ไลฟ์สไตล์

รู้ลึกเรื่องผิวเพื่อการดูแลที่ถูกต้อง

รู้ลึกเรื่องผิวเพื่อการดูแลที่ถูกต้อง

25 มิ.ย. 2556

รู้ลึกเรื่องผิวเพื่อการดูแลที่ถูกต้อง : ดูแลสุขภาพ โดยพญ.ฐาปนีย์ เบ็ญจะมโน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมความงามและผิวพรรณ


               ผิวหนังจัดว่าเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และจะห่อหุ้มร่างกายเราไว้ทั้งหมด โดยทำหน้าที่ปกป้องอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ใต้ลงไป จากความร้อน แสง การติดเชื้อ และสภาพแวดล้อมทั้งหลาย นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ เป็นที่กักเก็บน้ำและไขมัน โดยมีปลายประสาทรับรู้ความรู้สึก ซึ่งช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำและป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายของเรา

ผิวหนังจะประกอบไปด้วยชั้นต่างๆ ซึ่งแต่ละชั้นก็มีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป 

               1.ชั้นหนังกำพร้า (Edpidermis) ถือว่าเป็นชั้นนอกสุดของผิวหนัง ชั้นนี้เรียกกันง่ายๆ ว่า หนังกำพร้า ประกอบด้วย

               สเตรตัม คอร์เนียม (Stratum Corneum) ผิวเรียกเข้าใจง่ายๆ คือชั้นขี้ไคล ชั้นนี้จะประกอบไปด้วยเซลล์คีราติโนไซต์ (Keratinocytes) เป็นเซลล์ที่มีปริมาณมากที่สุดถึง 90% และจะมีการสร้างเซลล์ใหม่ทุกๆ 28 วัน ซึ่งจะผลิตสารเคอราติน (Keratin) และเคอราตินนี้เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น ชั้นนี้จะป้องกันสิ่งแปลกปลอมภายนอกไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย

               นอกจากนี้ยังป้องกันการสูญเสียของน้ำออกจากร่างกายด้วยชั้นขี้ไคลนี้ ถ้าเกาะติดกันแน่นและไม่ลอกหลุดตามเวลาที่ควร ก็จะไปอุดตันตามรูขุมขนได้ เป็นที่มาของสิวเสี้ยน และเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบตามมาได้ ดังนั้นการใช้กรด AHA ก็จะไปเร่งการผลัดเซลล์ผิวในชั้นนี้ได้จึงช่วยลดสิวเสี้ยนลงได้

               เซลล์คีราติโนไซต์ (หรืออีกชื่อ สความาสเซลล์ - Squamous cell) ถ้าเรียกแบบชาวบ้านก็คือ หนังกำพร้านั่นเอง ชั้นนี้จะอยู่ถัดใต้ชั้นสเตรตัม คอร์เนียมลงไป เป็นชั้นเซลล์คีราติโนไซต์ที่มีชีวิต และเป็นเซลล์ที่มีอายุโตเต็มวัย ซึ่งพร้อมจะกลายสภาพไปเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว (ซึ่งก็คือชั้นสเตรตัม คอร์เนียม) และหลุดลอกกลายเป็นขี้ไคล

               ชั้นเบเซิล (Basal Layer) เป็นชั้นที่ลึกที่สุดของชั้นอีพิเดอมีส ที่ชั้นนี้จะมีเบเซิลเซลล์อยู่ และแผ่คลุมต่อเนื่องกันตลอด เบเซิลเซลล์นี้จะแบ่งตัวและสร้างเป็นเซลล์คีราติโนไซต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทดแทนเซลล์คีราติโนไซต์ที่เสื่อมสภาพกลายไปเป็นชั้นสเตรตัม คอร์เนียม ในชั้นหนังกำพร้านี้จะมีเซลล์เมลาโนไซต์แทรกตัวอยู่ ซึ่งเซลล์เมลาโนไซต์นี้จะเป็นตัวที่ผลิตเม็ดสีเมลานิน (ทำให้เกิดสีผิว)โดยปกติเซลล์ชั้นหนังกำพร้าจะมีการผลัดเปลี่ยนกลายเป็นขี้ไคลตลอดเวลา และหลุดลอกออกไปตามธรรมชาติ

               ผิวหนังในเด็กกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นเร็ว ทำให้เด็กมีผิวหน้าใส เรียบเกลี้ยง แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นช้าๆ ทำให้การผลัดเซลล์ผิวช้าลง ขี้ไคลก็จะพอกหนาขึ้น เมื่อมีปัจจัยภายนอกต่างๆ มาเสริม เช่น โดนแสงแดดบ่อย, มลพิษ, สารเคมี, สูบบุหรี่ ก็จะไปเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทำให้ผิวหยาบกร้าน, มีรอยด่างดำ, ตกกระ, ฝ้า รอยเหี่ยวย่น ผิวหน้าแลดูหมองคล้ำ ไม่สดใส

               2.ชั้นหนังแท้ (Dermis) ผิวชั้นนี้มีความสำคัญมาก เป็นชั้นที่อยู่ตรงกลาง ที่ชั้นนี้จะมี

-หลอดเลือดขนาดเล็ก มาหล่อเลี้ยง
-ท่อน้ำเหลือง
-รากขน
-ต่อมเหงื่อ
-เส้นใยคอลลาเจน
-เซลล์ไฟโบรบลาส (Fibroblast) ซึ่งเป็นตัวที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin)
-เส้นประสาท

               และยังเป็นที่อยู่ของสารสำคัญที่ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นอย่างคอลลาเจนมากถึง 70% และเส้นใยอีลาสตินอีก 5% โดยมีกลูโคอะมิโนไกลแคนที่เป็นตัวเชื่อมยึดสารสำคัญนี้เข้ากับส่วนประกอบต่างๆ จึงทำให้ผิวหนังเกิดความชุ่มชื้น ถ้าผิวหนังชั้นนี้เสื่อมจากอายุที่มากขึ้น หรือถูกทำลายจากอัลตราไวโอเลตก็จะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นขึ้นได้

               ผิวหนังชั้นนี้ยังมี ต่อมเหงื่อ ที่มีลักษณะเป็นท่อรูปเกลียวเปิด บริเวณชั้นหนังกำพร้า ทำหน้าที่ขับเหงื่อเพื่อปรับสภาวะและรักษาอุณหภูมิของร่างกาย มีต่อมไขมัน ทำหน้าที่ผลิตไขมันทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น และต่อมกลิ่น ที่มีกลิ่นจำเพาะ จะพบมากบริเวณอวัยวะเพศ รูทวารและรักแร้

               3.ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง หรือ ชั้นรองรับผิวหนัง เป็นชั้นที่อยู่ลึกที่สุด ชั้นนี้จะมีเครือข่ายของเส้นใยคอลลาเจนและเซลล์ไขมัน ช่วยในการเก็บสะสมพลังงานความร้อนไม่ให้สูญเสียออกนอกร่างกาย และช่วยปกป้องร่างกาย ด้วยการดูดซับแรงกระแทกจากภายนอก

               การให้ความสำคัญในเรื่องของการทำความสะอาด รวมถึงการให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เหมาะสมกับตนเอง เพียงเท่านี้ผิวพรรณของคุณก็จะแข็งแรงมีชีวิตชีวา สุขภาพดี เรียบเนียน นุ่มนวล ไม่มีริ้วรอย จุดด่างดำ ยืดความเยาว์วัยของผิวพรรณไปได้อีกนาน