
'บ้านยุ้ยญาติเยอะ'กลับมาอีกครั้ง
'บ้านยุ้ยญาติเยอะ'กลับมาอีกครั้ง ในยุค'ข้าวยาก หมากน้ำมันแพง' : คอลัมน์บ้านไม่บาน
สวัสดีครับแฟนๆ ชาว “บ้านไม่บาน” คงต้องยอมรับนะครับ ว่าในปัจจุบันประเทศของเราประชากรเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า จากปี 2453 มีประชากรเพียง 8 ล้านคน ในอีก 50 ปีต่อมา หรือปี 2503 มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 26 ล้านคน และเพิ่มเป็น 64 ล้านคนในปี 2553 หรือคิดเป็น 8 เท่าของขนาดประชากรเมื่อ 100 ปีก่อน จะเห็นว่าพื้นที่ดินเท่าเดิม แต่ประชากรเพิ่มขึ้น และโชคร้ายที่การพัฒนาประเทศตั้งแต่ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1” เป็นต้นมา เป็นแบบ “รวมศูนย์” ก่อให้เกิดรูปแบบของการเติบโตแบบไร้คุณภาพและเสถียรภาพ เปรียบเสมือนเด็กผอมโซ แขนขาเรียวเหลือแต่กระดูกแต่มีหัวโต ก็เลยทำให้สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าที่ควร
ทั้งยังมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นระยะๆ เพราะการเติบโตทางสังคมและเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้ผู้คนต้องละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด ทิ้งท้องทุ่งมุ่งสู่เมืองกรุง ก็เลยก่อให้เกิดความแออัดยัดเยียดในชุมชนเมือง เพราะพื้นที่มีเท่าเดิมแต่ปริมาณประชากรเพิ่มขึ้นมิหนำซ้ำยังถูกกระหน่ำซ้ำเติมด้วยภัยพิบัตินานัปการ ไม่ว่าจะเป็นภัยทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ฯลฯ ซึ่งนับแต่นี้ไปก็จะเป็นภัยที่คุกคามเราไปเรื่อยๆ นับวันก็จะยิ่งมาบ่อยขึ้นและทวีความรุนแรงขึ้น นี่ยังไม่นับรวมภัยทางเศรษฐกิจที่เข้าสู่ยุค “ข้าวยาก หมากน้ำมันแพง” ที่คนส่วนใหญ่ในประเทศตกอยู่ในสภาวะหนี้ล้นพ้นตัวครับ
ในสภาวการณ์เช่นนี้ การที่ชาว “คนรักบ้าน” คิดจะสร้าง “บ้านไม่บาน” ขึ้นมาสักหลังหนึ่งบนที่ดินอันเป็นมรดกตกทอดที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียง 40-50 ตารางวา เพราะมีสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นแต่มีที่ดินเท่าเดิม อีกทั้งบ้านเก่าที่เคยอยู่มาตั้งแต่ยังเยาว์ (มักจะเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น) ก็ทรุดโทรมลงเต็มที จะทำการปรับปรุงหรือซ่อมแซมก็ไม่ไหวสู้สร้างใหม่จะคุ้มค่าและประหยัดกว่า จากโจทย์เหล่านี้แหละครับจึงเป็นที่มาของการกลับมาอีกครั้งของ “บ้านไม่บาน”ประเภท “ยุ้ยญาติเยอะ” จะว่าไปแล้ว “บ้านไม่บาน” ประเภท “ยุ้ยญาติเยอะ” ของผมนั้น มีถึง 4 รูปแบบครับ มีตั้งแต่ความสูง 3 ชั้น ขนาด 12 ห้องนอน 12 ห้องน้ำ สร้างบนพื้นที่ 40-50 ตารางวา ไปจนถึงขนาดความสูง 4 ชั้น ขนาด 16 ห้องนอน 16 ห้องน้ำและขนาดความสูง 5 ชั้นที่มีห้องนอนถึง 20 ห้อง
“บ้านไม่บาน”ในชุด“ยุ้ยญาติเยอะ”ที่ผมจงใจออกแบบนี้ มีห้องหับสำหรับใช้สอยเป็นจำนวนมากมาย เพราะในใจลึกๆ ผมเชื่อว่าคนไทยเป็นคนที่มีญาติพี่น้องเยอะ ดังนั้น จะต้องสามารถมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันทั้งปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ลูกหลาน นับไปนับมาก็ร่วม 20 ชีวิตนะครับ (นี่แค่คิดเพียงห้องละ 2 คนครับ) สำหรับบรรดาคนแก่ คนเฒ่าขึ้นบันไดไม่ไหวก็จับจองเอาห้องชั้นล่าง ส่วนสมาชิกวัยเจริญพันธุ์ที่พอมีกำลังวังชามากหน่อยขึ้นไปพักอาศัยอยู่ชั้น 2 หรือชั้น 3, 4 หรือ 5 ตามแต่สะดวก ทั้งยังออกแบบให้มีชั้นดาดฟ้าเอาไว้นั่งเล่นพักผ่อน กินลมชมดาว ทำเป็น “ลูฟการ์เด้น” (สวนหย่อมบนดาดฟ้า) จัดไว้ให้เป็นบริเวณที่ในการ “ปะทะสังสรรค์ทางวัฒนธรรม” กันของบรรดาสมาชิกภายในครอบครัว รวมทั้งใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์จะใช้ซักผ้าตากผ้า ทำอาหาร ก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด ห้ามพลาดในสัปดาห์หน้าผมจะนำเสนอรูปแบบที่ “
งามง่าย พอเพียง” ของ“บ้านไม่บาน” ในชุด “ยุ้ยยาติเยอะ” ขนาด 16 ห้องถึง 20 ห้อง รับรองว่าแฟน ๆ ชาว “คนรักบ้าน” ต้องอึ้งทึ่งไปทั้งประเทศกันเลยทีเดียวเชียวครับ
ในสัปดาห์นี้มาชื่นชมความงาม “บ้านไม่บาน” ในชุดบ้าน “ยุ้ยญาติเยอะ” ในแบบที่ 1 และ 2 ซึ่งมีความแตกต่างกันเล็กน้อยครับ คือ แบบที่ 1 เป็นอาคาร 3 ชั้น มีหลังคาทรงปั้นหยา มีความงดงามน่าหลงใหลแบบ “ไทยร่วมสมัย” ส่วนแบบที่ 2 เป็นอาคาร 4 ชั้น โดยมีชั้นบนสุดเป็นดาดฟ้า เป็นพื้นที่อเนกประสงค์สามารถใช้เป็นที่ทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนอีก 2 แบบก็ติดตามกันต่อคราวหน้า ถือได้ว่า “บ้านไม่บาน” ในชุด “ยุ้ยญาติเยอะ” ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบ “บ้านไม่บาน” ประเภท “อกาลิโก + ไฮโซ+โลว์คอส” ในยุค “ข้าวยาก หมากน้ำมันแพง” แบบ “ประโยชน์สูง ประหยัดสุด” ตัวจริงเสียงจริงและเป็นรูปแบบหนึ่งที่ผมได้ตีพิมพ์ไว้ใน “หนังสือรวม 52 รูปแบบ” ที่ผมจะทำการเปิดตัวในวันอังคารที่ 22 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ใน “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ” ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ครับ
................................
('บ้านยุ้ยญาติเยอะ'กลับมาอีกครั้ง ในยุค'ข้าวยาก หมากน้ำมันแพง' : คอลัมน์บ้านไม่บาน)