ยัน!นศ.2มทร.กรุงเก่าปัดตีกัน | คมชัดลึก

               จากกรณีที่นักศึกษายกพวกตีกันภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ผศ.จริยา หาสิตพานิชกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)สุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า

               ตนได้โทรศัพท์รายงานเรื่องดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)รับทราบแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นนั้นเกิดจากนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร เพียงคนเดียว ที่ได้แจ้งต่ออาจารย์ว่า จะไม่เข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง เนื่องจากเขาเคยเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งนับถือพระวิษณุ ทำให้เขาไม่อยากเข้าร่วมรับน้องที่จะต้องทำความเคารพต่อพระพิรุณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เด็กเกษตรทุกคนต้องให้ความเคารพนับถือ ซึ่งอาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร และได้ไปแจ้งให้นักศึกษารุ่นพี่รับทราบ ซึ่งทุกคนเข้าใจดี

               "เพราะกิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัยจะต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่มีการบังคับกัน แต่ระหว่างพักเที่ยง มีนักศึกษารุ่นพี่ประมาณ 4-5 คน ที่รู้สึกไม่พอใจรุ่นน้องที่ไม่ทำการเคารพนับถือพระพิรุณ จึงได้เข้าไปสอบถามและตักเตือนที่เขาไม่ยอมเข้าร่วมในกิจกรรมรับน้องแต่ก็ไม่ได้มีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น จนกระทั่งตกเย็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คนดังกล่าวพร้อมด้วยเพื่อนอีก 20 กว่าคนที่มาพร้อมด้วยอาวุธครบมือ ไม่ว่าจะเป็นปืนปากกา ไม้หน้าสามได้เข้ามาในมหาวิทยาลัยและเข้ารุมทำร้ายนักศึกษารุ่นพี่ที่เข้าไปตักเตือน ทำให้นักศึกษาที่ไม่เกี่ยวข้องแต่อยู่ในเหตุการณ์เห็นว่า นักศึกษาสถาบันเดียวกันถูกทำร้ายจึงได้เข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เกิดเหตุการณ์ตะลุมบอนอย่างที่เป็นข่าว" ผศ.จริยา กล่าว

               อธิการบดีมทร.สุวรรณภูมิ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยได้เข้าช่วยเหลือดูแลนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์เรียบร้อยแล้ว โดยนักศึกษา มทร.สุวรรณภูมิได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความปลอดภัยของนักศึกษา มหาวิทยาลัยจึงได้สั่งหยุดการเรียนการสอนในวันที่ 21-25 มิถุนายน 2556 และจะเปิดการเรียนการสอนปกติในวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2556 พร้อมทั้งกำชับนักศึกษาให้ดูแลในเรื่องของความปลอดภัยของตนเอง โดยเฉพาะเมื่อออกนอกสถาบันให้หลีกเลี่ยงการแสดงตนที่บ่งบอกว่า เป็นนักศึกษามทร.สุวรรณภูมิ เช่น การสวมใส่เสื้อช็อป หรือตราสัญลักษณ์ต่างๆ ของสถาบัน รวมถึงได้ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาช่วยสอดส่องความปลอดภัยรอบมหาวิทยาลัย และได้กำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคุมเข้มตรวจคนเข้าออกในมหาวิทยาลัยอีกด้วย

               "ได้มอบหมายให้ทางรองอธิการบดี คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร องค์การนักศึกษา และสโมสรนักศึกษา ไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยจะเรียกนักศึกษาคนดังกล่าวมาสอบปากคำ และหากพบว่า นักศึกษาคนดังกล่าวชักชวนเพื่อนให้เข้ามาก่อเหตุวิวาทในสถาบันการศึกษา ก็จะถูกลงโทษตามระเบียบของมหาวิทยาลัย และขอย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างนักศึกษาของมทร.สุวรรณภูมิ และนักศึกษามทร.กรุงเทพ แต่เกิดจากการผูกใจเจ็บ คึกคะนองของนักศึกษาเพียงคนเดียวที่ต้องการเอาชนะรุ่น ส่วนข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้น่าจะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะจากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักศึกษาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้นั้น ไม่ใช่นักศึกษาของมทร.กรุงเทพ แต่พวกเขาบอกว่าเดินทางมาจากกรุงเทพ" พี่"อธิการบดีมทร.สุวรรณภูมิ กล่าว

               ดร.สาธิต พุทชัยยงค์ อธิการบดีมทร. กรุงเทพ กล่าวว่า ตามที่สื่อมวลชนหลายสำนักได้มีการนำเสนอข่าวว่านักศึกษาจาก มทร.กรุงเทพหรือเทคนิคกรุงเทพ 10 คน เกิดกรณีวิวาทกับ นักศึกษามทร.สุวรรณภูมิ วิทยาเขตหันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา และมีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวนหนึ่งนั้น มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดยได้มีสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเช็ครายชื่อนักศึกษาที่ก่อเหตุแล้ว พบว่า ไม่มีมูลความจริง นักศึกษาที่ก่อเหตุนั้นไม่ใช่นักศึกษาของมทร.กรุงเทพ ดังนั้น จึงอยากแจ้งให้ประชาชนทุกคนได้เข้าใจว่านักศึกษาของมทร.กรุงเทพ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

               ด้าน ดร.วราภรณ์ สีหนาท รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า หลังจากที่ทราบเรื่องสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ได้สอบถามไปยังอธิการบดี มทร.สุวรรณภูมิ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทีทัน พร้อมทั้งทำหนังสือด่วนที่สุดให้ มทร.สุวรรณภูมิ สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากกิจกรรมรับน้อง ให้มหาวิทยาลัยดำเนินการตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เรื่องการจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ในสถาบันอุดมศึกษาอย่างเคร่งครัด และให้มีมาตรการลงโทษตามที่มหาวิทยาลัยได้วางระเบียบไว้ และให้มหาวิทยาลัยมีมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามระหว่างสถาบันด้วย นอกจากนี้ นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการ กกอ. ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ แล้ว

                “ช่วงนี้เป็นฤดูรับน้อง สกอ. และรมว.ศึกษาธิการ ได้กำชับและย้ำทางสถาบันอุดมศึกษาทั้งหมดให้ช่วยดูแลและดำเนินการตามประกาศ ศธ. เรื่องรับน้อง เป็นพิเศษและเคร่งครัด โดยเฉพาะการรับน้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เคารพสิทธิ เสรีภาพและหลักความเสมอภาค ไม่มีความรุนแรง และห้ามล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งร่างกายจิตใจ และให้สถาบันอุดมศึกษามีบทลงโทษทางวินัยกับนิสิตนักศึกษา รวมถึงผู้รับผิดชอบและผู้เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมที่ขัดต่อสิทธิมนุษยชนขึ้นพื้นฐาน หลักความเสมอภาค และกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของสถาบัน ซึ่งที่ผ่านมามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ดำเนินการได้เป็นอย่างดี แต่ยังมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และขอให้มหาวิทยาลัยสวบสวนเรื่องนี้เร็วที่สุด และดูว่าจะต้องลงโทษกับพวกที่ก่อเหตุอย่างไรบ้าง “ ดร.วราภรณ์ กล่าว

 

 

 

ตร.คุมเข้มนักศึกษากรุงเก่าตีกัน

 

               จากกรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทะเลาะวิวาทกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีต่างถิ่น เมื่อเย็นวันที่ 20 มิ.ย. ความคืบหน้าในวันที่ 21 มิ.ย. พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยยะ เพชรปัญญา ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา แบ่งกำลังตั้งจุดตรวจบริเวณถนนหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีที่เกิดเหตุ ด้านถนนสายเอเชียและด้านหลัง รวมทั้งวางกำลังไว้ภายในมหาวิทยาลัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าจะมีการล้างแค้นเกิดขึ้น ซึ่งตลอดทั้งวันปรากฏว่า พบกลุ่มนักศึกษาจากกรุงเทพรวมตัวกันตามจุดต่างๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการเตือนและผลักดันกลับไปยังพื้นที่ ซึ่งพบว่า นักศึกษาบางคนไปรวมตัวบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจนท.ได้แจ้งให้ทราบว่า หากไม่กลับจะดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้การตั้งจุดตรวจตลอดทั้งวันยังพบอาวุธมีด ไม้ซุกซ่อนในรถจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่อ้างว่านำมาเพื่อป้องกันตัว ขณะที่ในมหาวิทยาลัยก็มีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกาะกลุ่มและเตรียมอาวุธไม้เอาไว้ ซึ่งทางอาจารย์ได้เข้าไปตักเตือนและให้แยกย้ายกันกลับไป

               พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสนใจเรื่องที่เกิดขึ้น และได้สั่งการให้ท้องที่มีการปรับปรุงวิธีการในการควบคุมระหว่างการระงับเหตุ เนื่องจากภาพที่ปรากฏเห็นว่า มีการเข้าไประงับเหตุแล้ว แต่ยังมีการวิวาทกันได้ และเบื้องต้นได้มีการตั้งข้อหานักศึกษาที่เข้ามาก่อเหตุในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหาร่วมกันก่อเหตุทะเลาะวิวาท ก็เหตุอื้ออึง และทำร้ายร่างกาย ซึ่งเหตุอื้ออึงสามารถปรับในชั้นการสอบสวนได้ ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายให้ดำเนินคดีชั้นศาล เช่นเดียวกันกับนักศึกษาเจ้าถิ่นที่ร่วมในเหตุการณ์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน

 

 

 

.........................................

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- เปิดศึก!'รุ่นพี่รุ่นน้อง'ซัดกันนัว : http://www.komchadluek.net/detail/20130621/161563/เปิดศึก!รุ่นพี่รุ่นน้องซัดกันนัว.html#source_video