
ไปเยือนสีสันตะวันออกกับ "น้ำตาล" ปานวาด นิรันดร์กุล
เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก เป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริง เพราะคนชอบเที่ยวต่างสนับสนุนโครงการนี้ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นอย่างดี ก็ดูอย่างในทริปสีสันตะวันออก เที่ยวหลากหลายสไตล์ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี มีเซเลบริตี้คนสวยอย่าง "น้ำตาล" ปานวาด น
นัดหมายกันเช้าตรู่ของวันหยุดสุดสัปดาห์ ระหว่างที่นั่งรถไปนั้นก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุย ด้วยทั้งเจ้าตัวและทีมงานเกิดอาการยังไม่ตื่น จึงต่างของีบเก็บแรงไว้เที่ยวกันสักนิด แต่เหมือนรู้เมื่อเดินทางถึงที่แรกของนัดหมาย นั่นก็คือ ปราสาทสัจธรรม ปราสาทไม้ที่ตั้งอยู่ริมทะเลที่อลังการ ตระการตาไปด้วยประติมากรรมและลวดลายแกะสลัก นับเป็นงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแห่งศตวรรษ หลังจากน้ำตาลได้ชื่นชมไปกับความงดงามภายในปราสาทไม้หลังใหญ่ ก็ได้มีโอกาสพูดคุยซึ่งเธอแนะนำตัวให้ฟังว่า เธอจบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถมท้ายด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 และกำลังวางแผนจะศึกษาต่อปริญญาโทในเร็ววันนี้ แต่ตอนนี้ไปช่วยงานของเวิร์คพอยท์ด้านการตลาด และเจียดเวลาเพื่อสานฝันตามความชอบด้านแฟชั่น ด้วยการเปิดร้านเสื้อผ้าที่ได้ลงทุนเปิดร่วมกับเพื่อนๆ ย่านสยามสแควร์
"ส่วนตัวเป็นคนชอบกินและชอบเที่ยวในประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจคงจะเป็นทะเล เพราะติดใจในความสวยงามและบรรยากาศของท้องทะเลไทย โดยเฉพาะทะเลทางแถบภาคใต้ แปลกตรงที่ตัวเองนั้นเป็นคนชอบทะเลมาก อย่างน้อยที่สุดเดือนละครั้งจะต้องไปเที่ยวถือเป็นการพักผ่อนและเติมพลังให้แก่ตัวเอง" น้ำตาลเล่าถึงความชอบ
เธอบอกด้วยว่าการเดินทางมาพัทยาครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเป็นสถานที่ใกล้กรุงเทพฯ จึงเดินทางมาเที่ยวบ่อย และวันนี้เมื่อมาอีกครั้งก็ขอเติมพลังเต็มที่ ไม่พูดเปล่าในระหว่างที่เดินในปราสาทสัจธรรม เธอก็แวะตรงโน้นดูตรงนี้ ยิ่งเมื่อไปแวะชมโรงแกะสลักที่ตั้งอยู่ทางด้านข้างปราสาท เห็นช่างที่กำลังนั่งแกะสลักงานไม้กันอย่างตั้งอกตั้งใจ เธอก็อดไม่ได้ผนวกกับแรงยุจากผู้รวมทริป สาวคนนี้เลยไปเรียนรู้การแกะสลักกันสักนิด เป็นอีกภาพที่น่าจดจำสำหรับเธอ และก่อนกลับออกไปเธอยังกระโดดขึ้นไปนั่งรถม้าให้ได้ถ่ายรูปกันสนุกสนาน
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง ศูนย์พระมหาไถ่พัทยา ที่จัดตั้งขึ้นโดยคุณพ่อเรย์มอนด์ เบรนเนน หรือ คุณพ่อเรย์ ที่นี่มีโบสถ์คริสต์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ มีการตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะภายในโบสถ์เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสองวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวของพระเยซูให้เข้าใจง่ายๆ และลึกซึ้งผ่านจิตรกรรมฝาผนัง และนอกจากโบสถ์หลังสวยแล้ว ที่นี่ยังเป็นโรงเรียนสำหรับผู้พิการจากทั่วประเทศ ใครอยากทำบุญเลี้ยงอาหารกลางวันก็สามารถทำได้ ถือเป็นกำไรสองต่อ นอกจากชมความสวยงามของโบสถ์ยังได้โอกาสทำบุญคืนสู่สังคมไปพร้อมกัน
เพียงสองสถานที่ที่มีโอกาสไปเยือน เห็นได้ว่าเธอสนุกสนานและมีความสุขกับการเดินทางในครั้งนี้ เพราะการท่องเที่ยวของเธอนั้นนอกจากจะได้ผ่อนคลายแล้ว ประสบการณ์ที่แปลกใหม่นั่นก็ถือเป็นกำไรให้แก่ชีวิตของสาววัย 25 ปีคนนี้เช่นกัน หลังจากคุยกันจุ๊กจิ๊กเรื่อยเปื่อยรถก็พามาถึง ฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน เพอคูล่าฟาร์ม ย่านแสมสาร ที่ทำควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและสิ่งแวดล้อม และที่นี่ก็ทำให้เรารู้จักน้ำตาลมากขึ้น เมื่อเธอถูกชวนให้นั่งเรือไปให้อาหารปลาในกระชังกลางทะเล ทั้งๆ ที่ความกลัวก็มีอยู่ ว่ายน้ำก็ไม่เป็น แถมไม่ได้เตรียมตัวมาสู้แดดเปรี้ยงกลางทะเล
แต่เธอไม่ถอยพร้อมเดินหน้านั่งเรือเล็กออกทะเลทันทีเมื่อถูกชวน แต่ก็มีเสียงอ่อยๆ ให้ได้ยินเป็นระยะบ้างว่า "พี่ น้ำตาลว่ายน้ำไม่เป็นนะคะ" แต่พอได้สวมเสื้อชูชีพเท่านั้นแหละ เธอชูสองนิ้วขึ้นมาเพื่อยืนยันความมั่นใจทันที พอเรือแล่นออกไปจนถึงที่กระชังปลาความตกใจเธอก็แทบจะเบาบาง มาตกใจหน้าซีดให้เห็นกันอีกครั้งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปลาฉลาม ที่ว่ายวนเวียนอยู่ภายในกระชังอย่างน่าหวาดเสียว และเธอก็ต้องให้อาหารปลาเหล่านั้นทำเอาสาวเจ้าถึงกับเอ่ย "หนูจะเป็นอาหารให้ปลาหรือเปล่า" แต่เมื่อผ่านการให้อาหารปลาตัวแรกความกลัวหายไปกลับกลายมาเป็นความสนุกสนาน เธอกล้าจะส่งเหยื่อปลาตัวเล็กให้แก่บรรดาเพชฌฆาตแห่งท้องทะเลได้อย่างสบาย มั้ยล่ะ...สาวคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นจากภาพลักษณ์ภายนอก...
สนุกสนานกับการให้อาหารปลาและชื่นชมกับปลาการ์ตูนแสนน่ารักกันพอสมควร ก็ใกล้เวลาแดดร่มลมตกให้เดินทางไปจุดมุ่งหมายถัดไป นั่นก็คือ ตลาดน้ำสี่ภาค สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจของพัทยาเชิงอนุรักษ์ทางศิลปวัฒนธรรม ซึ่งรวบรวมความหลากหลายของคนไทยทั้งสี่ภาคไว้ด้วยกัน และที่นี่แหละที่น้ำตาลชื่นชอบเป็นอย่างมากและดูจะติดใจเป็นพิเศษ เพราะนอกจากวิถีชีวิตของคนไทยทั้งประเทศจะถูกถ่ายทอดและจำลองไว้ให้เห็นกันแล้ว ยังมีร้านค้าทั้งของกินของใช้ของฝากให้เลือกซื้อเลือกจ่ายสนุกมือตามสไตล์ผู้หญิงนั่นเอง
แล้วก็ไม่ได้ช็อปซะเพลิน เมื่อรู้ว่าตลาดน้ำสี่ภาคนี้ได้รวบรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์จำลองไว้ในพิพิธภัณฑ์หนึ่งสยาม เธอก็ไม่รี่รอถอดรองเท้าเข้าไปในพิพิธภัณฑ์กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทันที แล้วก็ไม่พลาดที่จะหยิบกระบอกเซียมซีมาเขย่าเพื่อเสี่ยงทาย แต่อันนี้เธอไม่ยอมบอกว่าขอพรเรื่องอะไร แต่เมื่อไปรับใบเซียมซีก็เห็นเธอเก็บไว้เป็นอย่างดี แสดงว่าผลเสี่ยงทายครั้งนี้ถูกใจ...ช่ายม้ายล่ะ...
เผลอแป๊บเดียวพระอาทิตย์ก็ลับตกดินถึงเวลาเดินทางกลับเมืองกรุง และต่างก็หมดแรงหลับนิ่งหลังเก็บเกี่ยวความสุข ความสนุก จนครบครันในทริปใกล้กรุงอย่างพัทยาแค่นี้เอง...
เรื่อง - ภาพ... "ชัยโรจน์ จิรายุพัฒนา"