ไลฟ์สไตล์

พื้นที่สงวนชีวมณฑล @ ระนอง

พื้นที่สงวนชีวมณฑล @ ระนอง

09 มิ.ย. 2556

พื้นที่สงวนชีวมณฑล @ ระนอง : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม : โดย...เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์

                เมืองระนอง ไม่ได้มีดีแค่เรื่องแร่ และมีบ่อน้ำพุร้อนคุณภาพดี แต่ทุกวันนี้ระนอง เป็นเหมือนไข่มุกเม็ดงาม ที่เผยโฉมให้เห็น ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม เป็นเมืองสำคัญชายฝั่งอันดามันที่มีอาณาเขตติดต่อกับพม่า เป็นแหล่งขึ้นชื่อเรื่องสินค้าอาหารทะเลสด ไปจนถึงกะปิ และปูเค็ม

                จุดที่แคบที่สุดของแผ่นดินไทย ก็อยู่ที่จังหวัดนี้  คือ คอคอดกระ อ.กระบุรี และเป็นจุดที่อยู่ห่างจากพม่าเพียง 100 เมตรเอง และด้วยความที่เป็นเมืองชายฝั่ง จึงไม่แปลกใจที่ตลอดแนวชายฝั่งของระนอง จะเป็นพื้นที่ป่าชายเลน

                ป่าชายเลนของ จ.ระนอง ก็ไม่ได้ต่างจากป่าชายเลนทั่วไป เพราะเป็นพื้นที่ที่มีต้นไม้ชายเลนหลายชนิดขึ้นผสมผสานกันไป ทั้งโกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ ลำพู ลำแพน โปร่งแดง แสมดำ แสมขาว และอีกสารพัดชนิด แต่ที่ตื่นตาตื่นใจ เห็นจะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ของป่าชายเลน

                กระทั่งมีการจัดสรรกันพื้นที่เป็นส่วนวิจัย ภายใต้ศูนย์วิจัยป่าชายเลน สังกัดกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง ในปี 2525 มีสำนักงานตั้งอยู่ใกล้ปากคลองหงาว ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง ที่นี่จะทำงานด้านการส่งเสริม อนุรักษ์ และวิจัยป่าชายเลน แนวคลองหงาว และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งแต่เดิม พื้นที่แถบนี้เคยเป็นพื้นที่สัมปทานทำไม้ป่าชายเลน และเหมืองแร่ มาก่อน  

                ส่วนที่เป็นพื้นที่สัมปทานเก่านี่เอง ปัจจุบันฟื้นฟูกลายเป็นสวนรุกขชาติป่าชายเลน มีเนื้อที่ 150 ไร่ จัดทำเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีสะพานคอนกรีตทอดยาวเข้าไปในป่าชายเลน เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป มีความยาว 850 เมตร

                ฉันเดินไปตามสะพานที่ทอดผ่านดงต้นไม้ชายเลน ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากการเดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งอื่นๆ อยู่อย่างหนึ่งก็คือ ต้นไม้ที่ป่าชายเลนแห่งนี้ เป็นต้นสูง ใหญ่ ทำให้สภาพพื้นที่เหมือนป่าโปร่ง รากและต้นโกงกางสูงใหญ่ ต่างจากที่อื่น ที่จะให้ความรู้สึกต้นไม้เล็กกว่า แน่นกว่า ส่วนโกงกางต้นเก่าแก่ อายุกว่า 200 ปี อยู่ที่ปากคลองหงาว เป็นต้นที่มีขนาดใหญ่สุด วัดรอบต้นได้ 2 เมตร สูง 32 เมตรเข้าไปแล้ว ถ้าใครอยากเห็น คงต้องนั่งเรือออกไปดู

                วันที่ไป เป็นช่วงน้ำลงพอดี เลยได้เห็นปูตัวเล็กๆ ออกมาวิ่งเล่น ปลาตีนตัวเล็กๆ ออกมาเดินเล่น

                 ดร.วิจารณ์ มีผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยป่าชายเลนระนอง บอกว่า จากที่ได้ศึกษา สำรวจและวิจัย พบว่า ที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก มีปูถึง 54 ชนิด หอย 23 ชนิด ปลาอีกหลากหลายชนิด และกุ้ง รวมถึง “แม่หอบ” หรือ Mud Lobster สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ หน้าตาคล้ายกุ้งมังกรย่อส่วน และอาศัยอยู่ในดินโคลน ที่ก่อขึ้นตามแนวรากไม้ในป่าโกงกาง มองดูเหมือนภูเขาไฟ นอกจากนี้ ยังมีลิง และนก ซึ่งที่นี่เขาสำรวจพบถึง 106 ชนิด

                จากความหลากหลายของธรรมชาติป่าชายเลนนี่เอง ทำให้เกิดกระบวนการทำงานศึกษา วิจัย ร่วมกับยูเนสโก และรวบรวมพื้นที่ป่าชายเลน, พื้นที่ทะเล และพื้นที่ชุมชน จดทะเบียนเป็น พื้นที่สงวนชีวมณฑลโลก ระนอง ครอบคลุมพื้นที่ 189,375 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่แกนกลาง 4 หมื่นไร่, พื้นที่กันชนกว่า 2.6 หมื่นไร่ เป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่ผ่อนปรนให้ชุมชนใช้ประโยชน์ได้จากการทำประมงขนาดเล็ก และที่เหลือเป็นพื้นที่รอบนอก ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชน ที่พัฒนาด้านเศรษฐกิจได้

                การอยู่ร่วมกันของผืนป่าและสัตว์น้ำเล็กๆ วัยอนุบาล ถือเป็นการพึ่งพากัน ไม่ต่างจากการอยู่ร่วมกันของชุมชนและผืนป่า ถ้าชุมชนเข้มแข็ง ผืนป่าก็แข็งแรงเป็นแหล่งอาหาร ปากท้องให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

                และถ้าใครอยากฟอกปอด ไปเดินเล่นในป่าโกงกางสักรอบ รับรองได้เหงื่อ และออกกำลัง และ ... สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด

 

..............................................

(พื้นที่สงวนชีวมณฑล @ ระนอง : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม : โดย...เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์)