ไลฟ์สไตล์

ลดโรคร้ายรอบรั้วจักรีบงกช

ลดโรคร้ายรอบรั้วจักรีบงกช

12 มิ.ย. 2556

ลดโรคร้าย รอบรั้วจักรีบงกช : สารพันความงาม

 

                          นับตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในช่วงปลายปีก่อน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงพระกรุณาพระราชทานพื้นที่ส่วนพระองค์และจัดตั้งหน่วยแพทย์มารักษาชาวบ้านที่เดือดร้อนโดยรอบพื้นที่พระตำหนักจักรีบงกช ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นเสมือนรั้วบ้านของพระองค์เอง ในทุกเช้าวันจันทร์อย่างทั่วถึง โดยปัจจุบันหน่วยแพทย์พระราชทานจักรีบงกชได้เปิดรักษามาแล้วกว่า 21 สัปดาห์ มีผู้เข้ารับบริการกว่า 1,386 คน ล่าสุดคณะแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลปทุมธานี ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลกปี 2556 ภายใต้แนวคิดขององค์การอนามัยโลก "ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต" โดยเริ่มเปิดให้บริการตรวจโรคปอดในบริเวณพระตำหนักอย่างครบวงจรไปเมื่อวันก่อน

                          ศ.กิตติคุณ นพ.จรัส สุวรรณเวลา รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ตลอดเวลากว่า 20 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนในชุมชนใกล้เคียงและอำเภออื่นๆ เข้ามารับการตรวจโรคกว่าสัปดาห์ละ 150-200 คน สืบเนื่องต่อจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่มาเรื่อยๆ โดยสามารถขยายผลรักษาประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคร้ายตั้งแต่ต้นๆ ได้หลายร้อยหลาย

                          “ในโอกาสวันงดบุหรี่โลก ทางหน่วยแพทย์ได้จัดการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคปอดให้ประชาชนมีความรู้ว่าบุหรี่นั้นเป็นต้นเหตุของโรคมะเร็งปอดและมะเร็งอื่นๆ อีกมากมาย และการตรวจคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงสูง สูบบุหรี่จัดติดต่อกันมา 30 ปี อายุ 50-70 ปี จะได้ตรวจด้วยเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงโดยละเอียด เพื่อให้รักษาได้ทันท่วงที ตั้งแต่ระยะแรกๆ หากตรวจพบโรคปอด ระบบทางเดินหายใจ กล้ามเนื้ออ่อนแรง กระดูกเสื่อม และมะเร็งร้ายก็จะประสานทีมแพทย์โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และหน่วยรักษาพยาบาลในชุมชนให้ดูแลอย่างใกล้ชิดทันที โดยในอนาคตหน่วยแพทย์พระตำหนักจักรีบงกชมีโครงการที่จะตรวจกรองโรคตาให้มากขึ้น และเสริมความรู้ให้ประชาชนคิดว่ามะเร็งเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้ ถ้าเริ่มต้นดูแลตัวเองและตรวจหาโรคมะเร็งอย่างสม่ำเสมอ หาเจอในระยะแรกก็จะหายขาดได้ไม่ยากอย่างที่คิด” รองประธานสถาบัน กล่าว

                          นอกจากการรักษาที่ชาวบ้านจะได้รับจากคณะแพทย์ ในบางรายทางด้านความเป็นอยู่ก็ต้องได้รับความช่วยเหลืออีกเช่นกัน โดย ชินทัต วิภาสธวัช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี กล่าวเสริมว่า จากโครงการนี้ทำให้ปัจจุบันมีผู้ป่วย 39 ราย ที่ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากพัฒนาสังคม ที่เป็นโรคร้ายแรง พิการซ้ำซ้อน ยากต่อการรักษา และมีฐานะยากจนไม่สามารถดูแลตัวเองได้ โดยได้รับค่าใช้จ่ายต่อเดือนเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาททุกเดือน หรือถูกส่งไปอยู่ในสถานสงเคราะห์ที่เหมาะสม ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ทอดทิ้งประชาชน ทำให้คนในประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

                          ปิดท้ายที่ความปลาบปลื้มใจของ สถิต สำเนียงเสนาะ อายุ 66 ปี ที่เข้ารับการรักษาโรคปอดจนอาการดีขึ้น บอกว่ารู้จักหน่วยแพทย์นี้จากคำบอกเล่าของคนรู้จัก จนกระทั่งตัวเองรู้สึกถึงความผิดปกติในตัวเอง จึงมาเข้ารับการตรวจ และพบว่าเป็นวัณโรค แต่โชคดีที่ยังไม่ร้ายแรงมาก และคณะแพทย์ก็รีบรักษาให้ทันทีไม่ปล่อยปละละเลย ทำความเข้าใจให้เรารู้จักรักษาตัวเองเป็นอย่างดี ดีใจที่โครงการของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เป็นที่พึ่งของประชาชนธรรมดา ไม่มีรายได้มากมายได้เป็นอย่างดี ถ้าไปรักษาด้วยตัวเองอาจจะไม่ทันกาล เพราะค่าใช้จ่ายสูงเกินไป