
นั่งเล่นที่'ไนโรบี'
นั่งเล่นที่'ไนโรบี' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง
ไนโรบี (Nairobi) คงเพิ่งเอนหลัง ส่วนฉันเพิ่งหย่อนตัวลงแนบไนโรบี เมืองหลวงของ เคนยา (Kenya) ที่เฉียดไปเฉียดมาหลายตลบ แต่จนแล้วจนรอดก็เจอกันจนได้
คำว่า "แอฟริกา" ทำให้ฉันยกระดับการรักษาความปลอดภัยให้ตัวเองเสมอ ต่อให้เป็นเคนยาก็เถอะ เพราะถึงแม้เคนยาจะเป็นแอฟริกาที่เจริญแล้ว แต่ขึ้นชื่อว่าแอฟริกา ไม่ประมาทเป็นดีที่สุด
เรื่องจะเที่ยวเคนยานั้น ง่ายดายสำหรับ พ.ศ.นี้ วีซ่าก็ทำ on arrival ที่สนามบินได้ ส่วนสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (0-22592701-3) ก็มีเที่ยวบินไปกลับไนโรบีทุกวัน ซึ่งในทวีปแอฟริกานั้น นอกจากกาตาร์ แอร์เวย์ส จะมีเที่ยวบินไปไนโรบีแล้ว ยังบินไปเอนเทบเบ เคปทาวน์ โจฮันเนสเบิร์ก ดาร์เอสซาลาม คาซาบลังกา ไคโร และตูนิส อีกด้วย
เที่ยวนี้หลังจากคลิกไปค้นที่เว็บไซต์อโกดา ( www.agoda.com) ก็เจอที่พักใจกลางเมืองอย่างโรงแรม Sarova Stanley (www.sarovahotels.com) นี่คือโรงแรมเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่ถึงแม้จะรีโนเวทใหม่จนทันสมัยและได้มาตรฐาน แต่ก็ยังคงความคลาสสิกเอาไว้ต้อนรับแขกเหรื่อ
ฉันชอบที่จะเดินเหินไปมุมไหนของไนโรบีก็ใกล้ทั้งนั้น เพราะโรงแรมนี้อยู่กลางเมืองจริงๆ แค่แหวกม่านหน้าต่างโรงแรมก็รู้ว่าตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงและย่านธุรกิจของไนโรบี
คนชอบช็อปน่าจะเหมาะกับที่นี่ เพราะจากเรือนพักเดินไปแค่ 5 นาทีก็ถึงตลาดประจำเมือง หรือซิตี้ มาร์เก็ต มุมที่ไม่ได้ขายแค่ของสด อาหารการกิน หรือข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเท่านั้น แต่มุมนี้แหละที่เกี่ยวเงินชิลลิงจากกระเป๋านักท่องโลกมานักต่อนักแล้ว
เพราะข้าวของที่วางอยู่ในตลาดนั้น ไม่ได้เยอะละลานตาอย่างเดียว แต่ทุกร้านเหมือนโปรยยาเสน่ห์เอาไว้ ไม่มีทางซะหรอกที่จะเดินลอยนวลผ่านไปอย่างง่ายดาย เพราะข้าวของแต่ละชิ้นยักคิ้วหลิ่วตาใส่จนต้องแวะลูบคลำเป็นระยะ
พวกเครื่องไม้แกะสลักรู้สึกว่าจะเป็นสินค้านำ แกะสลักเป็นพวกสิงสาราสัตว์ชนิดต่างๆ แต่ที่ขายดีที่สุดน่าจะเป็นยีราฟ มีให้เลือกตั้งแต่ตัวเท่าฝ่ามือไปยันตัวเท่าของจริง
หน้ากากไม้แกะสลักเป็นอีกอย่างที่ไม่ว่าชิ้นเล็กหรือใหญ่ก็น่าซื้อไปซะหมด ส่วนคนชอบแต่งบ้านบอกได้เลยว่าถ้าเฉียดมาใกล้ตลาดนี้คุณจะเดินตัวเบาออกไป และหอบหิ้วอะไรพะรุงพะรังไปหมด ขนาดฉันถึงแม้ออกตัวเอี๊ยดว่าไม่ใช่พวกสาวนักช็อป แต่ตอนนี้จานกระเบื้องเพนท์สีตั้งโชว์ยีราฟคู่ผอมบาง ถูกฉันพาไปเที่ยวบางกอก ยังไม่นับภาพเขียนสี มีทั้งแบบสีน้ำมันและงานเพนท์บนผ้าบาติก ที่สวยจนต้องพาหนีออกจากร้านตามฉันกลับบ้าน
หลังจากเดินทั่วตลาด ก็พบว่าคนขายส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นพวกชาวเผ่ามาไซ ที่สลัดคราบชาวเผ่ามาเป็นพ่อค้าชาวกรุง ...ถัดมาใครมีราคาในใจไว้ที่เท่าไหร่ต่อรองได้ตามใจปรารถนา พ่อค้าแม่ขายที่นี่เขาจะโค้ดราคาเวอร์ๆ เอาไว้ให้ต่อรอง และต่อปากต่อคำไปพร้อมๆ กัน
ความสุขอย่างหนึ่งของการเดินตลาดแห่งนี้คือการที่ผู้ขายที่มีมากกว่าผู้ซื้อ ร้านค้าแต่ละแห่งจึงแทบจะอุ้มทุกคนที่เดินผ่าน ราวกับคุณคือเซเลบชื่อดังที่พลัดหลงมาเที่ยวไนโรบี
ความจริงไนโรบียังมีอีกหลายมุมที่น่าสำรวจ แต่มุมที่ฉันใช้เวลาอยู่ด้วยนานที่สุดคือ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเคนยา (Kenya National Archives)
ที่นี่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไนโรบีพอดิบพอดี ด้านหน้าเหมือนเป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้คนจะมานั่งๆ ยืนๆ กันแน่นไปหมด พวกเขามารอรถเมล์ ต่อรถเมล์ นัดเพื่อน นัดแฟน แต่น้อยคนมากที่จะเดินเข้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเคนยา ต่างจากแขกเหรื่อของเคนยาที่มาแล้วผลุบเข้าไปในอาคารแห่งนี้อย่างลืมวันลืมคืน เพราะด้านในแออัดไปด้วยของน่าดูทั้งสิ้น
ที่นี่เป็นเหมือนกึ่งพิพิธภัณฑ์กึ่งอาร์ตแกลเลอรีที่ไม่ได้แค่เก็บรวบรวมข้าวของโบราณ ภาพถ่าย และงานศิลปะของเคนยาเอาไว้เท่านั้น แต่ยังมีของเก่า งานศิลปะ อาวุธ เครื่องครัว เครื่องแต่งกายของประเทศในแถบแอฟริกาเกือบทุกประเทศ ที่ล้วนแต่บอกเล่าวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในแต่ละยุคสมัยของประเทศต่างๆ
แต่ที่สะกดให้นักท่องเที่ยวยืนนิ่ง คงจะเป็นภาพเขียนสีจากประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคองโก มอริเชียส นามิเบีย ไนจีเรีย และแกมเบีย ซึ่งบอกเล่าวัฒนธรรมที่แตกต่างและหลากหลายของชาติต่างๆ ในแอฟริกา
ชั้นสองของอาคารเก็บรวบรวมแสตมป์จากทั่วแอฟริกาเอาไว้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ คนรักแสตมป์คงจะเพลินกว่าใครแน่นอน
ออกจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติเคนยา ถ้าเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นศาลาว่าการประจำเมือง ศาลสูงสุด โบสถ์ประจำเมือง และอาคารรัฐสภา
จำได้ว่าวันนั้นเดินเพ่นพ่านไปทั่วไนโรบี แล้วก็พบว่าไนโรบีเป็นเมืองสบายๆ ในทวีปแอฟริกา จะแวะนั่งเล่นริมทาง ชิล ชม หรือช็อป ก็มีครบสูตรของเมืองน่าแวะ
.....................................
(นั่งเล่นที่'ไนโรบี' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง)