
ฮือฮา!จัดรำวงย้อนยุคหน้าศพที่พิษณุโลก
ชาวเมืองพิษณุโลกจัดรำวงย้อนยุคหน้าศพ ให้ผู้เสียชีวิตที่เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านผู้ก่อตั้งคณะรำวงย้อนยุค ขณะที่ภรรยาคู่ชีวิตร้องเพลงฉันจะรักคุณเป็นคนสุดท้ายไว้อาลัย
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 30 กรกฏาคม พ.ศ.2556 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 6 ต.จอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีการจัดงานศพแบบแปลก ๆ ที่คาดว่าไม่เคยมีใครจัดงานแบบนี้มาก่อน โดยที่งานศพ มีบรรดานางรำในวงรำวงย้อนยุคของหมู่บ้าน ใส่ชุดรำวงมาเต้นหน้าโลงศพ กันอย่างคึกคัก
สอบถามทราบว่างานดังกล่าวผู้เสียชีวิตคือ จ่าสิบเอกอิทธิพล ขจรศรี อายุ 61 ปี หรือชาวบ้านเรียกกันว่า ผู้ใหญ่เปี๊ยก ได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางครอบครัวก็ได้จัดให้มีการสวดพระอภิธรรมศพตามปกติ แต่ในวันที่ 30 ก.ค. ผู้ใหญ่เปี๊ยกผู้ตายได้ทำเรื่องบริจาคร่างกายให้กับทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งทางโรงพยาบาลก็จะมารับร่างของผู้ใหญ่ในวันนี้ ตามที่ทางครอบครัวได้นัดหมายไป ก่อนเวลานัด คณะรำวงย้อนยุค ซึ่งผู้ใหญ่เปี๊ยก เป็นผู้ก่อตั้งต่างก็พร้อมใจกันแต่งตัวมารำวงหน้าโลงศพ เป็นการไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
นางนัยน์ปพร กัญจน์ธนะโชติ นางรำในวงรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ผู้ใหญ่เปี๊ยกเป็นคนสนุกสนานชอบร้องเพลงและรำวงเป็นอย่างมาก เมื่อได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ก็ชักชวนบรรดาลูกบ้านที่เป็นผู้หญิง และชอบรำวงมาตั้ง รำวงย้อนยุค ไปช่วยเหลืองานสังคมอยู่เสมอ ๆ การที่มาเต้นรำวงหน้าโลงศพในครั้งนี้ ก็ถือว่า เป็นการทำในสิ่งที่ผู้ตายชอบ เป็นครั้งสุดท้าย
ด้านนางประทุม สร้อยนาค ภรรยาของผู้ใหญ่เปี๊ยก เล่าว่า ตนเองอยู่กินกับผู้ใหญ่เปี๊ยกมากว่า 30 ปี ไม่เคยจดทะเบียนสมรสกัน แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทุกวันผู้ใหญ่เปี๊ยก จะต้องชักชวนให้ร้องเพลง เพลงที่ชอบมากที่สุด จะเป็นเพลงของยอดรัก สลักใจ ปกติ ผู้ใหญ่เปี๊ยก เป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่ก็จะมีเพื่อน ๆ ที่ดื่ม มาเที่ยวหาที่บ้านอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีอาการผิดปกติจึงไปพบแพทย์ ผลการตรวจออกมาว่า มีจุดสีดำที่ตับ แต่ยังไม่ทันได้ไปฟังผลว่า สาเหตุเกิดจากอะไร ก็มาเสียชีวิตไปก่อน
นางประทุม กล่าวอีกว่า ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน อาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ปัญหาที่ผ่านมาทั้งหมด ก็จะลืมจะเก็บความทรงจำดี ๆ ไว้ และจะทำหน้าที่แม่ของลูกให้ดีที่สุดและขอร้องเพล ฉันจะรักคุณเป็นคนสุดท้าย ให้กับผู้ใหญ่เปี๊ยกได้ฟัง ก่อนที่จะจากกันตลอดกาล