พา'แคป'ไปตกปลา ไลฟ์สไตล์ แนวเชฟวี่ฯ | คมชัดลึก

                การที่ได้รับคำเชิญ จาก บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด  เพื่อขับรถเอสยูวีไปทำกิจกรรม โดยมีเชฟโรเลต แคปติวาเป็นพาหนะ นำทางออกไปผจญภัย ตามแนวของเชฟโรเลต

                แคปติวา สองคัน แตกต่างกันด้วยเครื่องยนต์ เบนซินกับดีเซล เป็นพาหนะ นำคณะมุ่งหน้าเขาตะเกียบ ซึ่งเลยหัวหินไปไม่ไกล กิจกรรมนี้เรียกได้เลยว่า "ขึ้นรถลงเรือ" อย่างเต็มรูปแบบ เพราะว่า วันนี้จะ "พาเจ้าแคป ไปตกปลา" ทำไมต้องพาเจ้าแคปไปด้วยต้องบอกว่า มันคือ วิถีหนึ่งของการใช้รถยนต์ประเภทอเนกประสงค์ขับเคลื่อนสี่ล้อ เลยเป็นไอเดียตกผลึกว่า ไปทะเลกันดีกว่า

               พูดถึงการใช้รถเอสยูวี หรือรถอเนกประสงค์ นั้นบ้านเรารถกลุ่มนี้แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 สาย คือ สายแรก เป็นโมโนค็อก ตัวถังปั๊มขึ้นรูป ประสิทธิภาพ คุณภาพ ความปลอดภัยและความอเนกประสงค์ ค่อนข้างสูง การขับขี่ทำได้ง่าย อีกสายหนึ่งคือ สายแชสซี (บอดี้ออนเฟรม) สายนี้อาจจะเรียกตามประเภทการเสียภาษีก็ต้องเรียกว่า PPV

               รถที่พัฒนามาทางนี้จะต้องมีแท่งเหล็กใหญ่ แต่กลวงเป็นกระดูกสันหลังของรถ แล้วเอาตัวถังวางครอบลงไป พื้นฐานของรถถ้ามาจากกระบะเรียกว่า PPV แต่ก็มีหลายยี่ห้อไม่ได้มาจากระบะ ส่วนใหญ่เป็นประเภทเฮฟวี่ ออฟโรด เช่นตระกูลแลนด์โรเวอร์ตัวลุยก็เรียกเอสยูวีเหมือนกัน

                สำหรับโมโนค็อกยกตัวอย่างง่ายๆ คือ ซีอาร์-วี นิสสัน เอ็กซ์เทรล ซูซูกิ แกรนด์ วีทาร่า และที่กำลังจะมาคือ มาสด้า CX5 ถ้าเอาพื้นฐานเก๋งมาทำเรียกว่า ครอสโอเวอร์ซึ่งการใช้งานและประสิทธิภาพคล้ายกันมาก รุ่นโด่งดังในสมัยนี้คือ ซูบารุ เอ็กซ์วี 

               พีพีวีนั้นมีโครงสร้างของตัวรถค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักมาก การขับยากกว่าพวกโมโนค็อก การคุมรถยากกว่าการโคลงของตัวรถมีมาก แต่ความอึดทั้งเครื่องและตัวถังเหนือกว่าโมโนค็อกแน่ รถกลุ่มนี้เช่น เทรลเบรเซอร์ ปาเจโร สปอร์ต ฟอร์จูนเนอร์ และเอเวอร์เรส จากฟอร์ดซึ่งรุ่นใหม่กำลังมา

               สำหรับแคปติวาเป็นโมโนค็อกมีชื่อเสียงดีอยู่ในเมืองไทย มาตั้งแต่ปี 2007 ที่เรียกว่า แคปติวา วัน ซึ่งทำการผลิตที่ศูนย์กลางการผลิตของจีเอ็ม เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2007 และก็เปลี่ยนโฉมมาเป็นรุ่นปัจจุบัน เมื่อเดือนเดียวกัน ของปี 2011 ซึ่งตอนนั้น เชฟโรเลต เปิดตัวรถเชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ พร้อมกับเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ "มอส" ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ และ "เกม" ดวงพร ลือกิตินันท์

               จุดเด่นของ เจ้าแคป คือ เป็นรถแนวทางยุโรป ช่วงล่างดี วิ่งทางไกลดี ที่สำคัญ จีเอ็มเป็นค่ายเดียวที่มี ความหลากหลายของเครื่องยนต์ให้เลือกมากที่สุด จะเอาเบนซิน ขับสองหรือขับสี่ ก็ได้หรือจะไปเล่นทางดีเซล

               รถประเภทนี้เขาแข่งกันที่ในจุดหลักๆ คือ สะดวกสบายแบบเก๋งและมีพื้นที่ใหญ่กว้าง และอเนกประสงค์แบบรถเอสยูวี ดังนั้นฟังก์ชั่นความปลอดภัย การแต่งรถให้หรูหรา ระบบไฟฟ้าต่างๆ บางทีก็เหนือรถเก๋งด้วยซ้ำไป ส่วนขนาดและความอเนกประสงค์นั้นต้องบรรทุกของได้ ต้องลากเทรลเลอร์ ได้ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นต้น ซึ่งการไปตกปลานี่ก็ต้องมีอุปกรณ์ตามแนวของคนชอบชีวิตกลางแจ้ง เช่น ถังน้ำแข็ง อุปกรณ์เก็บเหยื่อ เบ็ดคันยาวๆ และอื่นๆ

               คนออกแบบทริปนี้เป็นเซียนตกปลา ตัวยง ผมมีหน้าที่ขับรถไปให้ถึงเขาตะเกียบและเหยียบทรายไปนอนรอปลาในเรือเท่านั้น ที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่ของเพื่อร่วมทีม

               พูดถึงการขับแคปติวา ต้องยอมรับว่า ระบบช่วงล่างและฟังก์ชั่นต่างๆ ทำให้เรามั่นใจในการคุมรถ ผมชอบวัดความเป็นรถดีไม่ดี ตรงที่เวลาฟ้าฝนตก ทางลื่นๆ หรือไปในถนนที่ท้าทาย เช่น ขณะขึ้นภูเขา หรือผ่านพายุลมแรง หากผมรู้สึกว่า "ปลอดภัย" ในการนั่งอยู่ในรถนั้นๆ ส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นรถที่ขับดี ไว้ใจได้ เจ้าแคปก็ให้ความรู้สึกแบบนี้ครับ

               ส่วนวางมือจากรถไปเรื่องทะเล เพราะว่า เอารถไปจอดที่เขาตะเกียบ นัดเรือประมงที่ให้บริการเหมาออกไปตกปลา เขาคิด 8,500 บาท ต่อ 24 ชั่วโมง  ส่วนเวลากลับเราสามารถบอกไต้ก๋งว่าอยากจะกลับตอนไหน ออกเที่ยงวัน กลับเที่ยงคืนหรือจะกลับเช้าก็แล้วแต่ต้องอยู่ใน 24 ชั่วโมงนั้น มีกับข้าวเลี้ยงบนเรือจากฝีมือของลูกเรือ เรือนั้นโต้คลื่นห่างฝั่งออกไปราว 1 ชั่วโมง กะว่าถึงแนวเขาสามร้อยยอด ซึ่งเป็นจุด สำหรับเล่นเกมเย่อกับปลา เพื่อนๆ ตกปลากันแต่ผมโชคดีทำบาปไม่ขึ้น ได้แต่เอาเศษกุ้ง เศษหมึก ที่เขาใช้เป็นเหยื่อไปป้อนปลา และนี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกสำหรับการไปลอยเท้งเต้งในทะเล ในเรือลำน้อยติดต่อกันหลายๆ ชั่วโมง และมันทำให้ผมมึน และคิดได้ว่า การเมารถนั้นดีกว่าเมาเรือแน่ๆ เพราะเมารถก็หยุดจอด แต่เมาเรือ อีกนานกว่าจะกลับฝั่งเวลาสางแล้วได้เวลาบอกลา หัวหิน และเขาตะเกียบ อ่าวยังมึนอยู่เลย  แล้วจะกลับกรุงเทพฯ อย่างไร

               ขอขอบคุณ เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย)  อำนวยความสะดวกในการเดินทาง

 

...............................

         

ไฮเทคในแคปติวา

 

               แคปติวา วางจำหน่ายเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรและเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร(E85) เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมระบบDSC การตกแต่งแบบลักชัวรี่ ระบบความปลอดภัย ไฮเทคที่โดดเด่นเช่น เทคโนโลยีปรับสมดุลอัตโนมัติ ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (APR)ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน(HDC) ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน(HSA) ระบบยกตัวอัตโนมัติเมื่อบรรทุกหรือลากจูง เป็นต้น

 

...............................

(พา'แคป'ไปตกปลา ไลฟ์สไตล์ แนวเชฟวี่ฯ : คอลัมน์เปิดโลกยนตรกรรม)