ไลฟ์สไตล์

'มะขามแปรรูป'สแน็กพื้นบ้าน'โกอินเตอร์'

'มะขามแปรรูป'สแน็กพื้นบ้าน'โกอินเตอร์'

29 พ.ค. 2556

ตำรับมะขามแปรรูป 'สารัช' สแน็กพื้นบ้าน 'โกอินเตอร์' : โดย...ธานี กุลแพทย์

 

                           ความสำเร็จอีกก้าวของผลิตภัณฑ์มะขามแปรรูปแบรนด์ "สารัช" สแน็กพื้นบ้านจากถิ่นเพชรบูรณ์ นำโดยชายหนุ่มวัย 30 ปี สารัช กมลธรไท ที่มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจครอบครัว จนก้าวสู่ความเป็นเบอร์หนึ่ง ขณะที่ผลิตผล 30% ขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ด้วยชูความโดดเด่นด้านคุณภาพ รสชาติความอร่อย และการเข้าร่วมโครงการของรัฐเป็นอีกแรงผลักที่ทำให้บรรลุเป้าหมายยิ่งขึ้น

                           สารัช กมลธรไท ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สารัชมาเก็ตติ้ง จำกัด ทายาทหนึ่งเดียวของ จินดา-สุภาลักษณ์ กมลธรไท ที่ทั้งคู่ได้ถอยห่างมายืนเป็นที่ปรึกษาตลอด 4-5 ปี บอกว่า หลังจบการศึกษาภาคอินเตอร์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล ได้กลับบ้านเพื่อรับช่วงธุรกิจการแปรรูปมะขามแบรนด์ "สารัช" ต่อจากครอบครัว ซึ่งตั้งอยู่ที่ 113 หมู่ 11 ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์

                           โดยเขาบอกว่า ด้วยบริษัทเป็นเจ้าแรกที่ผลิตมะขามแปรรูป ถึงตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ 9 รายการ คือ มะขามจี๊ดจ๊าด มะขามคลุกจี๊ดจ๊าด มะขามแก้ว มะขามเคี้ยวหนึบ มะขามแช่อิ่ม มะขามเปียก น้ำมะขามพร้อมดื่ม และมะขามฝัก ซึ่งตลอดกว่า 10 ปีที่ครอบครัวดำเนินธุรกิจนี้นับแต่ปี 2545 ประสบผลสำเร็จด้วยดี โดยเฉพาะชื่อเสียงด้านคุณภาพ รสชาติความอร่อยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนได้รับการกล่าวขานเป็นต้นตำรับมะขามแปรรูปของ จ.เพชรบูรณ์

                           ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายมากสุดคือ มะขามคลุกจี๊ดจ๊าด แบบกระปุก ขนาดบรรจุ 160 กรัม โดยวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อและร้านขายของฝาก สัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 60-70% ส่วนอื่นๆ เช่น มะขามแก้ว มะขามเคี้ยวหนึบ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ประเภทร้านสะดวกซื้อในประเทศ และลูกค้าต่างประเทศที่เน้นกลุ่มเอเชียเป็นหลัก มีสัดส่วนการตลาด 70 และ 30

                           ทว่า ในความสำเร็จนั้น "สารัช" ยอมรับว่า ที่ผ่านมาก็มีปัญหาเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องวัตถุดิบและแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อภาคการผลิต ในส่วนของมะขามซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักจะซื้อและถูกนำมาเก็บในห้องเย็นเพื่อรอการผลิตบางครั้งทำให้ไม่ได้คุณภาพ ขณะที่แรงงานซึ่งใช้คนในพื้นที่ทั้งหมดจะต้องมีการเสริมสร้างภูมิอยู่ตลอดเพื่อร่วมพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐาน

                           ดังนั้น บริษัทจึงเข้าร่วมพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค โครงการของกระทรวงอุตสาหกรรม นับแต่ปี 2551 ถึงปัจจุบัน โดยบริษัทเลือกพัฒนา 2 แผน คือ แผนปรับปรุงคุณภาพและพัฒนางาน ซึ่งทีมที่ปรึกษาพบว่า กระบวนการผลิตมีการปนเปื้อนจากวัตถุดิบ เครื่องบรรจุกระปุกแบบอัตโนมัติยังไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้ สุดท้ายมีการตกหล่นระหว่างบรรจุทำให้กลายเป็นของเสีย ซึ่งหลังดำเนินการ (ม.ค.-พ.ค.2555) พบว่าลดจำนวนผู้ใช้แรงงานและลดการสูญเสีย วัดมูลค่ากว่า 697,000 บาท   

                           ส่วนอีกแผน "สารัช" บอก คือ ยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์/ระบบมาตรฐานสากล ทีมที่ปรึกษาได้เสนอรายละเอียดเพื่อยกระดับ ระบบมาตรฐานสากล ISO 22000 เป้าหมายเพื่อพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพระดับสากล อีกทั้ง เพิ่มศักยภาพในการเปิดตลาดอาเซียน ซึ่งหากบริษัทพัฒนาไปสู่ระบบนี้ได้ คาดจะมีการเติบโตของยอดขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 10% เป็น 20% คิดเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทต่อปี

                           ทั้งนี้ สารัช ยอมรับว่า แผนการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของเขาจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป นอกจากยึดหลักความพอเพียง ความเชื่อมั่นในตัวสินค้าแล้ว การใช้ระบบโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นอีกหนทางที่ต้นทุนถูกที่สุด และเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่องด้วย

 

 

--------------------

(ตำรับมะขามแปรรูป 'สารัช' สแน็กพื้นบ้าน 'โกอินเตอร์' : โดย...ธานี กุลแพทย์)