สวดยับ!เปิดช่องนร.หญิงซอยผมได้ | คมชัดลึก

 

                      16 พ.ค.56 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณี ศธ.เตรียมเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติ การแต่งกาย และแบบทรงผมของนักเรียนนักศึกษา พ.ศ....ให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ  ซึ่งสาระสำคัญของระบบดังกล่าวเปิดช่องให้นักเรียนหญิงไว้ทรงผมยาว สั้น หรือซอยผมได้ว่า ร่างระเบียบดังกล่าวเป็นเสมือนกับผ่อนคลาดกฎกติกาลงเท่านั้น แต่นักเรียนจะเลือกทางใด เป็นสิทธิส่วนบุคคล ขึ้นอยู่กับค่านิยมและวัฒนธรรมของโรงเรียนด้วย สพฐ.เองไม่ได้มีอะไรไปบังคับ ขอให้นักเรียนมาตกลงกันเอง ถ้ารุ่นพี่หรือประชาคมคิดว่าจะใช้ทรงผมอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน ก็ขอให้ตกลงกัน เพราะถือว่าเป็นสิทธิของนักเรียน

                      ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองมีข้อห่วงใยว่าการให้อิสระนักเรียนในการซอยผมได้ จะทำให้เด็กตามแฟชั่นมากขึ้น รวมถึงอาจจะทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมได้นั้น ก็เห็นด้วย ดังนั้นจึงขอให้ทุกโรงเรียน เน้นย้ำกับนักเรียน ว่าแม้ศธ.จะผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับทรงผม แต่ก็ขอให้นักเรียนคำนึงถึงกรอบของความเหมาะสม ความพอดี เพราะเราทุกคนมีหน้าที่ และการเป็นนักเรียนจะต้องมุ่งเน้นหลักสำคัญคือตั้งใจเรียน และถ้ามัวแต่ไปมุ่งเกี่ยวกับเรื่องทรงผม เรื่องการแต่งกายจะทำให้จิตใจไขว้เขวออกไปจากการเรียนได้ และอาจจะทำให้ผู้ปกครองมีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อยากฝากถึงนักเรียนว่า อิสระเรามีได้ แต่ต้องคำนึงถึงความพอดีและเหมาะสม

                      ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนให้ตัดคำว่า “ห้ามนักเรียนซอยผม“ ออก เพราะเห็นว่า เวลานักเรียนชายตัดผมจะต้องมีการซอย หรือแม้กระทั่งทรงรองทรงก็ต้องมีการซอย ดังนั้นร่างเดิมที่กำหนดว่า ห้ามนักเรียนซอยผม อาจจะทำให้มีการตีความไปในทางที่ผิด จึงคิดว่า คำว่าห้ามซอยผม ถ้าทิ้งไว้จะทำให้มีปัญหา เลยต้องตัดออก แต่ตามหลักการก็คือ นักเรียนผู้ชายตัดผมรองทรง ส่วนนักเรียนหญิงสั้นก็ได้ ยาวก็ได้ แต่ขอให้รวบให้เรียบร้อย

                      “ผมไม่คิดว่าคำว่าซอยผมมีปัญหา แต่สิ่งที่เรากลัวคือ เวลาบอกห้ามซอย เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมที่ตัดออกมาจะซอยไม่ได้เลย ซึ่งผิดธรรมชาติของการตัดผม และคิดว่าคำว่าซอยผม เป็นส่วนหนึ่งของการตัดผม ส่วนที่ตัดคำว่าคำว่า “โรงเรียน อาจกำหนดแบบทรงผมได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้ โดยให้รับฟังความคิดเห็นและทำประชาพิจารณ์ร่วมกับนักเรียนให้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการสถานศึกษาก่อน” ออก จากร่างดังกล่าวด้วย ก็เพื่อต้องการให้เกิดความเท่าเทียม ไม่ไปริดรอนสิทธิของนักเรียน ไม่ใช่เป็นการร่างระเบียบขึ้นมาเพื่อเอาใจเด็ก สิ่งสำคัญคือเรากำลังสอนให้เด็กเป็นคนที่มีเหตุผลในสังคมประชาธิปไตย ที่เวลาจะทำอะไรต้องมีเหตุมีผล รู้จักคิด ถ้าเราบอกให้เขาตัดทรงเกรียนเหมือนสมัยก่อน ก็ต้องถามว่ามีเหตุผลอะไรที่จะไปบอกให้เขาตัดทรงนั้น เมื่ออธิบายไม่ได้ และสั่งให้เด็กทำ ก็เท่ากับเป็นการสอนให้เด็กรับคำสั่ง ที่ไม่มีเหตุผล” นายพงศ์เทพ กล่าว

                      ด.ญ.นภัส พฤกษ์ศรีสาคร นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนสตรีวิทยา กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่กระทรวงศึกษาธิการจะออกกฏระเบียบให้นักเรียนสามารถซอยผมได้ การเป็นนักเรียนจะต้องปฏิบัติตามระเบียบวินัย และกฏก็ต้องเป็นกฏ ยิ่งการเปิดกว้างให้นักเรียนมีอิสระในเรื่องทรงผมจะทำให้ นักเรียนแข่งขันเรื่องแฟชั่นมากขึ้น ส่วนเด็กผู้หญิงก็จะรักสวยรักงามมากขึ้น อาจจะทำให้เกิดปัญหาถูกล่อลวงไปทำมิดีมิร้าย เพราะเมื่อเราแต่งตัวสวยขึ้นคนก็จะมอง แต่ถ้าเราแต่งตัวอยู่ในระเบียบวินัยเรียบร้อย คนก็จะไม่สนใจเพราะเห็นว่าเราเป็นเด็ก

                      ด้านนางเนตรสุรางค์ ก้องสิทธิโชค ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนสตรีวิทยา กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย เพราะเด็กก็คือเด็ก ไม่เข้าใจว่าศธ.จะส่งเสริมให้เด็กแข่งขันแต่งตัวกันไปถึงไหน หากเด็กแต่งตัวเป็นสาวคนก็จะมอง และเด็กก็จะแข่งกันแต่งตัว ซึ่งเห็นว่าเด็กยังมีอย่างอื่นให้ต้องสนใจมากกว่าเรื่องนี้ เช่น การตั้งใจเรียน

                      "จริงๆ อยากให้กลับไปใช้ระเบียบเดิมที่กำหนดให้เด็กตัดผมสั้น และทรงเกรียนเหมือนกันทุกคน เพื่อไม่ให้เกิดการเปรียบเทียบ และไม่ต้องมาแข่งขันกันเรื่องแต่งตัว เพราะทุกวันนี้เด็กก็แข่งกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้าที่จะต้องเป็นของแบรนด์เนม ถ้าปล่อยให้เป็นอิสระมากเกินไปก็จะทำให้เกิดความฟุ้งเฟ้อมากขึ้น ที่สำคัญเด็กผู้หญิงก็จะอันตราย ยิ่งเด็กหน้าตาดีหากแต่งสวยก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาถูกทำมิดีมิร้ายได้" นางเนตรสุรางค์ กล่าว

                      น.ส.มนทิตา เพ็ชรอุดม นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนสตรีวิทยา กล่าวว่า ได้รู้ข่าวเรื่องระเบียบทรงผมใหม่จากผู้ปกครองเมื่อเช้า ส่วนตัวรู้สึกเห็นด้วย ซึ่งเท่าที่คุยกับคุณพ่อก็เห็นด้วยกับระเบียบนี้เช่นกัน เพราะคุณพ่อมองว่าเด็กสมัยนี้ควรจะต้องให้อิสระบ้าง แต่จะต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะสม แต่ตนเองก็ตั้งใจจะไว้ผมยาว และรวบผมตามที่โรงเรียนขอความร่วมมือว่าใครที่ไว้ผมยาวจะต้องรวบผม และผูกด้วยโบว์สีขาว

                      นางจำนงค์ แจ่มจันทร์วงษ์ ผอ.รร.สตรีวิทยา กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องใหม่ที่เปิดช่องให้นักเรียนซอยผมได้  ที่เรารู้มาตลอดของการปรับเปลี่ยนกฎกระทรวงเรื่องทรงผมนักเรียน คือ การให้ไว้ผมยาวได้และเก็บรวบให้เรียบร้อย แต่ก็ถือเป็นความทุกข์เล็กๆ ของโรงเรียน เนื่องจากโรงเรียนสตรีวิทยาโดยมีวัฒนธรรมการไว้ผมสั้นอย่างยาวนานทั้งระดับ มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ถือเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน แต่เมื่อนโยบายออกมาแบบนี้เราก็ไม่ต่อต้าน ก็เข้าใจว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย ซึ่งคณะกรรมการโรงเรียน และสมาคมศิษย์เก่าได้ตกลงทำความเข้าใจร่วมกันว่าจะให้ไว้ผมยาวยาวอย่างไร และสั้นสั้นอย่างไร แต่หากเด็กคนใดประสงค์จะไว้ผมสั้นตามระเบียบเดิมก็สามารถทำได้ แต่จะไม่ให้มีการซอยผมหรือทำสีผมอย่างแน่นอน เพราะเด็กทุกคนต้องอยู่ในกรอบของระเบียบวินัย อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีเด็กของโรงเรียนประมาณ 50% ที่อนุรักษ์ไว้ผมสั้นอยู่

 

ผู้ปกครองระนองค้านแก้ระเบียบทรงผมนร.หญิง

 

                      นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการมีการแก้กฏระเบียบใหม่เกี่ยวกับทรงผมนักเรียนในหลายประการ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ปกครองและนักเรียน ที่ต่างไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับการที่กระทรวงศึกษาธิการมาเสียเวลากับเรื่องทรงผม ทั้งที่มีเรื่องปัญหาที่ทางกระทรวงศึกษาธิการควรจะให้ความสนใจ และใส่ใจมากกว่า

                      นายนิตย์ กล่าวต่อว่า ผู้ที่ออกแนวคิดอาจไม่เข้าใจสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน มัวแต่ติดตามความก้าวหน้าของโลกและคัดลอกมาใช้ในสังคมไทย ทั้งที่ไม่เคยมองดูว่าสังคมไทยมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในสถานศึกษาปัจจุบันพบว่ามาจากการที่ให้สิทธิเสรีภาพจนเกินขอบเขตจนทำให้นักเรียนไม่สนใจในกฏระเบียบที่แทบจะไม่มีอะไรที่จะใช้บังคับนักเรียนแล้ว ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ในอนาคตคงจะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย

                      ด้าน ด.ญ.ปันนิกา (ขอสงวนนามสกุล) นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนพิชัยรัตนาคาร โรงเรียนประจำจังหวัดระนอง กล่าวว่า จากการพูดคุยกับเพื่อน นร.หญิงในระดับชั้น ม.4 ทราบว่าส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการที่ทางกระทรวงฯจะอนุญาตให้ซอยผมได้ เพราะการซอยผมไม่ใช่เป็นการให้อิสระ แต่เป็นการส่งเสริมให้ นร.เข้าร้านเสริมสวย สนใจรูปร่างหน้าตามากกว่าการเรียน ดังนั้นระเบียบเดิมที่อนุญาตให้ นร.หญิงไว้ผมยาวได้ในระดับชั้น ม. 4 น่าจะเหมาะสมดีแล้ว

 

พิษณุโลก-นร.แห่ไว้ผมยาว ผอ.สำนักงานเขตย้ำต้องคำนึงถึงกฎระเบียบ

 

                      หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีประกาศใช้กฎกระทรวงเกี่ยวกับความประพฤติ การแต่งกายและแบบทรงผมของนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งในกฎกระทรวงฉบับนี้ ได้มีการกำหนดแบบทรงผมของนักเรียน ที่กำหนดให้นักเรียนต้องไว้ทรงผมแบบสุภาพเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ คือ นักเรียนชายให้ไว้ผมด้านข้างและด้านหลังยาวไม่เลยตีนผมหรือผมรองทรงก็ได้ ส่วนนักเรียนหญิงให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย ห้ามนักเรียน ดัดผม ซอยผม ทำสีผม ไว้หนวดเครา หรือทำการอื่นใดที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน

                      ในหมวด 3 ยังระบุว่า หากนักเรียนมีความจำเป็นต้องไว้ทรงผมแตกต่างจากที่กำหนดไว้เนื่องจากมีความ จำเป็นทางศาสนา ประเพณีหรือความจำเป็นอื่นใดก็ให้อยู่ในอำนาจของโรงเรียนเป็นผู้พิจารณา ทั้งนี้โรงเรียนอาจกำหนดแบบทรงผมของนักเรียนได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎ กระทรวงนี้ โดยให้รับฟังความคิดเห็นหรือทำประชาพิจารณ์จากนักเรียนและได้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการสถานศึกษา

                      ซึ่งกฎกระทรวงดังกล่าว ได้ประกาศเริ่มใช้ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 โดยบรรยากาศในช่วงเปิดภาคเรียน พบว่า นักเรียนมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในระหว่าง เลี้ยงผม เพื่อจะไว้ผมยาว โดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ซึ่งมีนักเรียนหญิงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ พบว่าประมาณ 500 คน จากทั้งหมด 3,000 กว่าคน เริ่มไว้ผมยาว แต่ก็ได้รวบมัด ติดโบว์อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ซึ่งนักเรียนทุกคนที่ไว้ผมยาวก็เต็มใจที่จะทำตามระเบียบของโรงเรียน เพื่อความสวยงามและเป็นศักดิ์ศรีแก่โรงเรียนต่อผู้ที่พบเห็น โดยบางรายผู้ปกครองมาขอทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ขอให้ลูกไว้ผมยาวเนื่องจากต้องทำกิจกรรมกับทางจังหวัดพิษณุโลก เช่น เป็นนักกีฬาประเภทต่างๆเป็นต้น

                      ด้าน ดร. สมเกียรติ บุญรอด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์) ได้กำชับไปยังโรงเรียนในสังกัด สพม.39 ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง แต่ทั้งนี้ยังต้องคำนึงถึงกฎระเบียบ และความเหมาะสม เช่น หากนักเรียนหญิงไว้ผมยาว ก็ต้องรวบมัดให้เรียบร้อย ไม่ใช่ไว้ทรงผมตามแฟชั่น