การควบโรคพยาธิใบไม้ตับวิจัยเด่นปี56
การควบโรคพยาธิใบไม้ตับวิจัยเด่นปี2556 มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเผยผลพร้อมรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ด้วย
2สิงหาคม2556 มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานแถลงข่าวรางวัล “นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นประจำปี 2556” ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค ซึ่งในปีนี้สองนักวิจัยของ สกว. ได้แก่ ศ.ดร.โสพิศ วงศ์คำ อาจารย์ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ รศ.ดร.บรรจบ ศรีภา หัวหน้าศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลกด้านการวิจัยและการควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้คว้ารางวัลไปครอง หลังทั้งคู่ใช้เวลากว่า 30 ปี ทำงานวิจัยเชิงลึกด้านพยาธิใบไม้ตับที่นำไปสู่มะเร็งท่อน้ำดี มัจจุราชที่คร่าชีวิตชาวอีสานอันดับ1 สู่การป้องกันรักษาอย่างตรงเป้าและมีประสิทธิภาพ
ศ.ดร.อมเรศ ภูมิรัตน ประธานคณะกรรมการรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฯ เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ 31 แล้วที่มูลนิธิฯ จัดให้มีการมอบรางวัลนี้ขึ้น ซึ่งการมอบรางวัลดังกล่าว นอกจากจะเป็นการสดุดีเกียรติคุณบุคคลผู้มีผลงานด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณธรรมจริยธรรมสูงอันจะเป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว ยังก่อให้เกิดศรัทธาและช่วยชี้นำเยาวชนที่มีความสามารถให้มุ่งศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ซึ่งเป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์ประยุกต์และเทคโนโลยีทั้งหลาย เพราะมูลนิธิฯ เชื่อว่าสังคมที่ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และมุ่งยกย่องเชิดชูบุคคลที่มีผลงานดีเด่น กอปรด้วยคุณธรรม ที่จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม และช่วยพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
“รางวัลที่มูลนิธิฯ จัดขึ้นนี้เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังหรือวงการวิทยาศาสตร์ของไทยเห็นว่า คนที่ทำงานเก่งคนที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นคนดีควรได้รับการยกย่องเพื่อเป็นแบบอย่างให้คนอื่นทำตาม ผมหวังว่ารางวัลนี้จะช่วยกระตุ้นวงการวิทยาศาสตร์และสังคมไทยให้เห็นความสำคัญของงานวิจัยของนักวิชาการไทย ที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ มีผลงานการตีพิมพ์เผยแพร่ทั่วโลก เป็นการบอกกล่าวให้สังคมไทยเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น รวมทั้งเป็นการผลักดันกลุ่มนักวิจัยและบุคลากรให้มีกำลังใจและสามารถนำงานวิจัยเหล่านั้นไปขยายผลให้คนทั่วไปในสังคมไทยได้ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมที่เป็นฝีมือคนไทยด้วยกัน”
คณะกรรมการรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นมีมติเป็นเอกฉันท์ให้นักวิจัย 2 ท่าน ได้รับรางวัล “นักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ประจำปี 2556” ได้แก่ 1.ศาสตราจารย์ ดร.โสพิศ วงศ์คำ ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งวิจัยพบยีนที่สัมพันธ์กับการก่อมะเร็งท่อน้ำดีจากการแพร่ระบาดของโรคพยาธิใบไม้ตับสู่การรักษาแนวใหม่แบบมุ่งเป้า ซึ่งนอกจากจะนำไปสู่การแก้ปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศแล้ว ผู้วิจัยยังเห็นว่าปัญหาโรคมะเร็งท่อน้ำดีเป็นปัญหาระดับอาเซียนที่ไทยควรจะเป็นผู้นำ หลังจากพบว่าโรคนี้แพร่ระบาดไปทั่วอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เช่น ลาว กัมพูชา และเวียดนามตอนใต้ ซึ่งในประเทศดังกล่าวยังไม่มี “พยาธิแพทย์” ที่จะตรวจวินิจฉัยระยะโรคและการพยากรณ์โรคเพื่อเป็นแนวทางในการรักษา จึงทำให้แต่ละปีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีในประเทศเพื่อนบ้านมีอัตราการตายสูง และ 2. รศ.ดร.บรรจบ ศรีภา หัวหน้าศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลกด้านการวิจัยและการควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งวิจัยเกี่ยวกับกลไกการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ โดยได้ค้นพบกลไกทางอิมมูโนพยาธิวิทยาที่ทำให้เกิดการอักเสบรอบท่อน้ำดีที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งนำไปสู่การเกิดมะเร็งท่อน้ำดี พร้อมจัดตั้ง “ละว้าโมเดล” โครงการต้นแบบเพื่อควบคุมและป้องกันพยาธิใบไม้ตับแบบบูรณาการในพื้นที่ระบาด เพื่อศึกษาหาแนวทางในการควบคุมและป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับด้วยวิถีนิเวศสุขภาพ โดยทำการศึกษาเชื่อมโยงแบบครบวงจรทั้งวงจรพยาธิ พาหะ ระบบนิเวศ และ คนแบบชุมชนมีส่วนร่วม
ในส่วนของรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ซึ่งทางมูลนิธิฯก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2534 นั้น ศาสตราจารย์ ดร.อมเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้รางวัลนี้เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาแต่ตนเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันของงานที่แสดงให้เห็นว่าวงการวิทยาศาสตร์ไทยยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สืบทอดเจตนารมณ์การทำงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาประเทศ โดยวัตถุประสงค์ของการให้รางวัลนี้ เพื่อให้กำลังใจนักวิจัยรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 35 ปี และชี้ให้เห็นว่านักวิทยาศาสตร์เหล่านี้มีศักยภาพ ซึ่งรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ประจำปี 2556 ได้แก่ 1. ผศ.นพ.ดร.ฉัตรชัย เหมือนประสาท ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 2. ผศ.ดร.ดวงกมล เบ้าวัน ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 3. ผศ.ดร. วิทยา เงินแท้ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ 4. ดร.ประสิทธิ์ ทองใบ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นผู้ที่ได้รับทุนวิจัยจาก สกว.ทั้งสิ้น
“การมอบรางวัลทั้งนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ในปีนี้ ส่วนหนึ่งผมเชื่อว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นงานวิจัยและนักวิจัยของไทยให้ได้มีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากอัตราส่วนของนักวิจัยในประเทศมีตัวเลขต่ำมากจนน่าตกใจคือมีนักวิจัยเพียง 9:10,000 คน เท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยมาก ส่งผลให้งานวิจัยที่ออกมามีสัดส่วนน้อยเช่นเดียวกัน เพราะรัฐบาลไม่เห็นถึงความสำคัญของนักวิจัย อยากให้รัฐบาลในฐานะที่จับชีพจรสังคมตลอดเวลาและเห็นความเป็นไปของสังคม ให้การสนับสนุนงานวิจัยอย่างเหมาะสม เพราะงานวิจัยก่อให้เกิดนวัตกรรม นวัตกรรมก่อให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งในอนาคตผมเชื่อว่าจุดสำคัญที่จะทำให้งานวิจัยก้าวหน้าคือ ภาคเอกชนที่จะเข้ามามีบทบาทในแง่ของการลงทุนในด้านอุตสาหกรรมแล้วนำผลงานของนักวิจัยไทยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งในขณะเดียวกันก็จะช่วยทำให้งานวิจัยต่าง ๆ มีผลสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.อมเรศ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเชิดชูสนับสนุนคนเก่งคนดีในสังคมไทยสามารถทำได้ทุกสายอาชีพ โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น เพราะมูลนิธิฯเชื่อว่าการที่สังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของนักวิจัยที่เก่ง และเป็นคนดี มีคุณธรรม จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม และช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป จากผลงานวิจัยที่ก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ ผนวกกับความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน อันจะเป็นตัวผลักดันและขับเคลื่อนงานวิจัยเหล่านี้ไปสู่การพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้านต่อไป
ด้าน ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการ สกว. เปิดเผยว่า การวิจัยมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ Blue Sky Research หรือ Basic Research ที่ทำด้วยความสนใจของนักวิจัย แต่อนาคตอาจจจะเกิดผลหรือนำไปใช้ประโยชน์ได้ และอีกกลุ่มหนึ่งคือ Targeted Research ซึ่งสอดคล้องกับ Strategic Research Area ซึ่ง สกว. กำลังจะทำแผนยุทธศาสตร์ที่อิงกับยุทธศาสตร์ของประเทศที่เห็นชัดว่าจะต้องลงไปทำ เช่นเรื่องสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมเกษตรที่ต้องทำอย่างแน่นอน ทั้งนี้ทุกหน่วยงานตื่นตัวและให้ความสนใจที่จะนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์โดยเฉพาะเชิงพาณิชย์หรือเชิงเศรษฐกิจ รวมทั้ง สกว.เองที่จะนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์มากขึ้นโดยจะรวบรวมผลงานวิจัยที่มีอยู่มาจัดทำให้เป็นระบบมากขึ้นและตอบโจทย์ทางสังคมให้มากขึ้น



