'บุษบา อิทไทย'พาให้หายคิดถึงบ้าน
'บุษบา อิทไทย'พาให้หายคิดถึงบ้าน : คอลัมน์ชวนชิม
ทุกๆ ครั้งที่มีเหตุให้ต้องเดินทางไกลไปต่างแดนแม้เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ แต่สำหรับคนติด(อาหาร)บ้านเกิด เป็นต้องมีอาการคิดถึงของกินประจำถิ่นฐานตะหงิดๆ เช่นครั้งนี้ที่ประเทศอังกฤษ ถึงอาหารระดับมิชลินจะมีให้เลือกชิม ทว่าจนแล้วจนรอดยังมิวายแอบโหยหาอาหารไทยอยู่นั่น....สุดท้ายได้ร้านอาหาร "บุษบา อีทไทย" บนถนน Panton ย่าน Leicester Square 1 ใน 11 สาขา กระจายเปิดให้บริการทั่วลอนดอนและเมืองใกล้เคียงนานกว่า 15 ปี ช่วยผ่อนปรนอารมณ์เลี่ยน "อาหารยุโรป" ลงชั่วขณะ
ร้านตกแต่งด้วยไม้เน้นสไตล์เรียบง่าย โปร่งโล่ง โอ่โถง นั่งสบายเป็นแม่เหล็กดึงลูกค้าได้พอๆ กับเมนูอาหารไทยและเอเซียกว่า 50 รายการ ซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อให้เกิดความหลากหลาย รังสรรค์โดย "เอ็กเซ็กคลูทีฟ เซฟ...สัญชาติไทยแท้" อย่าง "เชฟจู๊ด" กฤษณ์ แสงสีดา ล้วนๆ
ไม่ต้องใช้เวลาไหว้ครูนานจานแรกที่จัดมาเสิร์ฟเป็น "ข้าวผัดแกงแดงเนื้อ" เสน่ห์ปลายจวักของจานนี้อยู่ที่เครื่องแกง แม้ไม่ถึงกับนั่งโขลกสดๆ แบบครกต่อครก แต่ความสดใหม่แทบไม่ต่างจากกินในถิ่นฐานบ้านเกิด ซึ่งเชฟจู๊ดเล่าว่า ต้องยกความดีให้เทคโนโลยีและการขนส่งแม้อยู่ห่างไกลกันทว่าก็ไร้อุปสรรค ส่วนเรื่องรสชาติความอร่อยหรือไม่นั้น ไม่บังอาจตัดสินใจ เพราะเป็นเรื่องของลิ้นใครลิ้นมัน รู้แต่ว่า "เนื้อวัว" ส่วนประกอบหลักนั้น ก่อนจะนำมาผัดกับเครื่องแกงต้องผ่านการตุ๋นจนเปื่อยได้ที่ ยังไม่นับวัตถุดิบจำพวกมะเขือเปราะ มะเขือพวง พริกชี้ฟ้า ใบโหระพา มาแบบครบเครื่องจริงๆ...เอาเป็นว่า เห็นหน้าตาธรรมดา อย่าได้เผลอปรามาสเชียวล่ะ ถ้ายังมิได้ลองตักใส่ปาก!!
มาถึงจานทานเพลิน"พล่าปูนิ่ม" ถูกปากนักชิมทั้งไทยและต่างชาติถึงขั้นยึดตำแหน่ง "จานหลักประจำร้าน" ที่นำขบวนความจัดจ้านด้วยรสเปรี้ยวจากน้ำมะนาว เค็มน้ำปลา หวานน้ำตาลปิ๊บ และเผ็ดน้ำพริกเผาเล็กๆ ซึ่งปรุงน้ำยำสดๆ จานต่อจาน ก่อนจะนำไปคลุกเคล้ากับปูนิ่มทอดกรอบ และเหล่าสมุนไพรไทยแบบครบเครื่องทั้งมะม่วงดิบซอย ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดซอย หอมแดงซอย และไม่ลืมยั่วต่อมน้ำลายให้ทำงานด้วยกลิ่นหอมจากผักชีอีกนิดหน่อย
สำหรับผู้ที่ต้องการแบบแซบเว่อร์ขอนำเสนอ "ต้มโคล้งปลาแซลมอนใส่วุ้นเส้น" ถ้วยนี้ เอ็กเซ็กคลูทีฟ เชฟ กระซิบถึงความพิถีพิถันกันตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมเครื่องทั้ง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแห้ง หอมแดง ก่อนหย่อนลงหม้อน้ำแกงปรุงรส บรรดาสมุนไพรทั้งหมดต้องถูกโยนลงไปเผาเอาความหอมไหม้ๆ ให้ตรงตามตำราอาหารไทย มาถึงชิ้นปลาเหตุที่เลือกใช้แซลมอนแทนปลากรอบเพราะต้องการปรับให้เหมาะกับตลาดคนกิน กระนั้นเนื้อปลาก็ถูกกริลล์ให้หนังเหลืองกรอบจนได้ความมันติดปลายช้อนซ้อนทับด้วยความเปรี้ยวของน้ำมะขามเปียกผสมผสานน้ำมะนาวเพื่อไม่ให้ออกรสจี๊ดจ๊าดมากเกินความจำเป็น ส่วนวุ้นเส้น เนื่องจากทางร้านเน้นบริการอาหารจานเดียวจึงเพิ่มเข้าไปให้เต็มอิ่ม
จัดจ้านไปพอประมาณ จึงขอพักกระเพาะด้วยมังสวิรัติสักหน่อย "เต้าหู้ผัดมะเขือยาว" เอาใจคนไม่นิยมเนื้อสัตว์ เรียบแต่ไม่ง่าย เพราะกว่าจะได้ชิม ต้องนำเอามะเขือยาวและเต้าหู้ไปทอดจนหอม เสร็จสรรพค่อยจับมาต้มในน้ำเดือดเพื่อเอาน้ำมันออก เป็นเทคนิคขจัดความเลี่ยนได้ชะงักนัก พักไว้ให้เสด็จน้ำค่อยนำทั้งคู่ลงผัดกับผักสด พริกแห้งบุพอแหลก และใบโหระพา ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว...เท่านี้จริงๆ
ส่วนเรื่องเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายไล่ตั้งแต่น้ำเปล่า น้ำผลไม้ แอลกอฮอล์ และ ไร้แอลกอฮอล์ แต่ถ้าอยากลองซิกเนเจอร์ของทางร้านแนะให้เรียกหา "สมุย" เขาเอาน้ำแครอทสด น้ำส้มคั้น ครีมมะพร้าว มาผสมกัน รสนี้คนไทยอาจจะไม่คุ้นลิ้นแต่ถ้าเป็นฝรั่งมังค่าล่ะก็ชื่นชอบกันหนักหนาเชียวล่ะคุณ
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-23.00 น. สนนราคาแค่อิ่มพอดีมีคนละสัก 20 ปอนด์ก็เอาอยู่ อ้อ!!...ลืมบอกไปว่าร้านนี้ไม่มีหมูนะคะ ที่สำคัญอย่ามัวเสียเวลาเสียอารมณ์หากร้องหาผัดกระเพาแล้วไม่เจอ นั่นเพราะทาง "อียู" เขาระบุชัดว่าพบสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายปะปนอยู่จึงไม่อนุญาตให้ผ่านเข้าไปจำหน่ายในยุโรปได้ (ทางการไทยทราบแล้วเปลี่ยน)....!!
.....................................
('บุษบา อิทไทย'พาให้หายคิดถึงบ้าน : คอลัมน์ชวนชิม)