
เดินดุ่มใน'ยูกันดา'
เดินดุ่มใน'ยูกันดา' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง
ถ้ามีใจให้ความศิวิไลซ์ ฉันคงไม่บากหน้าไปหา ประเทศยูกันดา (Uganda) ย้ำอีกทีว่าเป็นพวกแปลกๆ ที่ชอบๆ ของฉันจึงเป็นพวกเมืองแปลกๆ ประเทศแปลกๆ เสมอ
ก็ไม่น่าแปลกใจที่เมื่อมีโอกาสไปถึงทวีปแอฟริกา จะแฉลบไปเดินดุ่มๆ ในประเทศยูกันดา
จากกรุงเทพฯ ไปยูกันดา สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (02-2592701-3) มีเที่ยวบินไปเมืองเอนเทบเบ้ทุกวัน บินจากกรุงเทพฯ ไปโดฮา 6 ชั่วโมงกว่า แวะเปลี่ยนเครื่องที่โดฮา จากนั้นบินต่อไปเอนเทบเบ้อีก 4-5 ชั่วโมง ซึ่งในแถบแอฟริกานั้นนอกจากเอนเทบเบ้แล้ว กาตาร์ แอร์เวย์สยังมีเที่ยวบินไปไนโรบี, คาซาบลังกา, ตูนิส, ดาร์เอส ซาลาม, โจฮันเนสเบิร์ก, เคปทาวน์ และไคโรด้วย
สำหรับคนไทยไปเที่ยวยูกันดา ทำวีซ่า on arrival ได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเลย เตรียมเงินค่าวีซ่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ ไม่ต้องเตรียมเอกสารอะไรไป ใช้เวลาประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นเอง
ด้านหน้าสนามบินเมืองเอนเทบเบ้ (Entebbe) มีแต่แท็กซี่มาคอยมะรุมมะตุ้มนักท่องเที่ยวเกือบร้อยทั้งร้อยมาถึงนี่ก็มักจะเลือกไปพักที่เมืองหลวงอย่าง กัมปาลา (Kampala) กัน เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวเยอะกว่า
ระยะทาง 40 กิโลเมตรจากเอนเทบเบ้ไปกัมปาลา ทำให้ค่าแท็กซี่ไม่ย่อมเยาว์อย่างที่คิด การยื้อยุดฉุดกระชากราคาจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าสนามบิน จาก 60 ดอลลาร์ลงมาเหลือ 25 ดอลลาร์ เป็นสถิติอีกเที่ยวหนึ่งของฉันที่บันทึกไว้ว่า การต่อรองมีอยู่จริง
อาจจะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวที่ฮอตฮิตนัก แต่ยูกันดาก็มีโรงแรมให้เลือกมากมาย ทั้งเอนเทบเบ้และกัมปาลา ฉันเองคลิกไปสำรวจที่เว็บไซต์อโกดา(www.agoda.com) อยู่นานสองนาน ก่อนจะมาลงเอยที่โรงแรม Protea Hotel Kampala (www.proteahotels.com) โรงแรม 4 ดาวที่พรั่งพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย ห้องพักตกแต่งอย่างทันสมัยและมีสไตล์ อยู่ใจกลางเมืองกัมปาลา เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างไม่ยากนัก
ที่จริงระหว่างทางจากสนามบินมาถึงโรงแรม ฉันนั่งสังเกตมาตลอดทางว่า คนที่นี่เขานิยมใช้รถมอเตอร์ไซค์กัน โชเฟอร์บอกว่าเขาเรียกโบดา..โบด้า (Boda Boda) เขาบอกอีกว่าใครมายูกันดาแล้วไม่ได้นั่งโบดา โบด้า ถือว่ามาไม่ถึง
พี่แกพูดซะขนาดนี้ จะเหลือเหรอ กลัวไม่ถึงยูกันดา พอเข้าเรือนพักได้ก็โบกโบดา โบด้าจากหน้าโรงแรมออกไปตะลุยกัมปาลาเลย
ต้องบอกว่า โบดา โบด้าเป็นของหาง่ายในกัมปาลา ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของเมืองจะมีโบดา โบด้าให้ใช้บริการตลอด
ที่จอดกันเป็นวินมอเตอร์ไซค์เลยก็มี แต่ที่รับจ๊อบเสริมก็น่าจะไม่น้อยเหมือนกัน ประมาณว่ากำลังบิดมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปทำธุระ แต่บังเอิญผ่านมาเจอผู้โดยสาร เลยแวะรับจ๊อบไปก่อน ค่าโดยสารก็ไม่ได้แพงอะไร ต่อเที่ยวประมาณ 1,500 ชิลลิ่ง (1 ดอลลาร์สหรัฐแลกได้ประมาณ 2,600 ชิลลิ่ง)
อาร์ท มาร์เก็ต (Art Market) เป็นที่แรกที่ฉันพุ่งไปหา ที่จริงควรจะเป็นที่สุดท้าย เพราะเผื่อช็อปเสร็จแล้วกลับเรือนพักเลย
ตัวตลาดไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ใครจะคิดว่า อาร์ท มาร์เก็ตมีแต่ข้าวของหน้าตาดีล่ะ ทั้งภาพเขียน ไม้แกะสลัก เสื้อผ้า ของกระจุกกระจิกอีกไม่น้อยที่ล้วนแต่น่าหิ้วกลับบ้านทั้งสิ้น จึงลงเอยด้วยการหอบภาพเขียนพะรุงพะรังไปเที่ยวที่อื่นกันต่อ
จากย่านใจกลางเมือง ฉันให้โบดา โบด้าพาไปส่งที่ นาคาซีโร (Nakasero market ) ตลาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่นั่นมีขายทุกอย่าง ตั้งแต่ผักผลไม้ ข้าวสาร อาหารแห้ง ไปยันของใช้ภายในครัวเรือน ของที่นี่บางร้านเขาวางขายกับพื้นเลย
มิตรไมตรีของพ่อค้าแม่ค้าชาวยูกันดานั้นทำให้ฉันสัมผัสได้ อาจจะต่างจากหลายชาติในแอฟริกา ที่ผู้คนชาวเมืองไม่ค่อยถูกโรคกับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ แต่คนที่นี่เขาชวนชิมนั่นชิมนี่ ชวนสนทนาอย่างออกรส
ในย่านเมืองเก่ากัมปาลา ยังมี มัสยิดกัดดาฟี (Gaddafi National Mosque) ที่ชาวเมืองให้ความศรัทธากันมาก
ความจริงยูกันดา เป็นประเทศที่มีความหลากหลายด้านศาสนา เพราะในเขตเมืองเก่ากัมปาลานั้น นอกจากจะมีมัสยิดแล้ว ยังมียอดโบสถ์ให้เห็นด้วย
เดินเล่นในย่านเมืองเก่ากัมปาลาเสร็จ จากนั้น ฉันโบกโบดา โบด้าต่อไปยัง พิพิธภัณฑ์ยูกันดา (Uganda Museum) พิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ช่วยบอกเล่าประวัติความเป็นมาของประเทศนี้
ปิดท้ายด้วยการไปเที่ยว สุสานคาสุบิ (Kasubi Tomb) สถานที่ที่ฝังศพกษัตริย์ของยูกันดา ความจริงทั่วเมืองกัมปาลามีสุสานอีกหลายจุด แต่สุสานคาสุบิได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด
ถึงแม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ในยูกันดา แต่ฉันก็รู้สึกว่า เสน่ห์แบบดิบๆ เดิมๆ ยังคงอยู่ ชีวิตชีวาของชาวเมืองไม่เคยขาดแคลน ไม่รู้จะมีวาสนาได้เหยียบยูกันดาอีกหรือไม่ รู้แต่ว่า นี่คือประเทศที่น่าค้นหาเหลือเกิน
........................
(เดินดุ่มใน'ยูกันดา' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง)