ไลฟ์สไตล์

ทำมะ ไม่ธรรมดา แอพธรรมะบนมือถือ

ทำมะ ไม่ธรรมดา แอพธรรมะบนมือถือ

22 มิ.ย. 2556

ทำมะ ไม่ธรรมดา แอพธรรมะบนมือถือ : คอลัมน์คุยนอกกรอบ : โดย...สินีพร มฤคพิทักษ์

               
 

               คราวที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวที "สานงาน เสริมพลัง ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่" เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นพ.บัญชา พงษ์พานิช กรรมการบริหารแผนสนับสนุนโครงการเปิดรับ สสส. แนะนำ กุณฑ์ สุจริตกุล หัวหน้ากลุ่มทำมะว่า สสส.อยากทำอะไรสักอย่างในโอกาสพุทธชยันตี ตนจึงตอบว่ารู้จักหนุ่มคนหนึ่งมีความคิดสร้างสรรค์สูง จึงให้มาคุยกับ สสส. นั่นเป็นที่มาของโครงการ "ธรรมะ-ทำมะ 2600 ปีแห่งการตื่น 26 วันเปลี่ยนชีวิต" โดยกลุ่มทำมะ

               ปีแรกที่จะเริ่มทำ แค่ชื่อโครงการก็มีปัญหาแล้ว...พระรับไม่ได้?

               เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ กุณฑ์ สุจริตกุล หัวหน้าโครงการ ตอบด้วยเสียงกลั้วหัวเราะน้อยๆ ว่า ชื่อนี้กว่าจะผ่านก็นานพอควร คนรุ่นก่อนๆ คนอาวุโสบอกว่าคำนี้ไม่มีในพจนานุกรม บ้างก็ว่า "มะ" เป็นภาษาใต้ เดี๋ยวจะแปลว่า "ทำแม่" หรือเปล่า

               "ประเด็นหลักคือตั้งคำนี้เพื่อท้าทาย ให้สมัยใหม่ขึ้น จริงๆ มีคำห้าม ยิ่งดีเลย"

               ที่มาของโครงการนี้เกิดจาก การพูดคุยถกเถียงถึงสถานการณ์สังคมปัจจุบัน โดยมีความคิดที่ว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงของบุคคล สังคมก็จะดีขึ้นด้วย จึงอยากชักชวนคนเหล่านั้นให้เริ่มคิดที่จะเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มจากตัวเอง ดูจากพฤติกรรมที่ตัวเองบกพร่องแล้วแก้ไขพฤติกรรม โดยเน้นให้กระทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 21 วัน เนื่องจากมีการวิจัยจากต่างประเทศว่า พฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่งที่กระทำเป็นเวลาต่อเนื่องกันเกิน 21 วัน จะทำให้พฤติกรรมดังกล่าวกลายเป็นนิสัยของบุคคลนั้น

               โครงการดังกล่าวเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ และคิดหาเครื่องมือที่จะเข้าถึงให้ง่ายขึ้น จึงมีเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือ 

               วัตถุประสงค์คือ สนับสนุนให้คนเอาชนะใจตนเอง สร้างนิสัยใหม่ที่เสริมสร้างสุขภาวะต่อตนเองและสังคม

               เนื่องจากโจทย์ของโครงการในปี 2555 คือพุทธชยันตี จะเอาเลข 2,600 มาเล่นอย่างไร สรุปคือต้องมีคนทำกิจกรรม 2,600 คน โดยใช้กิมมิกเลข 26 วันเป็นจุดขาย

               "เราหาโหนดหรือกลุ่มต่างๆ 26 หน่วย เป็นเครือข่ายพันธมิตร โดย 1 หน่วยต้องหาคนให้ได้ 100 คน รวบรวมได้ 22 หน่วย เริ่มทำวันวิสาขบูชาปี 2555 หน้าที่เราเชื่อมโยง 22 โหนดเข้าด้วยกัน สร้างเว็บไซต์หน้าตาหน้าคล้ายเฟซบุ๊ก แอพพลิเคชั่นบนมือถือมาเชื่อมโยง ลองผิดลองถูกเยอะ ทำไงให้ธรรมะดูสมัยใหม่ เหมาะสม เราพัฒนาโครงการมาระดับหนึ่ง ตอนนี้ขึ้นเฟสสอง มองดูปัญหาในอดีต อนาคตจะทำให้ทำมะเป็นนวัตกรรมแบบไหน เหมาะสม ตัดสินใจว่าอยากเดินไปในโลกดิจิตอล

               มีคนเข้าร่วมถึง คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย แต่ไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหมดไหม คิดว่าคงไม่ทุกคน มีกรณีศึกษาที่พอรู้ว่าเปลี่ยน ตัวผมเข้าร่วมด้วยก็เปลี่ยน เดิมสูบบุหรี่จัด จึงใช้โอกาสนี้ลองอดบุหรี่ ก็สำเร็จ นี่เป็นตัวชี้วัดตัวหนึ่ง"

               ถามว่าต้องการอดบุหรี่เพื่อทดสอบทฤษฎี ? กุณฑ์กลับตอบว่าเป็นการทดสอบความเพียร (ของตนเอง) โดยเอาตัวอย่างพฤติกรรมเลวๆ ของตนเรื่องหนึ่งมาทดลอง

               "ความจริงเคยเลิกมารอบหนึ่ง แล้วกลับมาทำใหม่ เลยลองดูสักเรื่องหนึ่ง ไหนๆ ก็เป็นผู้จัดการโครงการแล้ว ทำอะไรให้ได้เรื่องสักอย่าง"

               เมื่อขอให้พูดให้กำลังใจคนอยากเลิกบุหรี่ เขาใช้เวลาคิดครู่หนึ่งก่อนให้คำตอบซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่เหมือนคนอื่น เขาบอกว่า

                "สิ่งที่คุณเป็นมันไม่ใช่พฤติกรรมที่ทำทุกวัน คุณไม่จำเป็นต้องติดพฤติกรรมบางอย่าง อย่างผมรู้ว่าติดบุหรี่เหตุผลเพราะอะไร แต่ก่อนไม่ชอบให้ปากว่าง มีอะไรต้องเอาใส่ปาก เป็นจิตวิทยาทางกายมากกว่า ไม่ใช่ต้องการนิโคติน บางทีผมอาย ผมเขิน เช่น เจอสาวสวยๆ มันเขิน จึงสูบบุหรี่ เป็นอะไรอย่างนั้น ถ้าเราอายจริงๆ ทำอย่างอื่นก็ได้ ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย มันมีวิธีการทำงานกับตัวเองตั้งหลายวิธี บุหรี่เป็นแค่หนทางหนึ่ง เป็นอย่างนั้นมากกว่า"

               โครงการเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเดิมๆ นิสัยเดิมๆ เพราะปัญญาและความสุขเกิดจากการทำซ้ำ

               "ความจริงต้องอยู่กับความน่าเบื่อสักพัก เรารู้ว่าสูบบุหรี่ไม่ดี แต่การห้ามใจทำมันน่าเบื่อกว่าว่าเมื่อไรจะทำได้ แต่วันหนึ่งทำได้ เกิดการเปลี่ยนแปลงข้างใน เกิดความสุขขึ้นมา เพราะเปลี่ยนแปลงได้ ประเด็นหลักคือจุดกระแสให้เกิดความเปลี่ยนแปลง"

               เขาเห็นด้วยว่า "ต้องใจแข็ง" แต่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน หากเราเลือกทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ในที่สุดมันจะเกิดนิสัยใหม่ๆ ขึ้นมา

               สำหรับโครงการทำมะเฟสสอง (ปี 2556) หัวหน้าโครงการบอกว่าต้องทำงานในโลกดิจิตอลมากขึ้น นำธรรมะเหมาะสมยุคสมัย มาใช้ผ่าน ไอแพด ไอโฟน ให้ได้มากที่สุด โดยเน้นเรื่องศีล เนื่องจากเห็นว่าคนไทยเน้นเรื่องทำทาน ทำทานทั้งวันทั้งคืน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่ไม่ค่อยปฏิบัติ บวกกับความเชื่อส่วนตัวว่า โลกกำลังมุ่งสู่ดิจิตอล ดังที่เขาบอกว่า

               "โลกของคนรุ่นผมและคนรุ่นต่อไป ซึ่งได้รับแจกแท็บเล็ตฟรี ต้องไปทางนี้แน่นอน ทำอย่างไรจะให้ธรรมะเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้ในโลกเสมือนจริง"

               รูปแบบการทำงานคือ สร้างหรือปรับปรุงเว็บไซต์  และแอพพลิเคชั่นบนมือถือ และประสานภาคีเครือข่ายหาสมาชิกกลุ่มเป้าหมาย ในการทำกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทดลองใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือ

               เมื่อได้โจทย์ที่ชัดเจนแล้ว เขาจึงหันมาศึกษานิวมีเดียอย่างจริงจัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้แอนตี้สุดๆ

               "เดิมแอนตี้ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ผมไม่มีเฟซบุ๊คเลย ใช้คนอื่นดูก็ได้ (หัวเราะเสียงดัง) ผมไม่ต้องมีตัวตน  สำหรับผมแล้วดิจิตอลมันเป็นดินแดนใหม่ สด น่าสนใจ การเอาธรรมะ สังคม ไปลงก็สนุก มี สสส.สนับสนุนก็ดี ได้ทำสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา...ตอนนี้ก็ยังไม่ดูทีวี มาเรื่องแอพมือถือ ผมคิดว่าถ้าเราไม่ปรับตัวธรรมะ คงตามปัญหาสังคมไม่ทันและตายอยู่ตรงนั้น...

               "ผมไม่รู้เทคโนโลยี ไม่เอาเรื่องพวกนี้เลย แต่ผมสนใจเรื่องธรรมะ ทำไปทำมาปีหนึ่งคลุกคลีกับโปรเจกท์นี้กลายเป็นว่าอนาคตต้องไปโลกดิจิตอล เราไม่สามารถปฏิเสธวัตถุนิยมได้ แต่ทำยังไงให้ธรรมะอยู่กับโลก ผมเชื่อเรื่องธรรมะอยู่กับโลก ไม่เชื่อเรื่องตัดโลก คือวิเวกก็วิเวก แต่มันต้องมีเวลากลับมาอยู่กับโลกด้วย เอาธรรมะมาใช้กับชีวิตประจำวัน กับสังคม...ที่ผมอยากทำคือทำไมทุกคนติดอุปกรณ์เหล่านี้ (เน้นเสียง) ทำไมอาการติด เราไม่สามารถสอดแทรกอะไรดีๆ เหตุที่ผมอยากทำคือ เบื่อที่ทุกคนติดมือถือ ติดไอแพด แทนที่จะเล่นเกม ก็สอดแทรกเรื่องภาวนาลงไป เราทำแอพ ชื่อ "ทำมะ ไม่ธรรมดา" น่าจะเสร็จประมาณต้นเดือนกรกฎาคม"

                ความ "ไม่ธรรมดา" ในความหมายของเขาคือ ทำให้ดูสมัยใหม่ ไม่น่าเบื่อ ให้ดูแบบสบายๆ ผ่อนคลาย ทีเล่นทีจริงมากขึ้น

               คำจำกัดความของแอพ "ทำมะ ไม่ธรรมดา" คือ เป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีไว้เพื่อสร้างความสุขแก่คนเมือง เราเน้นคนเมืองที่มีไอแพด ไอโฟน คนเรามีความตั้งใจอยากเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างรอบข้าง ที่ซ้ำซากจำเจ หรือปัญหาที่แก้ไม่ตก เป็นเพื่อนในเวลาคุณเบื่อ เศร้า คิดอะไรไม่ออก หรืออยากเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนใหม่ในที่เดิมๆ บางทีการปลดล็อก ชีวิตทั้งหมด อาจมีตัวคุณเป็นกุญแจดอกเดียวซึ่งจะสามรถอันล็อก และมอบความสดใหม่ให้ได้ตื่นขึ้นจากวิถีชีวิตเดิมๆ

                กุณฑ์อธิบายถึงแอพดังกล่าวว่ามีทั้งหมด 12 หัวข้อ (เพิ่งทำเสร็จ 6 หัวข้อ) เมื่อคลิกเข้าไปข้างในมีสี่ฟังก์ชั่นหลัก จะมีเสียงคนนำเรื่องการภาวนาแบ่งตามกิจกรรมขณะนั้น

               "อย่าใช้คำว่าปฏิบัติธรรมเลย เอาเป็นว่าอยากรู้จักตัวเองมากขึ้น (หัวเราะ) ก็คลิกเข้าไปหมวดนั้นแล้วใส่หูฟัง จะได้ยินเสียงคนพูดนำเรา เสียงคนลีดซึ่งเป็นฆราวาส ไม่มีความเป็นพระ ศาสนา..เน้นการฟังมากกว่าอ่าน ไม่ว่าคุณจะทำกิจกรรมอยู่อะไรก็ฟังได้ จะว่าเหมือนฟังเทศน์ก็ได้ แต่พยายามทำให้การฟังเทศน์ดูสมัยใหม่ขึ้น ก้าวข้ามออกจากจีวร

               สำหรับหัวข้อที่ทำเสร็จแล้ว อาทิ 1) มนุษย์เงินเดือน ทำงานออฟฟิศ 2) ชีวิตบนราง เดินทางบนรถไฟฟ้า ใต้ดิน เจอกลิ่น และอื่นๆ วุ่นวาย ก็ภาวนากับตัวเอง 3) บนถนน รถติดอยู่บนถนน 4) ระหว่างทางเข้า 5) เช็คอินสติกับการเดินทาง เป็นต้น

               "เราดีไซน์เนื้อหา ออกแบบ ส่วนโปรแกรมให้คนอื่นทำ เราอยากขยายกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่คนสนใจธรรมะเดิม หากเข้าไปดูในแอพ ไม่มีภาษีบาลี หรือธรรมะเลย  ผมอยากให้คนเป็นคริสต์ มุสลิม ใช้ได้ ในเรื่องการภาวนา สมาธิ แอพนี้อยากให้ก้าวข้ามความเป็นศาสนามากที่สุด"

               กับคำถามที่ว่าธรรมะเป็นเรื่องของการปฏิบัติ แต่แอพทำมะเป็นเพียง "การฟัง" กุณฑ์อธิบายว่า

               แอพทำหน้าที่หลักคือ 1) สร้างกระแส 2) นำพาสู่การปฏิบัติ อาจไม่ลึกซึ้งมากแต่ระดับหนึ่งนำไปสู่การปฏิบัติ เป็นอินเตอร์แอ็กทีฟทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมมากขึ้น

                "ผมว่าในอนาคตโลกดิจิตอลจะมีมากกว่าภาพ/เสียง มือถืออาจมีกลิ่นก็ได้ ผมเชื่ออย่างนั้น ถ้าเราเข้าสู่ทางนี้ไวกว่าคนอื่น เราจะรู้ว่าอนาคตจะทำอย่างไรกับมัน อีกหน่อยมันต้องมีรูปรสกลิ่นเสียงหมด ชีวิตคนเราจะอยู่ในนี้หมด อีกหน่อยเราต้องไปนั่งภาวนาในเครื่องนี้ (หมายถึงโทรศัพท์มือถือ) แทน ทำไงได้เราไม่สามารถต้านกระแสทุนนิยมที่ถาโถมเข้ามาได้ เราก็เอ้า เข้าไปขลุกเล่นกับมัน อย่างน้อยทำให้อะไรให้มันดีนิดหนึ่ง ดีกว่าแอนตี้ไปเลย เมื่อก่อนเราแอนตี้มาเยอะแล้ว"

                ท่านที่อยากทราบว่าธรรมะบนมือถือเป็นอย่างไร คงต้องอดใจรอสักนิด เพราะหัวหน้าโครงการคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จต้นเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน สสส. ให้ทุน และเครือข่ายสวนโมกข์กรุงเทพฯ และว่าโดยส่วนตัวไม่ได้คาดหวังอะไรจากโครงการนี้ มีความสุขที่ได้สร้างนวัตกรรม และสร้างแพลตฟอร์มใหม่ๆ

                เอาไว้แอพคลอดเมื่อไร ค่อยเช็กเรตติ้งก็แล้วกัน !

 

......................................................

(ทำมะ ไม่ธรรมดา แอพธรรมะบนมือถือ : คอลัมน์คุยนอกกรอบ : โดย...สินีพร มฤคพิทักษ์)