รู้จักทะเลกระบี่ ที่ไร่เล | คมชัดลึก

                กระบี่ จังหวัดชายฝั่งอันดามันที่ได้ชื่อว่ามีเกาะแก่งสวยงาม ธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์อยู่มาก น้ำทะเลใส หาดทรายสวย แล้วยังมีป่าชายเลนที่เป็นแหล่งอาหารอันอุดม แต่น่าแปลกที่พอเพื่อนถามฉันว่า ไปกระบี่ จะเที่ยวที่ไหนดี กลับต้องนั่งนึกอยู่เป็นนานสองนาน (ฮา)

               ฉันเคยไปกระบี่อยู่หลายครั้ง แต่ในหลายครั้งนั้นมักมุ่งหน้าไปเดินป่า ปีนเขาซะมากกว่า ทั้งที่เขาพนมเบญจา ในเขตอุทยานแห่งชาติพนมเบญจา ที่เคยเกิดดินถล่มเมื่อปีก่อน และก็ที่เขาหางนาค ที่ฉันเคยขึ้นไปนอนดูทะเลอยู่บนยอดหงอนนาคนั้น

               พอถามถึงทะเล เลยเกือบจะนึกไม่ออก ทั้งที่กระบี่เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเลยาวถึง 160 กม. แถมมีเกาะที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวเยอะมาก อย่างเช่น เกาะพีพี  เกาะห้อง เกาะลันตา แต่ให้ตาย...ฉันกลับไปรู้จักทะเลกระบี่ที่ อ่าวไร่เล

               ไปกระบี่ เดี๋ยวนี้สบาย มีทั้งรถทัวร์ และเครื่องบินให้เลือกใช้บริการ ถ้าขับรถไปเองก็ออกจะเหนื่อยอยู่สักหน่อย ไปถึงตัวเมืองกระบี่คราวนี้ ก่อนจะไปโต๋เต๋ริมทะเล ที่อ่าวไร่เล ฉันขอไปสูดอากาศสดชื่น สบายๆ ริมป่าชายเลนซะก่อนดีกว่า

               ป่าชายเลนของจังหวัดกระบี่ ติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียวในแง่ของความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ จากสภาพความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์นี่เอง ตอนนี้เลยมีประติมากรรมบ่งบอกให้ได้ทราบ คือ ประติมากรรมสัมฤทธิ์ครอบครัวปูดำ หรือปูทะเล 4 ตัว ที่อยู่ไม่ไกลจากท่าเทียบเรือที่อยู่หน้าอำเภอนั่นเอง

               เรือโทง พาเราลัดเลาะ ไปตามชายป่าชายเลน ปากแม่น้ำกระบี่ มุ่งหน้าไป เขาขนาบน้ำ จุดชมวิวยอดฮิตของจังหวัดกระบี่ ไม่ไกลจากศูนย์ราชการและตลาดร้านค้า ย่านธุรกิจกลางเมืองกระบี่  ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นแนวป่าชายเลน มีจุดจอดเรือประมงเพื่อหลบพายุ อยู่ฝั่งตรงข้าม เว้นช่วงหมู่บ้านเกาะกลาง ที่เป็นชุมชนใหญ่ นอกนั้นที่เห็นก็มีแต่ต้นไม้จำพวกโกงกาง สมอ ลำแพน  ฯลฯ และเจ้าลิงแสม ที่โผล่หน้าทักทายแขกบ้านแขกเมือง กรี๊ดกร๊าดเป็นระยะ

               เรือโทงพาเราลัดเลาะไปถึงเขาขนาบน้ำ รูปทรงเหมือนเขาหินปูน ที่โดยเด่นอยู่ 2 ฝั่งน้ำ ดูเผินๆ เหมือนอยู่กลางน้ำด้วยซ้ำไป ลำน้ำช่วงนี้แคบเข้า เขาลูกขวามือ มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่ามีถ้ำซึ่งมีคหบดีเอากระบี่เข้าไปเก็บซ่อนไว้ จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์เมืองกระบี่ แต่จริงหรือไม่จริง ไม่มีใครยืนยัน แล้วแต่ตำนานจะว่ากันไป เราแวะเที่ยวถ้ำที่เขาขนาบน้ำ ที่ยังมีหินงอกหินย้อยให้ชม

               ออกจากเขาขนาบน้ำ ก็ได้เวลาไปนั่งๆ นอนๆ เดินเล่นริมหาดทรายที่อ่าวไร่เล ซึ่งที่อ่าวนี้ยังไม่มีทางรถเข้าไปถึง ต้องอาศัยนั่งเรือไป     ขึ้นสองแถวจากตัวเมืองไปอ่าวนางราว 45 นาที แล้วต่อเรืออีก 10-20 นาที ไปขึ้นที่ไร่เลตะวันตกหรือหาดถ้ำพระนาง ติดต่อเช่าเรือได้ที่ สหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

บางคนไปกระบี่ ไม่รู้จะไปตั้งต้นที่ไหน ก็มุ่งหน้าไปที่ อ่าวนาง รับรองมีทางเลือกให้อีกเพียบ เพราะที่นี่นอกจากเป็นหาดทรายทอดยาว มีถนนเลียบชายหาด ยังเป็นที่ตั้งของร้านค้า ที่พัก มีบริษัทนำเที่ยวหลายแห่ง และเป็นจุดเช่าเรือไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ หาดไร่เล ถ้ำพระนาง และเกาะต่าง ๆ ในทะเลกระบี่นั่นเอง

               คราวนี้ฉันพิเศษหน่อย ไปเรือเร็วของโรงแรมรายาวดี รีสอร์ต 5 ดาวที่อยู่ฝั่งไร่เลตะวันออก บริเวณถ้ำพระนาง สะดวกสบายจริงจริ๊ง ใกล้ถึงหาด ก็เห็นเอกลักษณ์ของไร่เลปรากฏ ไม่ใช่อะไรอื่น นักท่องเที่ยวมาปีนหน้าผากันนั่นเอง ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อนัก เมื่อก่อนไร่เลเป็นที่รู้จักและคุ้นเคยของนักปีนผาและนักท่องเที่ยวตะวันตก และเป็นหาดที่ค่อนข้างสงบโดยเฉพาะในยามค่ำ แต่เดี๋ยวนี้มีรีสอร์ท มีนักท่องเที่ยวไปพักค้างกันมากขึ้น

                จากด้านหน้าโรงแรมรายาวดี มีทางลัดเลาะไปสู่อ่าวพระนาง เป็นทางเดินเล็กๆ เลียบไปกับขอบรั้วของโรงแรมรายาวดี ที่มีลิงออกมาวิ่งเล่นกัน ใกล้ๆ ถ้ำ และเส้นทางปีนเขาขึ้นไปดู ลากูน หรือทะเลสาบเล็กๆ บนยอดเขา เสียแต่ว่า เวลาไม่ค่อยอำนวย บวกกับสภาพของฝนฟ้า ฉันเลยอดไปปีนเล่น จนต้องเก็บไว้ไปอีกแน่ๆ ในโอกาสหน้า 555   

               อ่าวพระนาง (คนละสถานที่กับอ่าวนางนะ) เป็นหาดทรายที่สวย น้ำทะเลใส โดยเฉพาะด้านทิศเหนือของหาด นักท่องเที่ยวนิยมมาอาบแดดกันแถวนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทัวร์ที่พาท่องทะเลกระบี่ บริเวณสุดหาดด้านทิศใต้มี ถ้ำพระนาง ที่มีเรื่องเล่าขานอีกด้วยเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า ครอบครัว ตา-ยมดึง อยากมีลูก เลยไปขอจากพยานาคให้ประทานลูกให้ พญานาคตอบตกลงแต่มีข้อแม้ว่า ถ้ามีลูกสาวต้องยกให้แต่งงานกับลูกชายของพญานาค ต่อมา ครอบครัวตายมดึงมีลูกสมใจเป็นลูกสาว ชื่อ "นาง" ซึ่งเติบโตมาเป็นสาวสวย เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ  ส่วนนางเองก็พบรักกับ "บุญ" ลูกชายครอบครัวตาวาปราบ ทั้งสองครอบครัวจึงจัดงานแต่งงานให้ทั้งที่ไม่เต็มใจ เมื่อพญานาคทราบข่าวก็โกรธแค้นที่ครอบครัวตายมดึงไม่รักษาสัญญา จึงจำแลงกายเป็นมนุษย์ขึ้นมาอาละวาดแย่งชิงตัวนาง เดือดร้อนถึงฤาษีที่บำเพ็ญตบะต้องออกมาห้าม แต่ไม่เป็นผล จนที่สุดฤาษีได้สาบให้ทุกอย่างกลายเป็นหิน บริเวณเรือนหอกลายเป็น "ถ้ำพระนาง" ข้าวเหนียวกวน กลายเป็น "สุสายหอย" ข้าวของเครื่องใช้ก็กลายเป็นเกาะต่างๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ส่วนพญานาคก็กลายเป็น "เขาหางนาค"

               ในวันที่อากาศดีๆ ช่วงเย็นๆ ชายหาดอ่าวพระนางเป็นจุดที่ชมดวงอาทิตย์ตกน้ำสวยที่สุดอีกแห่ง รวมถึงคืนเดือนมืด ท้องทะเลเงียบสงบ ก็อาจจะได้เห็นปรากฏการณ์ "พรายน้ำ"  ที่พอโยนก้อนหินไปในน้ำ หรือลงไปในน้ำ จะเกิดแสงสว่างขึ้น ซึ่งมีการอธิบายว่าเป็นการรวมตัวของแพลงตอนที่มีชุกชุม พอมีอะไรไปโดน ไปกระตุ้น มันก็จะแรืองแสงขึ้นมา (ใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง "เดอะบีช" ที่มาถ่ายทำที่อ่าวมาหยา ก็มีฉากปรากฏการณ์พรายน้ำให้เห็น)

               เดินเล่นกันแถวอ่าวถ้ำพระนาง ช่วงบ่ายแก่ๆ ไปถึงเย็น ขากลับเลาะไปตามเส้นทางของโรงแรมรายาวดี ผ่านไปอ่าวน้ำเมาและไร่เลตะวันออก ลองตะเวนราตรียามค่ำ แถวนี้ไม่ได้มีหาดสวยๆ เหมือนทางอ่าวพระนาง แต่มีรีสอร์ทก็ผุดขึ้นเป็นแนว ไปสุดปลายแถวร้านอาหารและบาร์เล็กๆ ที่นัดพบปะสังสรรค์ยามค่ำ ไม่ต่างจากฝั่งไร่เลตะวันตก และสิ่งที่คู่กันคือเคาท์เตอร์แพ็กเก็จทัวร์ โดยเฉพาะปีนผา ใครที่ชอบปีนผาแนะนำ ซื้อผ่านเคาท์เตอร์ จะปลอดภัยกว่าด้วยอุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆ หรือถ้าซื้อทัวร์เกาะ เผลอๆ จะถูกกว่าเช่าเรือไปตามเกาะเองด้วยซ้ำ

               ฉันโบกมือลาไร่เล พร้อมกับเจ้า "ค่างแว่น" ที่มาแอบมองอยู่บนต้นหูกวางหน้าโรงแรม จนเห็นได้ว่าที่นี่ช่างกลมกลืนและกลมเกลียวกับสิ่งแวดล้อม รอบๆ เกาะทีเดียว

               ไร่เล จะว่าไปก็เหมือนหนุ่มเรกเก้ ที่แฝงไว้ทั้งสีสันของความสนุกสนาน ท้าทาย ขณะเดียวกันก็มีมุมที่เงียบสงบอยู่กับตัวเอง ให้ใครต่อใครมาค้นหา ถ้าเจอตัวตนที่ใช่รับรองว่าประทับใจไม่รู้ลืม

.............................................

(รู้จักทะเลกระบี่ ที่ไร่เล : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย...เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์)