เตือนเปิบพิสดาร"ส้มค่าง"ผิดกฎหมาย-สารพัดโรค

 นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวกรณีหน่วยลาดตระเวนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สามารถจับกุมผู้ล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ พร้อมยึดของกลางเป็นค่าง 2 ตัว พร้อมเนื้อค่างและกระดูกสับละเอียดรวม 21 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

 ทั้งนี้เนื้อค่างดังกล่าวจะถูกนำไปแปรรูปเพื่อทำเป็นส้มค่างและร้าค่าง ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทานในกลุ่มชาวบ้านที่อพยพมาจากภาคตะวันออกเฉียงหนือที่เข้ามาตั้งรกรากทำมาหากินในพื้นที่ใกล้เคียงกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้แก่ อ.ลานสัก อ.ห้วยคต และ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี อ.แม่วงก์ กิ่ง อ.แม่เปิน และ กิ่ง อ.ชุมตาบง จ.นครสวรรค์

 “ที่ผ่านมาเราพบว่ายังมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการบริโภคสัตว์ป่าอยู่อย่างมาก โดยเฉพาะคิดว่าเป็นยาบำรุง ในกรณีของค่างนี้จะพบอยู่ในบางพื้นที่ใกล้เคียงกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่มีค่างแว่นถิ่นเหนืออยู่จำนวนมาก นอกจากที่จะคิดว่าเป็นยาบำรุง รักษาโรคแล้ว ยังเป็นอาหารท้องถิ่นโดยนำเนื้อค่างมาทำเป็นส้มหรือแหนม ซึ่งเมนูนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นมา แต่ทำกันมานานแล้ว หากไปตามตลาดเช้าจะพบว่ามีวางขายอยู่ในราคากิโลกรัมละ 300 บาท นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่ามีคนเคยพบว่ามีการนำเนื้อหมีมาทำเช่นเดียวกันอีกด้วย” นายเกษมสันต์ กล่าว

 นายเกษมสันต์ กล่าวด้วยว่า อยากเตือนนักบริโภคอาหารจากสัตว์ป่า โดยเฉพาะค่าง โดยโรคที่เกิดจากค่าง อาทิ เริม พิษสุนัขบ้า โรคจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย รวมไปถึงทำให้เกิดอาการท้องร่วงท้องเสียด้วย ที่สำคัญการล่าค่างถือว่าผิดกฎหมาย

 “อยากจะชี้แจงให้ประชาชนเห็นถึงอันตรายของการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าและส้มค่าง หรือส้มหมี ก็หนึ่งในอีกหลายเมนูสัตว์ป่าที่ถือว่าผิดกฎหมายและอยากรณรงค์ให้กลุ่มที่ยังชอบบริโภคเมนูสัตว์ป่าเหล่านี้เปลี่ยนค่านิยมใหม่ได้แล้ว เพราะมันไม่ได้เป็นผลดีอย่างที่คิดกัน แทนที่จะอายุยืน ก็อาจจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วกว่าเดิม หรืออาจจะมีสมรรถภาพทางเพศเสื่อมลง แทนที่จะปึ๋งปั๋งกว่าเดิมก็เป็นได้” นายเกษมสันต์ กล่าว