ไลฟ์สไตล์

ขอนแก่นเด๊ สุรินทร์เหลา ระยองฮิ

ขอนแก่นเด๊ สุรินทร์เหลา ระยองฮิ

09 มิ.ย. 2556

หนังสือที่เธอถือมา : ขอนแก่นเด๊ สุรินทร์เหลา ระยองฮิ : โดย...ไพวรินทร์ ขาวงาม

ขอนแก่นเด๊ สุรินทร์เหลา ระยองฮิ

๑.

 

‘สุรินทร์เหลา’

                         พอดีเดินทางไปสุรินทร์ ก็เลยได้ยินสร้อยสำเนียงพูดแบบ เหลา, หยี, ยิ๊, ตั๊วะ  ที่คุ้นเคยตั้งแต่เคยอยู่สุรินทร์ รวมทั้งได้ฟังเพลง ‘สุรินทร์เหลา’ ของนักร้องชาวสุรินทร์

                         คนสุรินทร์ มักพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงแบบพื้นบ้านเขมรของเขา คนพูดเขมรพื้นถิ่นเวลาพูดภาษากลาง จะเหน่อเป็นเสน่ห์เฉพาะ ได้ยินได้ฟังแล้วน่ารัก มีอารมณ์ขัน แต่ไม่ได้ตลกขบขันในทางดูหมิ่นถิ่นแคลน เหลา-เป็นทั้งคำถาม คำตอบ หรือการพูดทั่วไป แบบคนสุรินทร์ อะไรๆ ก็เหลา...

                         ‘รู้ได้อย่างไรเหลาว่าผมเป็นคนสุรินทร์’

                         ‘ก็ผมเป็นคนสุรินทร์เหลา’

                         ตอนอยู่สุรินทร์ พูดอะไรก็ติดเหลาไปกับเขา แม้จะไม่ใช่คนสุรินทร์โดยกำเนิด แต่มีพื้นเพภาษาเดียวกับคนสุรินทร์ มันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของภาษาที่แวดล้อมเราอยู่ เหมือนที่พอไปอยู่ขอนแก่น ก็กลายไปติดปากคำว่า ‘ขอนแก่นเด๊’ 

                         เหมือนที่คนระยอง เขามีคำว่า ‘ระยองฮิ’ เที่ยวระยองวันสองวัน ได้ยินคำนี้จนพลอยติดปากไปด้วย มันเป็นสร้อยสำเนียงที่มีอารมณ์ขัน แม้ยั่วให้คิดถึงเรื่องนั้นๆ แต่ก็ไม่ได้มีความหมายไปถึงเรื่องนั้นๆ 

                         ไประยอง ต้องซื้อของฝาก พวกกะปิ ปลาหมึก ปลาเค็ม แต่สิ่งหนึ่งที่กลายเป็นสินค้ายอดนิยม ผลิตขายเป็นล่ำเป็นสัน หลายแบบหลายประเภท นั่นก็คือเสื้อยืดที่พิมพ์บนอกเสื้อด้วยคำว่า ‘ระยองฮิ’ 

                         ไประยอง ยังต้องซื้อเสื้อยืดแบบนี้ ผมซื้อมาหลายตัว เข้าใจว่าเป็นสินค้าทำเงินมากมายในระยอง เพียงแค่เสื้อยืดและคำมีเสน่ห์เฉพาะถิ่นสั้นๆ ‘ระยองฮิ’

                         เข้าใจว่าคนสุรินทร์อาจจะมีเสื้อยืด ‘สุรินทร์เหลา’ ขอนแก่นอาจมี ‘ขอนแก่นเด๊’ หรือ ‘ขอนแก่นเด๊ล่ะ’  หรือคำเฉพาะถิ่นที่มีเสน่ห์อีกมาก ถ้ายังไม่มีต่อไปก็น่าจะมี เพราะเสื้อยืดเป็นพื้นที่หนึ่งในการใช้ภาษา จะจริงจัง ธรรมะธัมโม ให้คติเตือนใจ เสียดสี ประชดประชัน ยั่วล้อ หรือตลกขบขัน ก็เป็นการใช้ภาษา 

                         บางแห่งใช้แค่ชื่อจังหวัดหรืออำเภอ หารูป หาสีสัน หาคำขวัญ หาคำคม มาใส่ให้สวยหน่อย ก็ทำให้เสื้อยืดที่ซื้อสำเร็จมาเป็นโหลๆ กลายเป็นสินค้าที่ระลึกตามการออกแบบสร้างสรรค์ เช่น ‘เชียงใหม่’ ‘ปาย’ ‘เลย’ ‘เชียงคาน’ ‘เสม็ด’ ‘เขาค้อ’ ‘ภูหินร่องกล้า’ ‘ภูเก็ต’ ‘หาดใหญ่’ ฯลฯ  

                         ไป ‘มาเลเซีย’ ‘กัวลาลัมเปอร์’ ‘มะละกา’ ‘เวียดนาม’ ‘ฮานอย’ ‘ฮาลองเบย์’ ‘ลาว’ ‘เวียงจันทน์’ ‘หลวงพระบาง’ ‘เขมร’ ‘เสียมเรียบ’ ‘พนมเปญ’ ก็เต็มไปด้วยเสื้อยืดที่ลงชื่อบ้านนามเมืองในแต่ละท้องถิ่นของเขา ผมเป็นคนนิยมเสื้อยืด เป็นเสื้อยืดที่ระบุชื่อสถานที่ (มากกว่าจะเป็นเสื้อยืดที่ลงรูปบุคคล) เสื้อยืดเต็มบ้าน สุ่มหยิบเสื้อยืดมาใช่แต่ละวัน ก็จะเจอชื่อบ้านนามเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะ  (เรียกสู่อาเซียนด้วยเสื้อยืดก็ว่าได้)

 

๒.

 

นอกจากภาพถ่าย ชื่อบ้านนามเมือง และเสน่ห์ภาษาแล้ว ยังเคยเห็นหลายคนใช้โคลงกลอนไปพิมพ์ลงบนเสื้อยืด อย่างที่เมือง ‘ระยองฮิ’ แถวเมืองแกลงนั้น เขาก็ใช้ต้นทุนหนึ่งก็คือ กลอนของท่านสุนทรภู่

                         เพียงแต่บางที ก็เห็นใช้แต่กลอนท่าน ไม่ลงชื่อท่าน หรืออาจตั้งใจให้ตกหล่นเพราะคิดว่าคนรู้แล้ว ผมว่าน่าเสียดายนะครับ แค่ชื่อ ‘สุนทรภู่’ สามพยางค์จะพิมพ์ลงไปด้วยก็ไม่ได้ลงทุนอะไร จะยิ่งทำให้มีค่ามีเสน่ห์ขึ้นด้วยซ้ำ จริงอยู่เราอาจรู้จักกันแล้วว่ากลอนบทนี้บทนั้นเป็นของท่าน แต่การลงชื่อก็เป็นการสืบทอดความความเข้าใจไปข้างหน้า ลูกหลานอ่านเห็นจะได้รู้ว่านี่เป็นกลอนของท่าน 

                         ผมว่าน่าจะมีคนแปลกลอนบทเด่นๆ ของท่านเป็นภาษาอังกฤษ แล้วทำเสื้อยืด นักท่องเที่ยวต่างชาติเขาจะได้อ่านและรู้ความหมายด้วย

                         เคยเห็น ธนาคารแห่งหนึ่งทำกระปุกออมสินแจกลูกค้า ลงทุนพิมพ์กลอนบท ‘มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ เมื่อมีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน’  รู้สึกชื่นชมที่ธนาคารเห็นคุณค่าบทกลอน แต่น่าเสียดาย ไม่ลงชื่อกวีเสียนี่...

                         ในวันสุนทรภู่-ผมจะมีโอกาสได้ไปเมืองแกลงอีกครั้ง เพื่อคารวะ ‘อนุสาวรีย์สุนทรภู่’ และร่วมเปิดร้านหนังสือชื่อ ‘สุนทรภู่’ คงได้สำรวจเสื้อยืด‘ระยองฮิ’ และบทกลอนสุนทรภู่ อีกรอบ!

 

 

--------------------

(หนังสือที่เธอถือมา : ขอนแก่นเด๊ สุรินทร์เหลา ระยองฮิ : โดย...ไพวรินทร์ ขาวงาม)