ไลฟ์สไตล์

รูปแบบกับเนื้อหา-กลอนเปล่ากับกลอนฉันทลักษณ์

รูปแบบกับเนื้อหา-กลอนเปล่ากับกลอนฉันทลักษณ์

06 ต.ค. 2556

หนังสือที่เธอถือมา : รูปแบบ กับ เนื้อหา กลอนเปล่า กับ กลอนฉันทลักษณ์ : โดย...ไพวรินทร์ ขาวงาม

 

                             ยังถกเถียงถ่วงดุลกันได้เสมอ เรื่อง ‘รูปแบบ’ และ ‘เนื้อหา’ ในการประพันธ์

                             สมัยวรรณกรรมที่เรียก ‘เพื่อชีวิต’ เฟื่องฟู  นักเขียนหรือกวีก็พากันคิดค้นคำถามหาคำตอบในเรื่องนี้  บ้างว่าเนื้อหาต้องมาก่อน  เพราะเนื้อหาเป็นหัวใจ  รูปแบบเป็นเพียงรูปกาย บ้างว่ารูปแบบต้องดี  เนื้อหาต้องดี  คือดีทั้งใจและกาย บ้างว่าไม่ว่ารูปแบบและเนื้อหาจะเป็นอย่างไร  มันต้องมีความลงตัวพอดีในภาษาอารมณ์รู้สึกนึกคิด  หรือโดยรวมอาจเรียก ‘วรรณศิลป์’

                             การถกเถียงไม่เท่าลงมือทำ  หลายคนลงมือทำในความเชื่อความเข้าใจของตัวเอง  กล่าวเฉพาะบทกวี  มีบทกวีจำนวนไม่น้อยที่ถูกเขียนขึ้นในยุคนั้น  ทั้งกลอนเปล่าและกลอนฉันทลักษณ์  เป็นที่ฮาฮือหวือหวาไปตามแรงเหวี่ยงแต่ละคน  บางคนเด่นกลอนเปล่า  บางคนเด่นกลอนฉันทลักษณ์  บางคนก็เขียนกลอนฉันทลักษณ์เน้นเนื้อหาเป็นหลัก  ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสัมผัสหรือความไพเราะมากนัก  เพียงใช้โคร่งสร้างคร่าวๆ เท่านั้น  ครั้นวันเวลาผ่านไป บทกวีที่ผู้คนมักประทับใจจดจำ ถูกนำมาอ่านกล่าวขาน มักเป็นแบบที่ให้ความสำคัญทั้งรูปแบบและเนื้อหา  รวมทั้งความลงตัวในภาษาอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดนั้นๆ

                             โดยส่วนตัว-ก็ชอบอ่านกลอนที่ภาษาดี  ท่วงทำนองจังหวะจะโคนดี อารมณ์รู้สึกนึกคิดดี  เนื้อหาดี  จะดีมากดีน้อยก็ว่ากันไป  คืออ่านแล้วมันได้ทั้งรสชาติทางรูปแบบ  ภาษา  และลีลาวรรณศิลป์  และโดยส่วนตัว-เวลาลงมือเขียน  แม้เป็นคนเริ่มต้นด้วยความเคร่งมาก่อน  ถึงจุดหนึ่งก็พยายามคลายเคร่งลง  แต่ยังคงพยายามรักษาพื้นฐานที่เคยได้เรียนรู้มา  คือไม่ให้เคร่งจนแข็งโป๊ก  ไม่ให้หย่อนจนอ่อนปวกเปียก  จนเหมือนหลอมเป็นสัญชาตญาณไปเลย  จะเขียนอะไรต้องให้ได้ทั้งรูปแบบ  เนื้อหา  ภาษา  อารมณ์รู้สึกนึกคิด  อย่างน้อยก็ได้ตามจริตตน  ขนาดแต่งกลอนเล่นๆ ตลกๆ  ยังไม่อยากให้มันผิดฉันทลักษณ์  หรือบางทีเขียนกลอนเผยแพร่ไปแล้ว  พบว่ามันมีผิดพลาดทางรูปแบบบ้างในบางจุด  ยังรู้สึกเสียใจตัวเอง 
เวลาอ่านกลอนนักเรียนฝึกแต่งกลอน  จะอ่านแบบทำใจเปิดกว้าง  ไม่เคร่งกับเด็กเรื่องรูปแบบ  แต่ดูที่ความคิดความอ่านของเขา  และให้คำแนะนำเท่าที่จะทำได้  แต่กรณีให้เด็กส่งประกวดเทียบเคียงกับคนอื่นๆ  เมื่อจะต้องเลือกบทที่โดดเด่นขึ้นมา  ย่อมต้องดูโดยรวมทั้งรูปแบบและเนื้อหานั่นแหละ

                             เวลาอ่านกลอนคนทั่วไป  ถ้าเขาพอใจแค่บันทึกภาษาอารมณ์รู้สึกนึกคิดเป็นบทร้อยกรอง  ก็ย่อมเป็นไปตามนั้น  อ่านให้เพลินๆ ได้ อ่านมาเยอะกับต้นฉบับคนที่บอกว่าไม่ขอเคร่งฉันทลักษณ์  ไม่ขอประกวดเทียบเคียงอะไรกับใคร แต่กรณีนำไปส่งประกวด เมื่อจะต้องประเมินคัดเลือก  ย่อมต้องดูโดยรวมทั้งรูปแบบและเนื้อหานั่นแหละ เช่น เขียนโคลงเป็นโคลงไหม  เขียนกลอนเป็นกลอนไหม  เขียนกาพย์เป็นกาพย์ไหม  ถ้าเขียนอะไรยังไม่เป็นอะไร  แม้เนื้อหาน่าสนใจ  มันก็มีปัญหาสำหรับการคัดสรร

                             โดยส่วนตัว-ผ่านมาแล้วทั้งการเป็นผู้ส่งกลอนประกวด  การเป็นผู้ตัดสินการประกวดกลอน รวมทั้งการเป็นคนชอบอ่านกลอนเป็นปกติวิสัย ไม่ได้เป็นครูภาษาไทย ไม่ได้เป็นผู้เลอเลิศในทางกลอนเกินคน  เป็นเพียงคนธรรมดาสามัญ ที่นิยมในรสชาติวรรณศิลป์  อ่านกลอนในสถานะไหนก็ตาม  ดีๆ ชั่วๆ ยังพอจะแยกแยะได้  ทั้งในรสนิยมส่วนตัว  และรสนิยมร่วม  ที่อาจต้องเป็นกรรมการร่วมกับคนอื่นๆ

                             บางรางวัลที่จัดประกวด  เขามีกติกาแบบเปิดกว้าง  คือรับพิจารณาทั้งกลอนเปล่าและกลอนฉันทลักษณ์  แถมไม่จำกัดจำนวนบทอีกต่างหาก  เพียงแต่ให้ความยาวพอสมควร  การนำกลอนเปล่าไปเปรียบมวยกับกลอนฉันทลักษณ์  ระดับหนึ่งถือว่ายุ่งยาก  เพราะกลอนเปล่านี่แค่ใช้ภาษาดีหน่อย  มีความคิดดีหน่อย  ก็ดูจะโดดเด่นขึ้นมา  ขณะกลอนฉันทลักษณ์  เต็มไปด้วยโทษทางรูปแบบ  ทั้งสัมผัสซ้ำ  สัมผัสลืม (ลืมสัมผัสระหว่างบท) สัมผัสหลง  สัมผัสเลือน  ชิงสัมผัส  อะไรสารพัด  หรือถึงสัมผัสถูกต้องเป๊ะๆ  แต่อ่านแล้วมันแข็งโป๊กๆ  กระโดกๆ กระเดกๆ  ก็ถือเป็นจุดอ่อนของกลอนฉันลักษณ์ 

                             โดยส่วนตัว-เคยคิดว่าบางทีน่าจะมีการแยกประกวดแต่ละเภทไปเลย  แต่เมื่อยังเปิดโอกาสให้ประกวดร่วมกันอยู่  กรรมการย่อมต้องพูดคุยกันหลายทาง  ที่ผ่านมาได้ไปเป็นกรรมการร่วมกับหลายผู้หลักผู้ใหญ่ผู้อยู่ในวงการวรรณศิลป์  เมื่อต่างอ่านบทกวีที่ได้รับมอบหมายแล้ว  ให้แต่ละคนคัดเลือกบทที่ตัวเองชอบๆ มาเสนอที่ประชุมในเบื้องต้น  ส่วนใหญ่แล้วก็จะชอบตรงกันโดยไม่ได้นัดหมาย  หลังจากนั้นจึงมีการอภิปรายข้อเด่น-ข้อด้อย  เพื่อจะเลือกตัวบทที่เหมาะสม

                             บางปีการประกวด  คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์  ให้กลอนเปล่าชนะเลิศ  ทั้งที่กรรมการแทบทั้งหมด  ปกติเป็นกวีถนัดฉันทลักษณ์! 

 

 

-----------------------------------------------

 

(หนังสือที่เธอถือมา : รูปแบบ กับ เนื้อหา กลอนเปล่า กับ กลอนฉันทลักษณ์ : โดย...ไพวรินทร์ ขาวงาม)