ไลฟ์สไตล์

อารมณ์คุกรุ่นใน'นวัตกรรมศิลปะไทย'

อารมณ์คุกรุ่นใน'นวัตกรรมศิลปะไทย'

20 มิ.ย. 2556

ศิลปวัฒนธรรม : อารมณ์คุกรุ่นใน 'นวัตกรรมศิลปะไทย'

 

                        หากเอ่ยถึงคำว่า "นวัตกรรม" ในบริบทอื่นๆ มักเป็นเรื่องราวของกรรมวิธีและเทคนิคต่างๆ หรือพัฒนาให้ดีขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยที่ต่างออกไป ทว่า "นวัตกรรมในเชิงศิลปะ" นั้นผิดแผกไปเล็กน้อยด้วยเป็นการนำจิตวิญญาณ อารมณ์ และความรู้สึกมาใช้สร้างสรรค์ เป็นคุณค่าของศิลปะไทยที่เจริญงอกงามจากวัฒนธรรมและภูมิปัญญาดั้งเดิม โดยบริบทดังกล่าวคุกรุ่นอยู่ในนิทรรศการ "นวัตกรรมศิลปะไทย" กว่า 30 ชิ้นจาก 10 ศิลปิน ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมศิลปินรุ่นใหม่ได้แสดงนวัตกรรมทางความคิด

                        ก่อนพิธีเปิดนิทรรศการจะเริ่ม โดยมี องค์อร อาภากร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโสของธนาคารฯ และ ผศ.ไพโรจน์ วังบอน ผู้ช่วยอธิการบดี ม.ศิลปากร มาตัดริบบิ้น อ.ธงชัย ศรีสุขประเสิรฐ คณะจิตรกรรมฯ ม.ศิลปากร อาสาช่วยขยายความเกี่ยวกับนวัตกรรมศิลปะไทย โดยกล่าวว่า ความหมายของนวัตกรรมในเชิง "ศิลปะไทย" ก็เหมือนกับเป็นเกลียวทับซ้อน ยิ่งทับซ้อนก็ยิ่งแน่นหนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทุกวันนี้หากไม่มีนวัตกรรมดังกล่าวศิลปะไทยอาจเลือนหายไปก็ได้

                        "ศิลปะแนวนี้เกิดจากเทคนิค ความเชื่อแบบโบราณ น่าจะทำให้คนได้รื้อฟื้นถึงสำนึกบางอย่างที่เราควรจะหวงแหน โดยศิลปินได้แรงบันดาลใจมาจากงานช่างไทยหรือหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยนำเทคนิควิธีการแปลกใหม่มาใช้ อย่างการปรับเปลี่ยนขนาดหรือมาตราส่วนให้ผิดไปจากเดิม การถอดโครงสร้าง การทำให้เคลื่อนไหว จำลอง ล้อเลียน หรือหยิบยืมภาพลักษณ์ที่คุ้นเคยมาเปลี่ยนบริบทหรือความหมายได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งนอกจากจะถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดสมัยใหม่ผสมยุคเก่าแล้ว ยังสะท้อนความรู้หรือภูมิปัญญางานช่างไทยให้ผู้ชมรับรู้ด้วย และเราเชื่อว่าสุนทรีย์ภาพที่เกิดขึ้นตั้งแต่โบราณจะเกิดขึ้นกับคนรุ่นใหม่เรื่อยๆ ส่วนกลวิธีก็สุดแต่ใครจะคิดเห็น" ผู้รู้ กล่าว

                        ใช้เทคนิควิธีการทำว่าว การตัด การเหลา การติดกระดาษก่อเกิดเป็นผลงานเครื่องกระดาษชื่อ "เรือแห่งวิถีชีวิต" คือผลงานไฮไลท์ของนิทรรศการที่ สิทธิโชค วิเชียร ศิลปินปักษ์ใต้ต้องการนำเสนอ โดยรูปทรงที่ปรากฏเป็นเทคนิคเฉพาะตัวที่ติดตัวเขามาแต่วัยเยาว์ ซึ่งสืบทอดจากบรรพบุรุษ ส่วนแรงบันดาลใจมาจากความสัมพันธ์ในวิถีชีวิตทั้งการละเล่น ประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่นใต้ผ่านจินตนาการไร้ขอบกั้น นั่นเองสะท้อนให้เห็นถึงรากเหง้าของวิถีชีวิตที่ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

                        "นวัตกรรมทางศิลปะก็คือการพัฒนาจากวิถีชีวิตของคนไทยมาดัดแปลงเป็นศิลปะ เป็นนวัตกรรมทางความคิดของศิลปิน เป็นรูปแบบหนึ่งของศิลปะ ในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของใหม่ ธรรมชาติสร้างมาทั้งสิ้น อย่างผลงานของผมมุ่งหวังให้ผู้ชมตีความเอง เพราะศิลปินสร้างสรรค์ขึ้นก็เพื่อตอบสนองจิตวิญญาณของตนที่ไม่ได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปลอยๆ แต่หยิบจับมาสร้างสรรค์อย่างที่เห็น..." ศิลปินแดนสะตอ สะท้อนมุมส่วนตัว

                        ส่วนผลงานชื่อ "ล้านนาเบิ่งอีสาน" ของ วทันยา ศิริวรรณ นำเสนอเทคนิคดั้งเดิมอย่างการเย็บปัก แต่พัฒนารูปแบบให้เป็นร่วมสมัยเพื่อง่ายต่อการเข้าถึงคนดูยุคปัจจุบัน เพราะมองว่าบางครั้งอะไรที่เป็นประเพณีมากเกินไปก็อาจจะยากต่อการดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจ อย่างผลงานที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้ พยายามตอบโจทย์ว่าต้องตอบโต้กับศิลปะในพื้นที่ที่เป็นอีสานแต่ตัวเองเป็นคนเหนือ ทำอย่างไรให้คนในพื้นที่นั้นๆ มีอารมณ์ร่วมกับผลงานนี้ จึงเปลี่ยนจากบริบทของภาพจิตรกรรมมาเป็นผ้าปักเพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้คนดู โดยใช้วัสดุผ้าฝ้ายที่หาได้ง่ายๆ จากภาคเหนือ หรือผ้ามัดหมี่ของชาวอีสานมาสอดแทรก เพื่อให้เป็นงานศิลปะที่ดูแล้วนึกถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม

                        เช่นเดียวกับงานเครื่องปั้นดินเผาชื่อ "ไม่เกี่ยว" เทคนิคสื่อผสม (ดินเผา วัตถุพื้นบ้าน) ที่ศิลปินอย่าง เอกชัย จรเณร อยากนำเสนอความเป็นศิลปะพื้นบ้านที่มาจากภูมิปัญญาไทย ด้วยเติบโตมาจากชนบทที่บ้านประกอบอาชีพทำนาทำสวน ชิ้นนี้มีความโดดเด่นที่ความแตกต่างกันของรูปทรง หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเป็นรูปทรงของสัตว์กับของใช้ที่จับมาชนกัน โดยไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นสัตว์ตัวโน้นตัวนี้ แค่อยากให้คนดูแล้วสร้างจินตนาการเอง ซึ่ง 3 ชิ้นที่นำมาจัดแสดงนี้ใช้เวลาสร้างสรรค์กว่าหนึ่งเดือน ใช้วัสดุที่หาได้ตามชุมชนทั่วไป และบางชิ้นมาจากของเก่าที่พ่อแม่เก็บไว้

                        นอกจากจะจัดแสดงผลงานศิลปะเพื่อให้เกิดสุนทรียภาพแล้ว เหล่าศิลปินยังปันน้ำใจจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานศิลป์ให้น้องๆ วัย 9-12 ปีได้เกิดแรงบันดาลใจกับเวิร์คช็อปสอน "การทำว่าวกับศิลปะบันทึก" โดย สิทธิโชค วิเชียร ในวันเสารที่ 22 มิถุนายน และกิจกรรม "เด็กดอยดีไซน์" ตกแต่งเสื้อด้วยการปักลายหรือร้อยด้วยลูกปัด โดย วทันยา ศิริวรรณ เสาร์ที่ 6 กรกฎาคม ก่อนปิดนิทรรศการในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ที่พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน สอบถามโทร.0-2544-3858