าอากาศใกล้เคียงกัน จึงได้เห็น ถั่วฟักยาว ถั่วพลู ผักบุ้ง กระเจี๊ยบ น้ำเต้า รสชาติก็คล้ายๆ น้ำพริกปลาร้าบ้านเรา เพียงไม่เผ็ด ไม่เปรี้ยว ด้วยคนพม่าไม่นิยมกินเผ็ด ไม่นิยมกินเปรี้ยว แต่ชอบอาหารมันที่ใส่น้ำมันที่สะกัดจากงาหรือถั่วลิสงลงไปในอาหารเป็นเรื่องเป็นราว และปัจจุบันก็จะหนักไปทางน้ำมันพืชที่เห็นลอยอยู่ในเมนูอาหารเกือบทุกจาน

                แล้วก็มาเริ่มที่เมนูหลัก "แกงส้มหัวไชเท้า" ซึ่งวิธีการปรุงแตกต่างจากบ้านเราอย่างสิ้นเชิง เป็นน้ำซุปใสๆ ใส่พริกเล็กน้อยแล้วหั่นหัวไชเท้าเป็นชิ้นบางๆ ต้มพอเปื่อย ตักมาให้ชิมตอนร้อนๆ ซดคล่องคอ ซึ่งก็คงไม่ใช้พริกแกงส้มเหมือนเมืองไทย ชิมครั้งแรกนึกว่าซุปหัวไชเท้า แต่เมื่อพนักงานย้ำว่าเป็นแกงส้มก็ต้องตามนั้น เมนูถัดมาหน้าตาเหมือนผัดกุ้ง ซึ่งเขาก็เรียกว่า "ผัดกุ้ง" จริงๆ ด้วยมีกุ้งไซส์ขนาดกลาง ผัดใส่มะเขือเทศหั่น และหอมใหญ่ซอยบางๆ น้ำมันเยอะเหมือนเคย มันกุ้งสร้างสีสันให้ต้องลองชิม รสชาติคือจืดๆ เค็มเล็กน้อย และออกมันจนเลี่ยน ต่อด้วย "น้ำพริกปลาแห้ง" เป็นเมนูที่คนพม่าจะใช้คลุกกับข้าวสวยๆ ร้อนๆ เหมือนบ้านเรา โดยมีกุ้งแห้งตำละเอียด ปลาแห้ง พริกเล็กน้อย แล้วตำให้ละเอียดใส่เกลือให้ออกเค็มๆ อีกอย่างคือคนพม่าจะใช้เกลือแทนน้ำปลา มากกว่าการใช้น้ำปลาอย่างคนไทย

                เมนูต่อมาถือเป็นไฮไลท์ "มัสมั่นกุ้ง" จานเด็ดของร้าน รู้กันอยู่ว่าย่างกุ้งเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้ง ซึ่งก็ตัวใหญ่จริงๆ อาหารส่วนใหญ่จึงมีกุ้งเป็นหลัก อย่างมัสมั่นกุ้งจานนี้ก็อย่านึกว่าจะเหมือนมัสมั่นบ้านเรา ต้องนึกถึงความชอบของเขาที่เน้นความมันและความเค็มเป็นหลัก แล้วก็ไม่ได้ใส่เครื่องแกงที่ผสมเครื่องเทศ เพียงเป็นเครื่องพริกแกงปกติ แล้วเติมน้ำมันลงไปผัด นำกุ้งลงไปคลุกเคล้า คนพื้นถิ่นกินกันเกลี้ยงชาม  อีกหนึ่งเมนูเด็ด "แกงฮังเล" อันนี้รสชาติคล้ายแกงฮังเลทางภาคเหนือของไทยจริงๆ เพียงแต่เน้นความมันของหมูที่ต้องเป็นสามชั้นมันเน้นๆ ส่วนรสชาติโดยรวมเหมือนๆ กัน  ต่อกันด้วย "ผัดปลาไหล" ด้วยนำปลาไหลมาสับละเอียดผัดกับหอม กระเทียม ขมิ้น และใส่พริกนิดหน่อย ไม่ต้องหวังความเผ็ดจัดจ้านแบบปลาไหลผัดเผ็ด แต่คนชอบปลาก็เป็นอีกเมนูที่น่าลอง ส่วนเมนูนี้ "ยำผักใบบัวบก" และ "ยำกุ้งแห้ง" เป็นสองเมนูที่หน้าตาใกล้เคียงกัน โดยยำผักใบบัวบกจะหั่นผักละเอียด ใส่มะเขือเทศหั่นชิ้นเล็กๆ หอมเจียว หอมซอย เค็มด้วยเกลือ แล้วใส่ถั่งลิสงตำละเอียดลงไปคลุกเคล้า กินเพลินๆ ก็อร่อยโอเค ส่วนยำกุ้งแห้งก็จะมีงาคั่ว มะเขือเทศ ถั่วลิสง พริกตำ ใบเมี่ยงดอง แล้วใส่น้ำมันลงไปคลุกเคล้า ออกมันๆ เค็มๆ 

               สำหรับอาหารพื้นเมืองของพม่า จะเน้นที่ความมัน ใช้ถั่วในการปรุงอาหารในเมนูต่างๆ ถามว่าทำไมไม่ใส่มะนาว ไกค์ชาวพม่าบอกว่ามะนาวของคนพม่าจะเป็นเหมือนเลมอน คือลูกใหญ่ จะนำมาดองมากกว่า ถ้าต้องการความเปรี้ยวในอาหารก็จะใช้มะขามเปียก แต่อย่านึกถึงความจิ๊ดจ๊าดหรือเผ็ดร้อน เพราะไม่ใช่ความชอบของคนที่นี้ ใช้ความหอมด้วยหอมเจียว กระเทียมเจียว และงาทอด ไม่ใส่น้ำตาลในอาหาร แต่ถ้าเป็นขนมจะใส่น้ำตาลทรายมากๆ เพื่อให้รสหวานจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขนมที่ทำงานแป้งต่างๆ แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป อาจจะนำไปนึ่ง ต้ม เอาเป็นว่าใครเดินทางไปพม่าลองไปชิมได้ราคาไม่แพง ตกอยู่ที่ 150 บาทเงินไทย หรือ 4,500 จ๊าดของพม่า เป็นร้านดังที่มีสาขาอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ด้วยนะจะบอกให้...

 

 ...........................

 (ลองชิมอาหารแดนหม่อง : คอลัมน์ชวนชิม)