ไลฟ์สไตล์

สุนทรภู่ผู้ร่ำไรเรื่องร้างเล่น(แต่จริง)

สุนทรภู่ผู้ร่ำไรเรื่องร้างเล่น(แต่จริง)

16 มิ.ย. 2556

หนังสือที่เธอถือมา : สุนทรภู่ผู้ร่ำไรเรื่องร้างเล่น (แต่จริง) : โดย...ไพวรินทร์ ขาวงาม

 

๑.

 

เดือนเมษายนที่ผ่านมา  ไปเที่ยวทะเลระยองกับครอบครัวสองวันสองคืน  ได้เล่นน้ำทะเล ได้เที่ยว  ได้กิน  ได้ดื่ม  ได้พักผ่อนหย่อนใจกับบรรยากาศของทะเลฤดูร้อน 

                            รายการหนึ่งก็คือ ไปอำเภอแกลง  เพื่อคารวะอนุสาวรีย์สุนทรภู่  ทุกคนที่ไปมีทั้งคนแก่และเด็กๆ  ก็ดูเหมือนจะได้รู้จักและประจักษ์ถึงตัวตนของ ‘สุนทรภู่ครูกลอน’ ตามคำบอกเล่ามาบ้าง  อย่างน้อยก็เห็นรูปปั้นบุคคลหนึ่งที่ดูเหมือนมีความศักดิ์สิทธิ์น่าเกรงขาม  ในแวดล้อมของรูปปั้นพระอภัยมณีเป่าปี่  ผีเสื้อสมุทร  นางเงือก  กระทั่งฤาษีชีเปลือย ที่เด็กๆ เห็นแล้วชอบใจกันใหญ่ แบบ 

                            ‘ประหลาดใจไยหนอไม่นุ่งผ้า 

                            จะเป็นบ้าไปหรือว่าถือศีล

                            หนวดถึงเข่าเคราถึงนมผมถึงตีน 

                            ฝรั่งจีนแขกไทยก็ใช่ที’ 

 

                            ไปถึงก็ได้เช่าดอกไม้ธูปเทียนสักการะ  เจ้าหน้าที่พรรณนาถึงคุณงามความดีของพ่อครู  สามารถขอพรขอความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตได้  คนอื่นที่เขาเป็นชาวบ้านธรรมดาจะคิดจะขออะไรบ้างไม่รู้  แต่ผมในฐานะคนวนเวียนอยู่กับวิชาโคลงกลอน  ก็ขอพรขอพลังและกราบขอบพระคุณท่านด้วยสำนึกในใจ  รู้สึกปีติตื้นตันไปตามประสาความรักและศรัทธาในชีวิตของท่าน  แม้จะรู้ว่านั่นเป็นเพียงรูปปั้น

                            ในบรรดากวีโบราณ  ผมชอบสุนทรภู่มากที่สุด  ชอบอ่านชอบจินตนาการไปตามบทกลอนอันไพเราะของท่าน  ไปแกลงกลับจากแกลง  เกิดแรงบันดาลใจอยากค้นหานิราศของท่านมาอ่าน ทั้งในหนังสือ และในยุคนี้ยังมีเรื่องราวชีวิตและผลงานของท่านให้ค้นคว้ามากมายในสื่ออิเล็กทรอนิกส์       

                            ‘จงทราบความตามจริงทุกสิ่งสิ้น

                            อย่านึกนินทาแกล้งแหนงไฉน

                            นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจ

                            จึงร่ำไรเรื่องร้างเล่นบ้างเอย’

 

                            ลองนึกถึงการ ‘ร่ำไรเรื่องร้าง’ ของท่านเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อนโน้น  (๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙ - พ.ศ. ๒๓๙๘) คงเป็นแบบนักเดินทางท่องเที่ยวผจญภัยศึกษาค้นคว้าวิชาชีวิต  ไม่มีกล้องถ่ายรูป ไม่มีกล้องวีดิโอ ไม่มีโน้ตบุ๊ค ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีคลื่นสัญญาณการสื่อสารทางเทคโนโลยีใดๆ  ไม่มีปากกาหรือสมุดบันทึกกระดาษสวยงาม ท่านคงใช้กล้องชีวิตจิตใจ คลื่นสัญญาณอักษร และอุปกรณ์การเขียนในแบบของท่าน  แต่เมื่อได้อ่านนิราศร่ำไรเรื่องร้างแล้ว รู้สึกเหมือนได้อ่านสารคดีชีวิตและการเดินทาง ได้เห็นภาพได้ยินเสียงเคียงสัมผัสเหลือคณา นอกจากได้รับความรู้ ยังมีอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของท่าน มโนธรรมสำนึกของท่าน ร่องรอยประวัติชีวิตของท่าน ประวัติของสุนทรภู่ที่เราเรียนรู้กันนั้น ล้วนมาจากการแกะรอยตัวอักษรของท่าน แม้แต่บุคลิกลักษณะหน้าตาของท่านที่ปรากฏเป็นรูปวาดรูปปั้น ก็น่าจะเป็นการจินตนาการมาจากตัวผลงานที่อาจบ่งบอกประมาณนั้น คงไม่มีผู้ใดในยุคสมัยของเราเคยเห็นหน้าเห็นตาจริงๆ ของท่านเป็นแน่แท้   

 

๒.

 

ค้นเจอหนังสือเล่มหนึ่งของ อาจารย์ล้อม  เพ็งแก้ว  ซื้อไว้ในวันสุนทรภู่  เมื่อ ๙ ปีที่แล้ว แต่ยังไม่ได้อ่าน

                            ‘ถูกใส่ร้ายป้ายสีเป็น อาลักษณ์ขี้เมา  แต่แท้จริงคือ...สุนทรภู่ : อาลักษณ์เจ้าจักรวาล’

                            เป็นการย่อยเรื่องสุนทรภู่  นำเสนอวิเคราะห์บางฉากบางตอนอย่างน่าสนใจ  โดยเฉพาะพูดถึงเรื่อง ‘นิราศเมืองแกลง’  ที่สุนทรภู่เดินทางไปเยี่ยมบิดาซึ่งบวชอยู่ที่วัดบ้านกร่ำ อำเภอแกลง  จังหวัดระยอง  กระทั่งต่อมาเมืองแกลง  เมืองระยอง  มีความรู้สึกกลายเป็นเมืองสุนทรภู่ไปโดยปริยาย  ทั้งที่ว่ากันว่าสุนทรภู่เกิดที่วังหลังฝั่งธนบุรี  เมืองแกลงเป็นเพียงทางผ่านของนักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น

                            ในเล่ม ยังมีบทความเรื่อง ‘อนุสาวรีย์สุนทรภู่’ โดย เสวตร  เปี่ยมพงศ์ศานต์  ว่าด้วยการริเริ่มสร้างอนุสาวรีย์เมื่อปี ๒๔๗๘ สมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี

                            ครับ-จะเก็บความบางส่วนมาเล่าต่ออีกในเดือนสุนทรภู่นี้!

 

 

--------------------

(หนังสือที่เธอถือมา : สุนทรภู่ผู้ร่ำไรเรื่องร้างเล่น (แต่จริง) : โดย...ไพวรินทร์ ขาวงาม)